ถ้าพูดถึงประเทศที่คนไทยอย่างเราต้องการไปเที่ยว ช้อปปิ้ง หรือ ศึกษาต่อต่างประเทศ ก็คงไม่พ้นประเทศมหาอำนาจในทวีปเอเชียของเรา นั่นก็คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง ไต้หวัน เป็นต้น ซึ่งแต่ละประเทศเองก็มีจุดขายที่น่าสนใจต่างกัน เมืองไทเป (Taipei City) ประเทศไต้หวัน ( Taiwan ) เป็นที่จับตามองของคนทั่วโลก เพราะเรื่องของอาณาเขตและเรื่องของทรัพยากร จึงไม่แปลกใจเลยที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย วันนี้เราเลยจะมานำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ต้องไปให้ได้ในเมืองแห่งนี้ อุทยานเย่หลิว (Yehliu Geopark) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีสิ่งมหัศจจรย์ของโลก ติดอยู่กับชายทะเลมีส่วนยื่นออกไปยาวเกือบ ๆ 2 กิโลเมตร เป็นสถานที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาอย่างมากมาตั้งแต่อดีต เพราะอยู่ติดกับชายฝั่งทะเลจึงมีการกัดเซาะลักษณะทางธรณีวิทยา ทำให้เกิดหินรูปร่างต่างๆที่แปลกตา ไม่ว่าจะเป็น หินช้าง หินเทียน หินห้อย เป็นต้น อาจขึ้นอยู่กับการมองของแต่ละคน ถ้าไปกับทัวร์เดินอย่างไงก็ไม่ได้ไม่ถึงปลายสุดสักที เพราะระยะทางที่ยาวมากกว่าจะเดินทั่ว และทัวร์ส่วนใหญ่มักเรียกกลับก่อนตลอด แนะนำให้เผื่อเวลาเดินไว้ด้วยเป็นชั่วโมง ๆ เลย กว่าจะถ่ายรูปแต่ละที่บอกเลยที่ถ่ายรูปเยอะมากได้รูปสวย ๆ เพียบ อีกเรื่องคืออากาศไม่ร้อนนะ แต่แดดเเรงมาก แนะนำให้ทาครีมกันแดด หรือ ให้พกร่มไปด้วย ไม่ก็ใส่หมวกและเสื้อคลุม หรือจะใส่เสื้อแขนยาวก็ยังดี ได้รูปสวยแต่กลับมาดำก็ไม่คุ้มที่จะเสี่ยงจริง ๆ เนื่องจากเป็นสถานที่ที่ติดกับทะเล ทุกคนอาจจะคิดว่าต้องมีขยะมากมายแน่เลย ไม่่ว่าจะขยะที่ลอยมาจากทางทะเล หรือ ขยะที่นักท่องเที่ยวทิ้งไว้ แต่อันที่จริงคือแทบไม่มีเลย เพราะเขาจะมีคนเก็บขยะทั้งวัน รับประกันเลยว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่สะอาดจริง ๆ ถ้าใครคิดว่าพื้นที่มันเยอะ ยาวออกไปทางทะเลนู่น กลัวไปไม่ถูกบ้าง กลัวตกน้ำบ้าง ขอบอกเลยว่าไม่ต้องห่วง เพราะเขามีป้ายบอกทางตลอดทาง และยังมีการตีเส้นรอบ ๆ พื้นที่อันตราย ถ้าไม่ก้าวออกไปนอกอาณาเขตก็ไม่ต้องกลัวอะไรเลย และสิ่งที่ทุกคนที่มาที่นี้ห้ามพลาด ก็คือ หินเศียรราชินี ซึ่งเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่เกิดการกัดเซาะจนมีรูปร่างเหมือนเศียรของราชินีจริงๆ จะอยู่ที่ปลายสุดของอุทยาน ที่นั่นมีคนยืนรอถ่ายรูปหลายคิวเลย แต่ในภาพข้างบนเป็นหินจำลองที่ลักษณะใกล้เคียงเท่านั้น ( แต่ในความคิดของผมคือไม่ใกล้เคียงสักนิด ) เชื่อว่าหลายๆคนคงอยากเห็นภาพจริงของหินนี้แล้ว แต่ผมขอเก็บไว้ก่อน เพราะอยากให้ทุกคนได้เห็นของจริง จริง ๆ นะ ถ้าใครสนใจอยากไปเห็นสิ่งนี้กับตา แนะนำให้รีบไปด่วนเลย รูปร่างมันเริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆจากการกัดเซาะชายฝั่งจากคลื่นหรือลม ไม่รู้ว่าจะหักลงมาเมื่อไหร่สังเกตได้จากส่วนคอที่แคบลงมาเรื่อย ๆ ภาพประกอบทั้งหมดโดย ผู้เขียน ภาพปกโดย TravelCoffeeBook จาก Pixabay