ผู้นำ คือบุคคลที่นำความคิด การกระทำของผู้อื่นได้ สามารถทำให้ผู้อื่นปฏิบัติตามและเกิดความเชื่อ ด้วยความเต็มใจแม้ไม่ต้องเอ่ยปากร้องขอหรือสั่งการ เพราะฉะนั้นผู้นำกับหัวหน้างานจึงมีความแตกต่างกันค่ะ หัวหน้างานคือผู้บังคับบัญชา หรือผู้ที่มีตำแหน่งสูงกว่าเรา มีอำนาจตัดสินใจหรือสั่งการใดๆให้ผู้ใต้บังคับบัญชาหรือเรียกว่าลูกน้องปฏิบัติตาม และลูกน้องเองมีหน้าที่ทำตามคำสั่งไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม ในปัจจุบันเห็นหลายๆองค์กรเรียกหัวหน้าว่าผู้นำซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไรเพียงแต่จะเรียกว่าผู้นำเต็มปากไม่ได้ถ้าหากคุณยังมีนิสัยแบบนี้1. รับผิดไม่รับชอบ อย่าให้คำกล่าวที่ว่างานของหัวหน้าก็คืองานของลูกน้อง ส่วนงานของลูกน้องก็คืองานของลูกน้อง ในเรื่องของการทำงานไม่ว่าเรื่องใดๆที่เป็นความผิดพลาดของลูกน้อง เรื่องนั้นคือความรับผิดชอบของหัวหน้า เราจะสังเกตได้ว่าถ้าคนเป็นผู้นำจะกล่าวคำขอโทษรับผิดก่อนเสมอเมื่องานนั้นผิดพลาดโดยไม่ปัดว่างานนี้เป็นความผิดพลาดของลูกน้อง แต่คุณจงเชื่อเถอะว่าหากคุณมีลูกน้องที่ดีแล้ว เขาจะจดจำและตั้งใจแก้ไขทำงานให้ดีขึ้นเพื่อคุณแน่นอนจับผิดเห็นแต่ข้อผิดพลาดมากกว่าข้อดี หัวหน้างานมีอำนาจในการกล่าวติเตือนลูกน้องในเรื่องการทำงานแม้ว่าเพียงเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่ผู้นำจะมองข้ามข้อผิดพลาดจุดเล็กน้อยนั้นไปและไปชื่นชมภาพใหญ่ในสิ่งที่เขาทำได้ดีอย่างจริงใจ เพราะผู้นำจะรู้ว่าการชื่นชมและให้กำลังใจมีประโยชน์ในการพัฒนามากกว่าการกล่าวติเตือนข้อผิดพลาด2. จับผิดเห็นแต่ข้อผิดพลาดมากกว่าข้อดี หัวหน้างานมีอำนาจในการกล่าวติเตือนลูกน้องในเรื่องการทำงานแม้ว่าเพียงเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่ผู้นำจะมองข้ามข้อผิดพลาดจุดเล็กน้อยนั้นไปและไปชื่นชมภาพใหญ่ในสิ่งที่เขาทำได้ดีอย่างจริงใจ เพราะผู้นำจะรู้ว่าการชื่นชมและให้กำลังใจมีประโยชน์ในการพัฒนามากกว่าการกล่าวติเตือนข้อผิดพลาด3.โลเลไม่หนักแน่น การตัดสินใจของผู้นำนั้นสำคัญกับทีมเสมอ ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเกี่ยวกับลูกน้องหรือไม่ แต่เขาสามารถสัมผัสได้ถึงการไม่มั่นคงถ้าหากว่าการตัดสินใจมีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยๆ จะทำอะไรก็ต้องคอยดูอารมณ์ อันนี้ส่งผลกระทบในภาพใหญ่ของทีมเลยแหละ เพราะจะทำให้ลูกน้องหรือผู้ตามไม่มีความเชื่อมั่นและไม่เป็นตัวเองเนื่องจากต้องคอยดูและปรับตัวให้เข้ากับอารมณ์ของหัวหน้า ส่งผลให้ไม่มีความสุขในการทำงานในระยะยาวได้4. เลือกที่รักมักที่ชัง ผู้นำจะไม่มีนิสัยแบบนี้นะคะ เขาจะบริหารลูกน้องภายใต้ความเสมอภาคทุกคนและสามารถแบ่งแยกออกว่าเรื่องไหนคือเรื่องงาน และเรื่องไหนคือความชอบส่วนตัว ผิดว่าไปตามผิดและถูกก็ต้องได้รับคำชื่นชม สิ่งนี้จะช่วยให้ทีมงานยังสามารถทำงานร่วมกันได้ถึงแม้ว่าจะมีความไม่ชอบกันก็ตามเพราะทุกคนจะมุ่งไปเรื่องของงานและเชื่อว่าเขาจะได้รับการตัดสินและการปฏิบัติที่ยุติธรรมเสมอ5. บั่นทอนกำลังใจ ข้อนี้สำคัญมากเพราะนอกจากจะไม่สร้างกำลังใจแล้ว ยังบั่นทอนพลังของลูกน้องที่มีให้ลดน้อยลงด้วย เช่นการใช้คำพูด ท่าทาง กิริยา หรือการไม่ใส่ใจในงานที่ลูกน้องได้นำเสนอ คนที่เป็นผู้นำเขาจะยินดีรับฟังด้วยความตั้งใจเมื่อลูกน้องนำเสนองาน ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่านั่นยังไม่ใช่ หรือยังไม่ถูกต้องก็ตาม เขาจะพิจารณาและมองเห็นถึงความพยายามอันนั้นถึงแม้ว่าที่สุดแล้วเขาจะปฏิเสธก็ตาม แต่มันกลับยิ่งเพิ่มพลังและความพยายามให้กับของลูกน้องที่จะทำให้ผลงานชิ้นนั้นให้ดีขึ้นอีก มีหนังสือหลายเล่มที่บอกว่าผู้นำนั้นเขาไม่จำเป็นต้องเก่งทุกเรื่อง แต่เขามักจะมีลูกน้องที่เก่งและภักดี ไว้ข้างกายเสมอ และนี่ก็เป็นลักษณะนิสัยที่เราจะไม่เห็นกับคนที่เป็นผู้นำอย่างแน่นอน และคนที่เป็นผู้นำนั้นเราจะเชื่อและศรัทธาเขาด้วยใจ เราจะมีพลังบวกพร้อมที่จะทำตาม โดยที่เขาไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลย เราจะมีเขาเป็นต้นแบบในการใช้ชีวิต เพราะฉะนั้นการเป็นหัวหน้านั้นง่ายมาก แต่การเป็นผู้นำไม่ใช่ใครก็จะเป็นได้ เครดิตภาพ:หน้าปก โดย Pixabay / pexelsภาพที่ 1 โดย RODNAE Productions / pexelsภาพที่ 2 โดย Christina Morillo / pexelsภาพที่ 3 โดย Miguel Á. Padriñán / pexelsเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี