มีเรื่องจะมาเล่าให้ฟังสด ๆ ร้อน ๆ เลยทีเดียว เมื่อเช้านี้เอง ตอนกำลังเรียน “ไปเข้าห้องแปปนึง เดี๋ยวมา” เพื่อนผมพูดด้วยท่าทางเร่งรีบ ไม่ทันไรก็ได้ยินเสียงโวยวายอยู่ด้านนอกของห้อง ผมกับเพื่อนอีกหลายคนไปรีบบึ่งไปดูอย่างรวดเร็ว ปรากฏว่า ไอ้เจ้าเพื่อนคนที่ออกไปเข้าห้องน้ำเมื่อกี้ เกิดอาการหน้ามืด ล้มพับ และมีอาการชัก ตัวงอเลยทีเดียว พวกผมนี่ตกใจกันยกใหญ่ กำลังจะเรียกรถพยาบาลอยู่พอดี แต่แล้วมันก็ได้สติ แล้วก็ลุกขึ้นมานั่ง คราวนี้ก็เลยต้องมีการถามไถ่อาการกันหน่อยละ “มึงเป็นไรวะเมื่อกี้ ตกใจกันหมด” พวกผมถามแทบจะเป็นเสียงเดียวกัน “ไม่รู้ว่ะ อยู่ ๆ ก็เหมือนจอดับไปเลย ตอนที่มีคนเรียก ก็หูอื้อไปเลย ดีนะจับราวไว้ได้ก่อน ไม่งั้นหัวลงแน่” จากอาการ ถ้าให้ผมคาดเดาละก็ คงต้องเกิดจากการที่ไอ้เพื่อนคนนี้ มันไม่สู้จะแข็งแรงดีนัก วันนี้เนี่ยผมก็เลยอยากจะมาเล่าถึงวิธีที่จะทำให้เรา ๆ ลดความเสี่ยในการเจอกับเหตุการณ์แบบนี้กัน ขอบคุณภาพปกจาก Canva.com 1. พักผ่อนให้เพียงพอ Photo by Ivan Oboleninov from Pexels นี่เป็นปัจจัยหลักเลยทีเดียว เพื่อนผมคนนี้เนี่ย เป็นคนนอนไม่เป็นเวลา นอนตี 4 ตื่น 7 โมงบ้าง เพราะมีเรียนตอนเช้าเป็นซะส่วนใหญ่ หรือบางวันอาจจะไม่มีเรียน แต่ก็นอนดึกตื่นเช้าเหมือนเดิม อันนี้ไม่ได้ถามเหตุผลของมันเหมือนกัน แต่จริง ๆ แล้วเนี่ย คนเราควรจะพักผ่อนให้ได้วันละ 7-9 ชั่วโมง หรือถ้าน้อยกว่านั้นควรจะเป็นการหลับให้ลึก เพื่อที่ตื่นมาจะได้พบกับเช้าอันสดชื่น และพร้อมที่จะลุยงาน หรือการเรียน 2. ดื่มน้ำให้เพียงพอ Photo by Pixabay น้ำเนี่ย ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของร่างกายเราเท่านั้น แต่มันยังเป็นส่วนใหญ่ของร่างกายเราเลยทีเดียว ในร่างกายของเรามีน้ำประกอบไปกว่า 60-70 เปอร์เซ็นต์ แปลว่าการที่เราจะขาดน้ำเยอะ ๆ เป็นเวลานาน ๆ แล้วเนี่ย ร่างกายเราย่อมไม่ปกติเป็นแน่ มีคำแนะนำมากมายจากทางการแพทย์ ว่าเราควรจะดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 2-3 ลิตร (รวมน้ำที่ได้จากอาหารต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นผัก หรือผลไม้) ยิ่งผู้มีที่อายุมากขึ้นไป กลไกลการกระหายน้ำจะต้องเสื่อมลง ทำให้ความรู้สึกกระหายลดลง ยิ่งต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ และอย่าลืมอีกกรณี ก็คือ ในวันที่อากาศร้อน ถึงร้อนจัด ๆ ยิ่งต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก 3. ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ Photo by Maarten van den Heuvel from Pexels ช่วง 2-3 อาทิตย์ที่ผ่านมาเนี่ย ผมเริ่มจะกลับมาออกกำลังกายแล้วละ หลังจากที่ไม่ออกเลย เป็นเวลากว่าครึ่งปี จะไม่อ้างหรอกว่าเพราะอะไร มีอย่างเดียวที่ทำให้ไม่ได้ออก ก็คือ วินัยในตัวเองนี่แหละครับ การออกกำลังกาย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าดีสุด ๆ มันไม่ได้ทำให้แค่เรามีสัดส่วนที่สวยงาม หรือก้นที่เต่งตรึงเพียงเท่านั้น แต่มันยังทำให้ระบบภายในร่างกายของเราแข็งแรงด้วย โดยเฉพาะหัวใจ ที่การออกกำลังกายจะช่วยให้เลือดสูบฉีดได้ดีขึ้น ไหลเวียนได้ดีขึ้น หัวใจเราก็จะแข็งแรงมากขึ้น ทำให้ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ ได้มากพอตัวเลย 4. เพิ่มของดี ลดของที่ไม่ดี Photo by Pixabay เพิ่มของที่ดีให้กับตัวคุณเอง ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหารให้ครบห้าหมู่ เช่นการเพิ่มผัก ผลไม้ เข้าไปในเมนูต่าง ๆ ในแต่ละช่วงเวลาของแต่ละวัน เพิ่มความหลากหลายให้กับมื้ออาหาร ซึ่งเข้าใจนะครับ ว่าสำหรับบางคนนั้น อาจจะเป็นเรื่องยากเลยทีเดียว แต่ผมเชื่อว่าถ้าเราตั้งใจจะทำ ยังไงมันจะสำเร็จแน่นอน และที่ยากกว่าการเพิ่มของดี ๆ ก็คือการ ลดของไม่ดี นั่นเอง หลายคนนั้นสามารถที่จะทำสามข้อข้างบนได้อย่างไม่ติดขัด แต่ว่ามักจะตกม้าตายในการลดเลิกของไม่ดี ไม่ว่าจะเป็น เหล้า บุหรี่ หรือของที่มีไขมันเยอะเกินไป ของเหล่านี้ล้วนแต่ก่อให้เกิดผลเสียกับร่างกายเราทั้งสิ้น การทำดีนั้นไม่ยาก แต่การจะห้ามไม่ให้ทำไม่ดีนั้นยากเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการทำไม่ดีกับตัวเอง เราต่างบอกตัวเองว่า เรารักตัวเองกันมากแค่ไหน แต่การพูดนั้นก็ทำง่ายกว่าการทำเป็นอย่างมาก ผมหวังว่าทุกคนจะเอาชนะใจตัวเอง และเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้นกันนะครับ