ในยุคที่ทุก ๆ คนสามารถที่จะซื้อกล้องมาเป็นของตัวเองได้ถ้าอยากจะทำอาชีพช่างภาพต้องมีอะไรบ้าง ? อาชีพช่างภาพนั้นเป็นความฝันของใครหลายคนที่ชื่นชอบในเรื่องของการถ่ายภาพแน่นอนครับ เพราะถ้าได้ทำในสิ่งที่รัก และ สิ่งเหล่านั้นสามารถทำเงินให้กับเราได้มันก็คงเป็นอะไรที่ดีสุด ๆ ไปเลย แต่ในยุคสมัยปัจจุบัน หลายสิ่งเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงไป มีกล้องมากมายหลายรุ่นที่ผลิตออกมา ราคาก็อยู่ในระดับที่คนทั่วไปแตะต้องได้มากขึ้น และ เทคโนโลยีก็เข้ามามีส่วนในการใช้งานกล้องเพิ่มขึ้น- การใช้งานที่ง่าย- ไม่ต้องตั้งค่าอะไรให้ยุ่งยาก- ทุกอย่างเป็นระบบอัตโนมัติ ทำให้คนเริ่มที่จะมีกล้องเป็นของตัวเองกันไปหมดแล้ว คำถามจึงมาตกอยู่ที่คนที่รับอาชีพเป็นช่างภาพ ที่จะทำยังไงถึงจะดำเนินอาชีพนี้ต่อไปได้ ? และ คนที่ยังอยากจะเป็นช่างภาพในอนาคต มีอะไรบ้างที่ต้องรู้ ? วันนี้ผมจะกล่าวถึงเรื่องเหล่านี้ครับ 1. ต้องมีทักษะในการถ่ายวีดีโอ ทักษะการถ่ายรูปนั้นยังสามารถที่จะใช้เทคโนโลยีอัตโนมัติจากกล้องช่วยได้บ้าง แต่เรื่องการถ่ายวีดีโอนั้น ยุ่งยากและซับซ้อนกว่านั้นมากระดับหนึ่งเลยทีเดียว ทำให้การที่จะถ่ายวีดีโอ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ หนังสั้น คลิปลงยูทูปต่าง ๆ ก็ยังจำเป็นจะต้องใช้ทักษะและความสามารถส่วนตัวอยู่พอสมควรครับ เพราะฉะนั้นคนที่ยังอยากจะเป็นช่างภาพ งานในวงการวีดีโอ วงการภาพยนตร์ก็ยังคงเป็นงานที่ยังจะดำเนินต่อไปได้ในอนาคตอย่างแน่นอนครับ เพราะไม่ว่าจะเป็นสื่อโฆษณา หรือ ภาพยนตร์ต่าง ๆ ก็ต้องใช้คนถ่ายวีดีโอทั้งนั้น ยิ่งในขณะที่คนเริ่มมีอินเทอร์เน็ตใช้ด้วยความเร็วที่มากขึ้นเรื่อย ๆ Youtube , Netflix หรือ ช่องทางต่าง ๆ เหล่านี้ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ซึ่งล้วนแต่เป็นช่องทางที่คนทำงานวีดีโอสามารถที่จะหางานจากช่องทางเหล่านี้ได้นั่นเองครับ 2. ต้องสามารถจบงานได้ด้วยตัวเอง ทั้งถ่าย ทั้งตัดต่อ เชื่อมโยงกับข้อแรกครับ หลังจากที่เราถ่ายงานมาเรียบร้อย ก็เข้าสู่กระบวนการในการตัดต่อ เรียบเรียงต่าง ๆ ซึ่งมีความยาก ง่าย เป็นระดับ ๆ ไป แน่นอนว่านี่ก็เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญในการที่จะทำให้เรายึดพื้นที่ของอาชีพช่างภาพต่อไปได้ เพราะการที่เราสามารถจบงานได้ด้วยตัวเอง ทำให้เราเปิดรับลูกค้า หรือ คนที่จะว่าจ้างเราได้มากขึ้น และอีกอย่างคือ ถ้าคนถ่าย และ คนตัดต่อเป็นคนเดียวกัน ง่ายจะออกมาดีกว่า และ ง่ายขึ้นในระดับหนึ่งเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นการมีทักษะในเรื่องของการใช้งานโปรแกรมตัดต่อซึ่งมีให้เลือกใช้มากมายเช่น Adobe premier pro , Sony Vegas หรือ โปรแกรมฟรีที่มากความสามารถอย่าง Davinci Resolve ก็เป็นสิ่งที่จะต้องเรียนรู้ไว้ ยิ่งถ้าใช้ได้อย่างคล่องแคล่วก็จะเป็นการดีอย่างมากเลยครับ เพราะนั้นหมายถึงเราจะจบงานได้เร็วขึ้น และ มีเวลาทำงานชิ้นต่อไปมากขึ้นนั่นเอง 3. หาสไตล์ของตัวเองให้เจอ ข้อนี้เองก็เป็นข้อที่สำคัญมาก ๆ เช่นกันครับ การหาสไตล์ที่ตัวเองชื่นชอบในการถ่ายภาพ เพื่อที่เราจะสามารถสร้างผลงานของตัวเองได้อย่างชัดเจน เหตุผลก็เพราะว่า ในอนาคตถ้าผู้คนยังจะจ้างช่างภาพอยู่ ก็ต้องเป็นเพราะเขาชอบสไตล์การถ่ายของช่างภาพคนนั้น ๆ ไม่ใช่แค่เพราะอยากมีภาพเก็บไว้ดูเท่านั้นอีกต่อไป เพราะถ้าต้องการแค่มีภาพเก็บไว้ดู ทุกวันนี้โทรศัพท์มือถือทำหน้าที่เหล่านั้นได้ดี และ รวดเร็วกว่ามากเลยครับ ที่สำคัญไม่ต้องเสียตังค์เพิ่มด้วย ด้วยเหตุผลนี้เองทำให้คนที่อยากจะเป็นช่างภาพจึงต้องพยายามมองหาทางของตัวเองให้เจอ ว่าตัวเองชอบถ่ายแนวนี้ แบบนี้ และเมื่อมีคนชอบในงาน ในสไตล์ของเราก็จะมีคนเสนองานมาให้กับเราเองแน่นอนครับ คำแนะนำในการที่จะหาสไตล์ของตัวเองให้เจอเร็ว ๆ นั้คือการลองถ่ายทุกอย่างเลยครับ แล้วมาดูว่า อะไรคือสิ่งที่เราถ่ายได้โดยไม่ต้องฝืนใจตัวเอง ? นั่นอาจจะเป็นทางที่เราชอบที่สุดก็ได้ครับ 4. เลือกอุปกรณ์ให้เป็น การเลือกอุปกรณ์สำคัญอย่างไร ? ต้องตอบสำคัญมากทีเดียวครับ โดยเฉพาะในยุคสมัยที่เทคโนโลยีก้าวกระโดดไปอย่างรวดเร็วแบบนี้ อาจจะทำให้กล้องที่เรามีนั้นเทคโนโลยีไม่รองรับกับยุคสมัย หรือ ตกรุ่นไปอย่างรวดเร็วเลยครับ แต่ก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นไปซะทีเดียวครับ เราจึงต้องฉลาดในการที่จะเลือกอุปกรณ์คู่กายของเรา โดยพื้นฐานแล้ว ถ้าเป็นกล้องก็ต้องรองรับ 4K ไว้ก่อนก็จะดีครับ แต่ถ้าไม่มีงบถึงขนาดนั้นจริง ๆ อย่างต่ำที่สุด ก็ต้องได้ระดับ Full HD ครับ ถึงจะเพียงพอต่อการใช้งาน ซึ่งในปัจจุบันเอง ถ้าสเปคเหล่านี้ มีตั้งแต่ราคา หนึ่งหมื่นปลาย ๆ ไล่ขึ้นไปจนถึงระดับแสนบาทเลยครับ ( ตัวอย่างเช่น Fuji xt30 , Canon Eos RP , Sony A6600 , Lumix G9 , Nikon Z50 ) และ ที่สำคัญถ้ามี Wifi หรือ บลูทูธที่สามารถรับส่งรูปภาพได้ทันทีก็จะดีมาก ๆ ครับ เพราะจะทำให้เราประหยัดเวลาในการทำงานมากขึ้น และทำให้เราสามารถทำงานนอกสถานที่ได้โดยไม่จำเป็นต้องไปทำที่บ้านอย่างเดียวก็ได้ครับ และ ที่ขาดไม่ได้ก็คือ คอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการตัดต่อ ในการทำงาน ก็ต้องรองรับต่อเทคโนโลยีเหล่านั้นด้วยเช่นเดียวกันครับ โดยเราต้องดูที่ ระบบปฏิบัติการณ์ , แรม และ การ์ดจอ เป็นหลักครับ โดยระบบพื้นฐานที่ผมแนะก็จะเป็น CPU I5 ขึ้นไป , แรม 8 GB ขึ้นไป และ การ์ดจอ Geforce 940mx ขึ้นไปครับ ถึงจะเพียงพอและทำงานได้ในอนาคต 5. ใช้สื่อโฆษณาให้เป็น ช่องทางในการโปรโมทตัวเองนั้น ปัจจุบันอยู่ในระบบออนไลน์เกือบทั้งหมด เพราะฉะนั้นการที่สามารถใช้สื่อออนไลน์ได้นั้น ก็จะเป็นช่องทางในการที่จะสามารถส่งผลงานของตัวเองออกไปให้คนได้เห็นมากยิ่งขึ้นไปอีกครับ โดยเฉพาะถ้าลงทุนเสียเงินโฆษณากับสื่อโซเชี่ยลต่าง ๆ ก็จะทำให้คนเห็นผลงานของเราเป็นจำนวนมากมายทีเดียวครับ ที่สำคัญเราเลือกได้ด้วยว่าจะให้คนเห็นคือคนกลุ่มไหน ? หรืออยู่บริเวณไหน ? ทำให้เราเจาะกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุดนั่นเองครับ สุดท้ายนี้ อยากจะบอกว่าถึงแม้ในอนาคตอาชีพนี้อาจจะยากขึ้นมากในการที่จะยืนตำแหน่งในการที่จะมีรายได้ เป็นอาชีพหลัก แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นไปไม่ได้เลยครับ สิ่งที่สำคัญคือการตั้งใจ และ จริงจังกับมัน แล้วมันจะส่งผลให้งานของเราออกมาดีแน่นอนครับ เครดิตรูปภาพ ภาพหน้าปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5