Episode 2: Ine you are kawai หลังจากทริป 1 วันในโอซาก้าจบไป พวกเราก็พักผ่อนเตรียมพร้อมเพื่อตื่นเช้าไปรับรถที่จองไว้ คุณสามีตื่นเต้นเป็นพิเศษ เพราะเลือกรุ่นรถที่ใฝ่ฝันเอาไว้ เราใช้บริการ Time rental มีสาขาใกล้ ๆ กับโรงแรม เข้าไปจ่ายตังค์พร้อมกับยื่นใบขับขี่สากลและ passport เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะพาไปตรวจรับรถ ให้เราตรวจเช็คตำหนิ ริ้วรอยรอบ ๆ รถให้ดีนะคะ หากพบให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อทำ mark ไว้ในเอกสาร ก่อนจะเซ็นต์รับรถ เพื่อไม่ให้ถูกปรับในภายหลังค่ะ เส้นทางการเดินทางของวันนี้ ออกจาก Osaka-Nara-Ine ระยะทางเกือบ 200 กิโลเมตร หนทางข้างหน้าต้องเจออะไรบ้าง ไม่รู้เลย แต่พวกเราวางแผนไว้ว่าจะไม่ขึ้น toll way หรือใช้ให้น้อยที่สุด เพราะอยากสัมผัสบรรยากาศบนท้องถนนของคนญี่ปุ่นจริง ๆ ขับไปประมาณครึ่งชั่วโมง พวกเราก็ถึงเมือง Nara ระหว่างทางมีสวนชาเล็กๆ อยู่บ้าง แต่ยังไม่ดึงดูดความสนใจให้เราสองคนฝ่าละอองฝนลงจากรถได้ พวกเราจึงมุ่งหน้าตรงไปยังเป้าหมายปลายทางคือที่พัก Airbnb ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมือง Ine เป็นครั้งแรกที่เราจองผ่าน Airbnb อ่านรีวิวแล้วถูกใจ ก็ต้องลองกันเลย TANGO ALOHA TERRACE B&B SEA FRONT มีสองชั้น อยู่ติดกับทะเล บรรยากาศดีมาก ๆ พวกเราพักชั้นบน มีห้องน้ำในตัว โฮสเป็นสามี ภรรยา ชาวญี่ปุ่น ใจดีมาก ๆ ท่านแนะนำสถานทีท่องเที่ยวได้อย่างละเอียด เพราะคุณ Hiroko ภรรยา ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเมือง Ine นั่นเอง โชคดีจริง ๆ ได้โบรชัวร์ แผนที่แนะนำจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจเต็มไม้เต็มมือกันเลย วันถัดมาพวกเราขับรถมุ่งหน้าไปที่เมือง Ine อากาศอึมครึม มีฝนเล็กน้อย แต่นั่นไม่สามารถหยุดการเดินทางของเราได้ The show must go on! เมื่อขับเข้าสู่เมือง Ine ถนนจะเริ่มแคบ โปรดขับด้วยความระมัดระวังนะคะ พวกเราขับผ่านลานจอดรถสาธารณะ 2-3 จุด เพื่อมุ่งหน้าเข้าไปในตัวหมู่บ้านให้มากที่สุด จุดจอดรถแนะนำคือด้านข้างศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของเมือง Ine เตรียมเหรียญติดกระเป๋าไปด้วยนะคะ ใช้สำหรับชำระค่าจอดรถที่เครื่องอัตโนมัติ มีวิธีการใช้งานระบุไว้ชัดเจน ไม่ต้องกังวลอะไรเลยค่ะ ชาวประมงเป็นอาชีพเก่าแก่ของชาวบ้านที่นี่ การสร้างบ้านสอดคล้องกับวิถีชีวิตประจำวัน ชั้นบนเป็นที่พัก ชั้นล่างเป็นท่าเรือส่วนตัว มันเป็นอะไรที่ amazing และ unique! เห็นด้วยมั้ยคะ เมื่อเดินชมเมืองทั่วแล้ว เราถือโอกาสเข้าไปอาศัยไออุ่นจาก heater ของศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีของที่ระลึกน่ารัก ๆ จำหน่าย เจ้าหน้าที่เข้ามาทักทายด้วยความเป็นกันเอง และหากใครชื่นชอบการเขียน postcard ที่นี่ก็มีบริการขายแสตมป์อีกด้วย จะส่งหาตัวเอง ครอบครัวหรือเพื่อน ๆ เพื่อเก็บบันทึกความทรงจำก็ตามใจเลยจ้า เดิมทีพวกเราตั้งใจว่าจะนั่งเรือเพื่อออกไปให้อาหารนกเหมือนฮิโรซังในสุโก้ยเจแปน แต่สภาพอากาศยังคงอีมครึม แผนนี้จึงถูกยกเลิกไป พวกเราขับรถย้อนกลับผ่านที่พัก ไปเมืองเล็ก ๆ คือ AMANOHASHIDATE ที่นี่มีชื่อเสียงจากหาดทรายขาวที่ทอดยาวไปกลางอ่าว Miyazu เพื่อน ๆ สามารถนั่งเรือออกไปในอ่าว หรือเช่าจักรยานปั่นตามแนวชายหาดได้ โชคไม่ดีที่อากาศไม่เป็นใจ แผนนี้ก็ถูกพับไปอีกเช่นกัน ในความโชคร้าย มักมีความโชคดีเสมอ ใครจะไปคิดว่ามี สวนองุ่นในระแวกนี้ Amanohashidate Winery เป็นโรงผลิตไวน์ local มีไวน์หลากหลายชนิดให้เลือก ใครชอบดื่มหรือทดลองชิมต้องไม่พลาด เราซื้อไวน์แดงมาขอบคุณโฮสในคืนสุดท้ายของทริปที่นี่ มื้อเย็นวันนั้นเป็นมื้อเย็นที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ บทสนทนากับคนแปลกหน้าที่ปราศจากความคาดหวัง กลับกลายเป็นภาพความทรงจำที่เราสองคนจะไม่ลืมเลย ขอบคุณอย่างยิ่งค่ะ どうもありがとうございます ข้อมูลเพิ่มเติม: http://ine-kankou-jp.check-xserver.jp/wp/en/first https://www.amanohashidate.jp/lang/en/spots/amanohashidate-winery/