เชื่อว่าหลายคนคงชื่นชอบการนอนคลุมโปงเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เช่น ช่วยแก้ปัญหาอาการนอนหลับยาก ป้องกันแสงรบกวน หนีอากาศหนาวเย็น หรือแม้กระทั้งกลัวผี !! เหตุผลเหล่านี้คือส่วนหนึ่งที่ทำให้หลายคนนอนคลุมโปง ซึ่งก็ดูจะสามารถตอบโจทย์แก้ปัญหาให้พวกเราได้ดีจริงอยู่ว่าการนอนคลุมโปงนั้นช่วยให้เรานอนหลับได้สบายๆ แต่สิ่งที่เรากำลังทำนั้นกลับมีบางอย่างผิดพลาดอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะการนอนคลุมโปงคือพฤติกรรมสยองขวัญที่พวกเรากำลังทำร้ายร่างกายอย่างช้าๆ โดยไม่รู้ตัวเนื่องจากการคลุมโปงเป็นการหลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมภายนอก แต่สาเหตุที่เราหลับลงนั้นเป็นเพราะร่างกายกำลังรู้สึกอ่อนเพลียอย่างหนักเนื่องจากอากาศไม่ถ่ายเท ส่งผลให้ร่างกายรู้สึกไม่สดชื่น ปวดหัว ถึงจะนอนหลับครบตามเวลาพื้นฐานก็ยังรู้สึกเหมือนนอนไม่เพียงพอ ซึ่งในระยะยาวจะส่งผลร้ายแรงต่อสมอง จนถึงขั้นทำให้เกิดโรคสมองเสื่อมได้หากเสพติดพฤติกรรมนอนคลุมโปงเป็นประจำสาเหตุทางวิทยาศาสตร์ ?เวลาที่เรานอนคลุมโปง จะเป็นการปิดช่องระบายอากาศโดยรอบตัวทั้งหมด ทำให้อากาศไม่ถ่ายเทจึงไม่สามารถรับอ๊อกซิเจน (O2) จากภายนอกเข้ามาได้ ดังนั้นเวลาเราหายใจเข้า - ออกใต้ผ้าห่ม จะเป็นการปล่อยก๊าสคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) ออกมารอบตัว จากนั้นเราก็สูดมันกลับเข้าไปในรางกายไปเหมือนเดิมทำให้ปริมาณแก๊สอ๊อกซิเจน (O2) ที่จะถูกลำเลียงเข้าไปเลี้ยงสมองมีปริมาณลดน้อยลง เป็นอันตรายต่อผู้ที่มีโรคประจำตัว ผู้สูงอายุร่างกายอ่อนแอ และเหล่าเด็กน้อยที่กำลังอยู่ในช่วงวัยกำลังเรียนรู้วิธีแก้ปัญหาหากจะพูดง่ายๆ คือยกเลิกการนอนคลุมโปงถาวร แต่ถ้าหากต้องการป้องกันแสงสว่างรบกวน แนะนำให้หาซื้อผ้าปิดตามาคลุมปิดเฉพาะบริเวณดวงตาเท่านั้น ให้เหลือช่องว่างบริเวณจมูกเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ปรับอุณหภูมิในห้องให้เหมาะสม ส่วนเรื่องหนีผีอันนี้เราก็จนปัญญา แต่ก็ขอแนะนำให้สวดมนต์ก่อนนอนแล้วทำใจสบายๆส่วนตัวผู้เขียนเคยติดนอนคลุมโปงมากๆ โดยเฉพาะสมัยที่ต้องอยู่ร่วมห้องกับคนอื่นๆ ตัวอย่างเช่นตอนเรียนมหาวิทยาลัยที่ต้องอาศัยอยู่ในหอพักที่มักจะนอนไม่ตรงเวลากับเพื่อน ทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับจากแสงไฟห้องที่ส่องหน้า ตัวผู้เขียนจะใช้มุ้งกันยุงครอบที่เตียงและใช้ผ้าบางๆ สีทึบคลุมบริเวณด้านบนมุ้งเพื่อบดบังแสง แต่จะไม่ได้คลุมไปเสียทั้งหมด ( มิเช่นนั้นจะเข้าข่ายนอนคลุมโปงอยู่ดี ) ยิ่งถ้าหากเปิดพัดลมเป่าบางๆ บริเวณปลายเท้าเสริมด้วย ก็จะช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดีมากยิ่งขึ้น หลับสบายหายหวงไม่ต้องง้อเพื่อนร่วมห้องให้ปิดไฟนอนส่วนการนอนของตัวผู้เขียนในห้องส่วนตัวที่ปราศจากบุคคลอื่นมารบกวนให้ปวดใจแล้ว จึงไร้ปัญหาแสงไฟรบกวน แต่ในบางครั้งก็ยังเกิดอาการนอนไม่ไม่หลับ หงุดหงิด คิดมากเรื่องงานประจำวัน ทางออกที่ดีคือพยายามหลีกเลี่ยงการนอนเล่นโทรศัพท์มือถือก่อนนอน และลองนั้งสมาธิก่อนนอนเริ่มต้นสัก 5 นาทีจะช่วยให้จิตเราผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น ดื่มน้ำอุ่นๆ ก่อนนอนสักแก้วเพื่อทดแทนน้ำที่ร่างกายสูญเสียไประหว่างวัน ปรับอุณหภูมิห้องให้พอดีไม่หนาวหรือร้อนจนเกินไป จากนั้นเปิด ASMR ฟังเป็นไม้ตายตัวช่วยกล่อม เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้หลับง่ายมากยิ่งขึ้น โดบรวมมันคือวิธีแก้ปัญหาการนอนคลุมโปงที่ต้นเหตุดังนั้นทางที่ดีขอแนะนำให้คุณผู้อ่านทุกท่านเริ่มต้นปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนเสียใหม่ตั้งแต่คืนนี้ เพื่อรักษาสุขภาพให้แข็งแรงต่อไป โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศชาติของเรากำลังทนทุกข์กับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่เรายังต้องต่อสู้ไปด้วยกันอีกนาน การมีสุขภาพแข็งแรงย่อมเป็นผลดี ด้วยความเป็นห่วงจากพวกเรา Wannatalk แหล่งข้อมูล Sleepholic , Comphypillow , Romper , Ryoiireviewเครดิตรูปภาพ1. รูปภาพหน้าปก Wannatalk (ผู้เขียนบทความ)2. ภาพประกอบ - ภาพที่ 1 : fujikama / pixabay - ภาพที่ 2 : Free-Photos / pixabay - ภาพที่ 3 : ddimitrova / pixabay - ภาพที่ 4 : Engin_Akyurt / pixabayอัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !