สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน วันนี้เราจะมารีวิวหนังสือเล่มหนึ่งที่ไม่ธรรมดา มีนามว่า "อยู่อย่างไรให้สมองไม่แก่" เป็นหนังสือที่เราหยิบขึ้นมาและแสกนผ่านสายตาแค่ชื่อหน้าปก ในใจเราคิดว่า มันคงจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการป้องกันอัลไซเมอร์แหละกระมั่ง เมื่อเราได้พลิกหนังสือไปอ่านปกหลัง เราค้นพบอะไรบางอย่างที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่คิดเลยล่ะค่ะ: พูดจาไม่รู้เรื่อง: อ่านหนังสือไม่ค่อยเข้าหัว: ขี้ลืม : วอกแวกง่าย: ขี้หงุดหงิด ขี้รำคาญ: เบื่อง่าย ขาดความกระตือรือร้น ปัญหาเหล่านี้ คุณอาจกำลังเผชิญกับอาการ " สมองแก่ "พบกับเคล็ดลับฟื้นฟูความเยาว์วัยของสมอง พฤติกรรมง่ายๆแค่ 15 อย่างไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ส่งตรงจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมองชื่อดังของญี่ปุ่นเท่านั้นแหละ เรารีบเปิดอ่านสารบัญ และเนื้อหาคร่าว ๆ ในหนังสือ จนกระทั่งเรารู้สึกว่า เราต้องซื้อแล้วแหละ ถ้าไม่ซื้อมันกลับบ้าน คงเสียดายแย่เลย หนังสือ 'อยู่อย่างไรให้สมองไม่แก่' เป็นหนังสือด้านการพัฒนาตนเอง และเป็นหนังสือที่เหมาะแก่ผู้ที่มีปัญหาทางด้านการคิด การพูดต่าง ๆ เช่น คิดช้า สมองไม่แล่น ทำงานช้า พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง หนังสือนี้จะบอกเคล็ดลับต่าง ๆ ที่สามารถแก้อาการเหล่านั้นได้อย่างน่าฉงน ฝึกทำได้ง่าย ๆ แค่เริ่มจากสิ่งใกล้ตัว สำหรับในหนังสือเล่มนี้ จะแบ่งแยกพฤติกรรมออกเป็นส่วนๆ สำหรับการนำไปปรับใช้ให้ตรงจุดกับปัญหาต่างๆ ที่แต่ละคนประสบ ขอยกตัวอย่างบทที่น่าสนใจและน่านำเสนอเป็นอย่างยิ่ง พฤติกรรมที่ 1-3 สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีสมาธิหรือทำงานเสร็จช้า บทนี้น่าสนใจตรงที่เขาใส่ใจกับการตื่นนอนตอนเช้า เป็นการจัดระเบียบชีวิตใหม่ เขาเรียกว่า "การอุ่นเครื่อง" นอกจากการตื่นนอนที่ต้องตื่นตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้ว ยังมีการแนะนำให้ออกกำลังกายเบา ๆ หรือเดินคุยกับเพื่อนบ้าน ทักทายกัน สมองปลอดโปร่งได้สูดอากาศยามเช้าที่แสนบริสุทธิ์ ให้หู ตา ปาก เท้า มือและสมองได้ทำงานอารมณ์เหมือนรีเซ็ตเครื่องก่อนการใช้งาน สมองก็จะตื่นตัวพร้อมกับการทำงานในวันนั้น ๆ การทำงานของเราก็จะมีสมาธิเพิ่มมากขึ้น และบทนี้ได้ให้ความสำคัญกับการนอนหลับในตอนกลางคืนอีกด้วย คือง่าย ๆ พยายามอย่านอนดึก ควรนอนให้เพียงพอ แต่ไม่ควรนอนมากเกินไป พฤติกรรมนอนดึกตื่นสาย เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำอย่างเด็ดขาด พฤติกรรมที่ 4-6 สำหรับคนที่ไม่กระตือรือร้นในการทำงานหรือคนที่ควบคุมพฤติกรรมตัวเองไม่ได้ อันนี้ไม่ใช่หมายถึง คนบ้าน่ะ ที่ควบคุมพฤติกรรมของตนเองไม่ได้ แต่หมายถึงว่า การคุมอารมณ์โกรธ โมโห อิจฉา อื่น ๆ เป็นต้น ในขณะที่เราประสบปัญหาต่าง ๆ หรือเรียกง่าย ๆ ว่า การฝึกให้ตนเองมีความฉลาดทางด้าน EQ หรือความฉลาดทางอารมณ์ให้มาก ๆ เพื่อเป็นการฝึกให้สมองกลีบหน้าอึดทนมากยิ่งขึ้น และตบท้ายด้วยการเสนอวิธีให้จัดการระเบียบความคิดของตัวเองด้วยการจัดของบนโต๊ะทำงาน ยิ่งงานวุ่นมากแค่ไหน ยิ่งต้องจัดตกทำงานให้เรียบร้อยมากขึ้นเท่านั้น พฤติกรรมที่ 7-8 สำหรับคนที่ตอบกลับช้าเมื่อต้องพูดคุยกับคนอื่นหรือเป็นคนขี้ลืม บทนี้จะพูดถึงการฝึกทักษะการฟังโดยใช้ใจในการฟังล้วน ๆ เช่น การฟัง Podcast ต่าง ๆ ตามด้วยการฝึกความจำด้วยการส่งต่อข้อมูลให้ผู้อื่นฟังให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ บทนี้น่าสนใจน่ะ เพราะถ้าลองเปรียบเทียบดูตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เรามักใช้โซเชียลต่าง ๆ ไปกับการรับชมพร้อมๆ กับการฟัง แล้วถ้าเราลองรับฟังอย่างเดียวโดยไม่ได้รับชม เราจะสามารถมีสติ สมาธิไปกับการฟังหรือไม่และสามารถทำได้มากน้อยแค่ไหน น่าท้าทายจริง ๆ สำหรับใครที่ยังไม่ลอง จบบทนี้ลองเลยค่ะ ยกตัวอย่างเนื้อหาในหนังสือคร่าว ๆ" การลดเวลานอน ก็คือ การลดเวลาที่สมองจะได้จัดเก็บข้อมูลความทรงจำและจัดระเบียบความคิด"" คนขี้ลืมหรือเรียบเรียงความคิดไม่เก่งจึงมักเป็นคนที่นอนไม่พอ "" สมองกลีบหน้าถ้าหมดแรง นั่นคือ จะทำตามอารมณ์ความรู้สึกมากกว่าเหตุผล" หนังสือเล่มนี้เหมาะแก่ผู้ที่ต้องการฝึกทักษะการพูด การคิด การทำงาน ซึ่งหมายถึง การทำงานของสมอง นอกจากหนังสือเล่มนี้จะเป็นยารักษาอาการที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังมีเกมส์ท้ายบทที่ชวนให้กระตุ้นสมองได้อย่างน่าตื่นเต้น เป็นการรีเฟสสมองก่อนการลงมือปฏิบัติจริง หนังสือเล่มนี้อ่านง่าย เข้าใจง่าย ใช้ภาษาง่าย ๆ เอาเป็นว่าถ้าผู้อ่านได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว รับรองติดใจจนอยากเก็บมันไว้ไม่ให้หายไปไหนเลยล่ะค่ะสามารถกดเข้าไปสั่งซื้อได้ที่นี่ คลิ๊กเลย! รูปภาพที่ 1, 3 และ 4 โดย Minimoto., รูปภาพที่ 2 จาก Pixabay.com