เขาเป็นนักรบชาวคาร์เธจที่หาญกล้าสู้กับมหาอำนาจแห่งยุคนั้นคือ อาณาจักรโรมัน เขาสามารถกำชัยเหนือกรุงโรมตลอดระยะเวลาทั้งสิ้น 15 ปีโดยที่เขาไม่เคยแพ้เลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่เมื่อหมดยุคของ ฮันนิบาล นั้นก็หมายความว่ามันหมดยุคของชาวคาร์เธจด้วยเช่นกัน เมื่อจบชีวิตลงไปนั้นทำให้โรมันโจมตีจนสิ้นเชื้อชาติ หรือ ตายเรียบทั้งอาณาจักรนั้นเอง ก่อนจะไปรู้จักฮันนิบาล บาการ์ เรามารู้จักชาวคาร์เธจที่เป็นเชื้อชาติของเขากันก่อแล้วกันนะครับโดยชาวคาร์เธจนั้นจัดอยู่ในกลุ่มชนเผาเซเมติกซึงพวกเขานับเป็นชนชาติที่ใช้คำว่าดึกดำบรรพ์เลยก็ว่าได้ พวกเขามีความเป็นมาย้อนไปเมื่อราว 2300 ปีก่อนคริสต์ศักราช มีหลักฐานที่แสดงถึงความพยายามของพวกเขาที่จะไปตั้งถิ่นฐานในอียิปแต่พวกเขากลับโดนชาวอียิปไล่ออกมาต่อมาพวกเขาได้แยกย้ายกันไปตั้งนครของตัวเองโดยหลักๆจะมีนครสำคัญคือ นครไทร์(Type) นครไซดอน (sidon) นครไบบอส (Byblos) เบรุส(Beirut) และเอเคอร์(Acre)ภาพจาก Marten Bjork/Unplash.comในยุคนั้นพวกเขาถูกเรียนในนาม ชาวฟินิเชียน โดยนครไซดอนเป็นผู้นำของนครต่างๆ พวกเขาได้เรียนรู้การต่อเรือจนชำนาญในการเดินเรือเนื่องจากสถานที่ตั้งอยู่ติดชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน นอกจากนั้นพวกเขายังพัฒนาความรู้ความสามารถทั้งทางด้านการเดินเรือและการค้าทำให้พวกเขาร่ำรวยเป็นอย่างมากจนกระทั่ง 850 ปีก่อนคริสต์ศักราชพระราชาแห่งนครไท(type)มีนามว่า พิกเมียเลียน เป็นผู้ที่เหี้ยมโหดจนกระทั่งน้องสาวของพระองค์คือเจ้าหญิง เอลิซาร์ ทนไม่ไหวหรืออาจจะมองเห็นอันตรายอะไรบางอย่าง ทำให้พระองค์ต้องออกจากเมืองและมาตั้งอาณาจักรของตัวเอง อาณาจักรของพระองค์ถูกเรียกในหลายชื่อ ไม่ว่าจะเป็น ธาดา คาร์เซดอนคาร์ธาโก หรือ เหล่าชาติใหม่และชาวคาร์เธจ (ตั้งอยู่ในประเทศตูนิเซีย) แต่อย่างไรก็ตามด้วยความที่เป็นชาวฟินิเชียน พวกเขายังคงมีความชำนาญในการเดินเรือและการค้าขายทำให้อาณาจักรรุ่งเรืองได้ในเวลาไม่นานภาพจาก Raimond Klavins/Unsplashต่อมาเมื่อชาวคาเธจมีความมั่งคั่งมากพอพวกเขาจึงมองว่าสิ่งที่ต้องมีคือความแข็งแกร่งของอาณาจักร พวกเขาจึงเริ่มจับมือกับชาวอีทรัสเพื่อรบกับกรีกจนกระทั่งพวกเขาขับไล่ชาวกรีกและยึดเขตพื้นที่หลายส่วนเว้นแต่ ซิราคูส(Syracuse)เมืองแห่งป้อมปราการที่แสนจะแข็งแกร่ง แต่ด้วยความที่ชาวคาร์เธจอยากยึดครองหมู่เกาะแถบชิลีทั้งหมดจึงทำสงครามกับชาว ซิราคูส แต่ความโลภก็ก่อความเสียหายให้ชาวคาเธจเป็นอย่างมากพวกเขาแพ้และหยุดทำสงครามไปราว 60 ปีเลยทีเดียว แต่ในระหว่างที่ชาวคาร์เธจกำลังพักเพื่อฟื้นตัว อาณาจักรโรมันเริ่มทวีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งทั้งสองอาณาจักรได้ทำสงครามกันกลายเป็นมหาสงครามที่ถูกเรยกว่าสงครามคาปูนิค ถึง 3 ครั้ง สงครามครั้งแรกกินเวลายาวนานถึง 23 ปี ชัยชนะเป็นของชาวโรมันโดยการยอมแพ้ของ ฮาร์มิลการ์ บาการ์ บิดาของยอดนักรบ ฮันนิบาล บาการ์ภาพจาก Austin Kehmeier/Unplashฮันนิบาล บาการ์ เขาเกิดมาในขณะที่พ่อของเขายังคงสู้อยู่ในสงคราม เขาถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีโดยการเรียนรู้ทั้งทางด้านการปกครอง การรบ ประวัติศาสตร์ เขาได้รับการฝึกเหล่านี้จากทั้งพ่อที่โชกโชนเรื่องการรบและทั้งความรู้จากอาจารย์ชาวกรีกต่อมา ฮามิลการ์ได้จมน้ำเสียชีวิตในขณะที่กำลังขี่ม้าข้ามแม่น้ำ ทำให้ ฮันนิบาล ที่เพิ่งวัย18 ปีได้รับตำแหน่งประมุขแทน และได้ให้ ฮัสดรูบาลที่เป็นบุตรเขยเป็นแม่ทัพใหญ่ ผ่านไป 7 ปี ฮัสดรูบาล ได้สร้างความดีความชอบโดยขยายเขตพื้นที่และสร้างหัวเมืองได้ในแถบที่เต็มไปด้วยเหมืองแร่เงินและเขาได้ทำสัญญากับพวกโรมันว่าพวกเขาจะไม่ข้ามแม่น้ำอิเบรุสไป หลังจากนั้นไม่นาน ฮัลนิบาล ก็ได้มาประจำการที่กองทัพม้าได้เพียงหนึ่งปี ฮัสดรูบาลผู้เป็นเเม่ทัพของเขาก็ถูกลอบสังหารจากชนพื้นเมือง ต่อจากนั้นเหล่าทหารทั้งหมดได้ยกให้ฮันนิบาลเป็นแม่ทัพสูงสุดที่มีอำนาจสามารถสั่งการได้ทั้งหมดในหมู่ชาวคาร์เธจหลังจากนั้นเขาก็ทำตามความตั้งใจเดิมของผู้เป็นบิดาก็คือทำสงครามกับกรุงโรม แต่ด้วยที่ไม่มีเหตุที่จะก่อสงครามกับโรมเขาจึงเริ่มจากการขยายอาณาเขตไปทางใต้แม่น้ำอิเบรุสโดยเป็นการฝึกทหารไปในตัวและให้ทหารเหล่านั้นศรัทธาในตัวของเขาที่เป็นแม่ทัพหนุ่ม แต่แล้วเวลาที่เขารอคอยก็มาถึงเมื่อเมืองซากุนตุมที่เป็นพันธมิตรกับกรุงโรมได้ทำสงครามกับเมืองข้างๆและได้ขอความช่วยเหลือจากกรุงโรม ฮันนิบาล จึงใช้โอกาสนี้ยื่นมือเข้าช่วยเมืองตรงข้ามและเขายังตัดสินใจตีเมืองซากุนตุม นั้นเป็นเหตุให้กรุงโรมไม่พอใจเป็นอย่างมาก และเขายังคงกระหายสงครามไม่หยุดเขาได้กรีธาทัพไปยังกรุงโรมต่อ ภายในกองทัพของเขาประกอบไปด้วย ทหารราบ 70,000 นาย ทหารม้าอีก 12,000 นาย และช้างศึกหุ้มเกาะอีก 40 เชือก นี้จึงเป็นต้นเหตุของการเกิดสงครามปูนิคครั้งที่2 ทางกรุงโรมเห็นท่าไม่ไม่ดีจึงได้จัดแนวป้องกันตามชายฝั่งทะเลพวกเขาเชื่อว่า ฮันนิบาล จะนำกองทัพมาทางเรืออย่างแน่นอน แต่ฮันนิบาลกับทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด เขานำกองทัพเคลื่อนพลมาทางเทือกเขาพิเรนีสและเทือกเขาแอลป์ เขาได้นำทัพเข้าโจมตีกรุงโรมอยู่ 15 ปี เขาไม่เคยแพ้ให้แก่กรุงโรมแม้แต่ครั้งเดียวตลอดระยะเวลาที่เขาทำศึกอยู่ที่นี่ เเต่แล้วเมื่ออาณาเขตของเขาถูกรุกรานโดยชาวโรมัน นั้นทำให้เขาต้องถอนทัพจากกรุงโรมเพื่อกลับไปปกป้องดินแดนของตน และนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่เขาต้องเจอกับเรื่องที่เขาไม่คิดว่าจะเจอภาพจาก Birmingham Museums Trust/Unsplashเขาได้แพ้ในสงครามให้กับ สกีปีโอ อาฟรีกานุส นักรบชาวโรมันเเต่ต่อมาอีก 14 ปี ทางโรมันได้เรียกร้องให้ฮันนิบาลเข้ามอบตัว เขาจึงเนรเทศตัวเองไปที่เมืองไทร์และเค้าก็ยังคงย้ายไปที่เมืองเอฟิซัส เขายังสนับสนุนให้กษัตริย์เอฟิซัสทำสงครามกับโรมันโดยมีเขาเป็นผู้บัญชาการทัพเรือแต่นั้นก็ยังคงทำให้เขาแพ้สงครามอีกครั้ง หลังจากแพ้สงครามเขาก็ย้ายไปอยู่ที่เกาะครีตและย้ายไปที่เอเชียไมเนอร์เป็นที่สุดท้าย เพราะเมื่อเขามาถึงที่นี้ชาวโรมันขู่ให้กระษัตริย์ปรูซีอัสที่ 1 มอบตัว ฮันนิบาลให้แก่โรมัน เมื่อเขาหมดสิ้นทางหนีเขาจึงกินยาพิษฆ่าตัวตาย เพราะความที่เขาไม่คิดจะตกอยู่ในมือของศัตรู เมื่อสิ้นฮันนิบาล คาร์เธจผู้แพ้สงครามก็ต้องชดใช้ค่าเสียหายอยู่หลายสิบปี จนกระทั่งพวกเขาคิดจะปลดแอกตัวเองทำให้เกิดสงครามปูนิคครั้งที่ 3 และนั้นเป็นจุดจบของชาวคาร์เธจในศึกครั้งนั้นคาร์เธจแพ้สงครามและประชาชนส่วนใหญ่ถูกสังหารอาคารบ้านเรือนถูกเผาและทำลายทิ้งประชาชนที่เหลือเพียงน้อยนิดก็ถูกนำไปขายเป็นทาส เป็นเหตุให้นั้นคือจุดจบของชาวคาร์เธจอาณาจักรแห่งนักรบ แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ ฮันนิบาลจะไม่สามารถเอาชนะโรมันได้แต่เขาก็ยังสามารถ ทำสงครามกับกรุงโรมโดยไม่แพ้มาตลอด 15 ปีและไม่มีทัพสนับสนุนเลย นั้นทำให้เขาเป็นอีกหนึ่งแม่ทัพที่ทำสงครามอย่างยิ่งใหญ่เท่าที่โลกเคยมีมา ฮันนิบาล บาการ์ ภาพปกโดย Canvaอัปเดตความรู้ใหม่ ๆ อีกมากมาย โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !