สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่านวันนี้ผมมาแนะนำ เกร็ดความคิดบนก้าววิ่ง หนังสือที่ถูกกล่าวถึงอย่างมากในหมู่นักวิ่ง (คนที่ไม่ได้วิ่งก็อ่านได้ครับ) คุณลุงมูราคามิเคยกล่าวไว้ว่า "สิ่งที่ผมรู้ทั้งหมดในการเขียนนวนิยาย ผมเรียนรู้จากการวิ่งเป็นประจำทุกวัน" ในหนังสือเล่มนี้ผู้อ่านจะได้รับความรู้มากมายที่กลั่นกรองมาจากประสบการณ์จริงจากการวิ่งเป็นเวลานานหลายสิบปี มูราคามิได้รวบรวมประสบการณ์ทั้งหมดของเขาเรียบเรียงออกมาเป็นบันทึกส่วนตัว ผู้อ่านจะได้ทำความรู้จักกับเขาคนนี้ผ่านการเล่าเรื่องจากหนังสือเล่มเล็กๆ เล่มนี้ครับ หนังสือเล่มนี้ได้เปิดโอกาสให้ผู้อ่านเข้าไปสำรวจในหัวของเขา เหมือนแอบเข้าไปในบ้านที่ไม่มีใครอยู่ ผู้อ่านจะทึ่งไปกับกระบวนการคิดของเขาผ่านทางตัวหนังสือทีละตัวละตัว เขาเป็นทั้งนักวิ่งมาราธอน นักไตรกีฬา และนักเขียนนิยาย มูราคามิทั้งฉลาดและถ่อมตัวในเวลาเดียวกัน เขาเริ่มออกวิ่งจริงจังตอนอายุ 33 ปี สิ่งที่นักอ่านหลายคนพูดถึงและชอบเป็นพิเศษคือ ความจริงใจของมูราคามิที่เราสามารถสัมผัสได้ผ่านการอ่านเรื่องเล่าของเขา ในหนังสือเล่มนี้มีข้อคิดดีๆ มากมาย ตัวอย่างเช่น เหตุการณ์ต่างๆ ในระหว่างการวิ่งมาราธอน มูราคามิบอกว่า "ความเจ็บปวดเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่คุณสามารถเลือกได้ว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ สมมติว่าคุณกำลังวิ่งอยู่และคุณเริ่มคิดว่า มันเจ็บเหลือเกิน ไม่เอาแล้ว ความเจ็บคือความเป็นจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ไม่ว่าจะทนได้อีกหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับนักวิ่งเอง นี่คือลักษณะสำคัญที่สุดของการวิ่งมาราธอน" ที่ปกด้านหลังเขียนไว้ว่า "หนังสือเล่มนี้พูดถึงการวิ่ง หาใช่สารนิพนธ์ ว่าด้วยการฝึกให้ร่างกายแข็งแรง ผมไม่ได้พยายามจะสอนสั่งว่า ลุกขึ้นมาได้แล้ว ทุกคนเลยออกไปวิ่งทุกเช้าเพื่อสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ไม่เลยครับ หนังสือเล่มนี้รวบรวมเกร็ดความคิดของผมที่การวิ่งให้ความหมายต่อผมในฐานะมนุษย์คนหนึ่งเป็นแต่เพียงหนังสือที่ผมวิเคราะห์ครุ่นคิดเรื่องที่อยู่ในหัว และคิดออกมาดังๆ"What I Talk About When I Talk About Runningทำไมต้องอ่านเกร็ดความรู้บนก้าววิ่ง "วิ่ง" คำสั้นๆ แต่เชื่อไหมครับ เพียงแค่การก้าวเท้าออกไปอย่างสามัญธรรมดากลับนำสิ่งมหัศจรรย์ หรือจุดพลิกผันครั้งสำคัญให้กับผู้คนหลากหลายชีวิตในโลกนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เหลือเชื่อนะครับแค่การก้าวขาไปข้างหน้าอย่างง่ายๆ จะสามารถสร้างแรงกระเพื่อมได้อย่างมหาศาล คุณลุงมูราคามิได้เปลี่ยนความเหนื่อยล้าจากการวิ่งให้เป็นพลังพิเศษสำหรับการเขียนนิยาย นอกจากนี้การวิ่งยังสามารถช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ได้อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น พี่ตูนบอดีแสลมที่วิ่งหาเงินบริจาคให้โรงพยาบาล พี่แซมนักวิ่งสู้มะเร็ง เขาได้เปลี่ยนหยาดเหงื่อหยดเล็กๆ หยดแล้วหยดเล่าให้กลายเป็นความหวัง เขาใช้การวิ่งเยียวยาความทุกข์ทรมานจากโรคร้าย ความเหนื่อยล้าแบบนี้เป็นพลังงานพิเศษ ในกลุ่มของนักวิ่ง พวกเขาเข้าใจซึ่งกันและกันและเข้าใจถึงพลังพิเศษที่ว่านี้ พูดถึงเรื่องพลังพิเศษจากการวิ่ง มูราคามิเองก็เขียนเอาไว้ได้อย่างน่าประทับใจครับ ในการให้สัมภาษณ์เมื่อปี 2004 มูราคามิพูดถึงเรื่องร่างกายและจิตใจของเขาว่า "เมื่อผมอยู่ในโหมดเขียนนวนิยาย ผมจะตื่นตอนตีสี่และลงมือเขียนนิยายเป็นเวลาห้าถึงหกชั่วโมง ในช่วงบ่ายผมออกวิ่งระยะทาง 10 กิโลเมตรหรือว่ายน้ำระยะทางหนึ่งพันห้าร้อยเมตร หรือทำทั้งสองอย่าง จากนั้นผมจึงอ่านหนังสือและฟังเพลง ผมเข้านอนเวลาสามทุ่ม ผมทำกิจวัตรนี้ทุกวันโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง การทำซ้ำๆ แบบนี้กลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผม เป็นรูปแบบหนึ่งของการฝึก" "ผมฝึกตัวเองเพื่อเข้าถึงสภาพจิตใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น แต่การจะทำซ้ำ ๆ แบบนี้เป็นเวลาหกเดือนหรือหนึ่งปีนั้น ต้องใช้ความแข็งแกร่งทางร่างกายและจิตใจที่มากเป็นพิเศษ การเขียนนวนิยายเรื่องยาวต้องใช้ความอดทนอย่างมาก เหมือนกับการฝึกเอาชีวิตรอดเลยครับ ความแข็งแรงของร่างกายจึงมีความจำเป็นพอๆ กับความงามและสุนทรียภาพในงานศิลปะ การวิ่งเป็นประจำทุกวันจึงเป็นสิ่งหนึ่งที่ผมขาดไม่ได้"What I Talk About When I Talk About Runningเนื้อหาในเล่มพอสังเขปทัณฑ์ทรมานเป็นทางเลือกเคล็ดลับของการเป็นนักเขียนนักวิ่งเอเธนส์กลางฤดูร้อน การวิ่ง 42 กิโลเมตร ครั้งแรกในชีวิตสิ่งที่ผมเรียนรู้เกือบทั้งหมดในการเขียนนิยาย ผมเรียนรู้จากการวิ่งเป็นประจำทุกวันแม้ยุคโน้นผมจะไว้ผมยาว มัดรวบเป็นหางม้าไม่มีใครทุบโต๊ะอีกแล้ว ไม่มีใครขว้างแก้วฤดูใบไม้ร่วงในนิวยอร์กWhat I Talk About When I Talk About Runningจุดแข็งหนังสือเล่มนี้แปลโดย คุณนพดล เวชสวัสดิ์ ซึ่งใช้ภาษาแปลได้สละสลวย ชวนติดตามตลอดทั้งเล่ม ผมยืนยันว่าเก่งและรู้จริงในเรื่องที่แปล (เขาแปลหนังสือของมูราคามิหลายเล่มแล้วครับ)นักเขียนและนัก(อยาก)เขียนส่วนใหญ่แนะนำให้อ่านหนังสือเล่มนี้ กลุ่มแฟนคลับของมูราคามิพูดถึงหนังสือเล่มนี้อยู่ตลอดครับความรู้จากการอ่านสามารถนำมาเป็นแง่คิดกับการใช้ชีวิตได้ คุณลุงมูราคามิเมื่อก่อนเขาเคยกิน ดื่ม สูบ จัด วันนี้ เขาเปลี่ยนจากสิงห์อมควันมาเป็นนักวิ่งมาราธอนได้อย่างไร หนังสือเล่มนี้มีคำตอบWhat I Talk About When I Talk About Runningราคา220 บาทหาซื้อได้ที่ se-edเกร็ดความคิดบนก้าววิ่ง : What I Talk About When I Talk About Running (se-ed.com)What I Talk About When I Talk About Runningรายละเอียดชื่อหนังสือ : เกร็ดความคิดบนก้าววิ่ง : What I Talk About When I Talk About Runningผู้เขียน : Haruki Murakami (ฮารูกิ มูราคามิ)ผู้แปล : นพดล เวชสวัสดิ์ISBN : 9786167591988จำนวนหน้า : 182 หน้าภาษา : ภาษาไทยWhat I Talk About When I Talk About Runningคะแนน5/5 คุ้มค่า อ่านซ้ำ 3 รอบ ไม่ว่าจะเกลียด กึ่งๆ ครึ่งๆ หรือคลั่งไคล้ ไม่ว่าจะรู้สึกอย่างไรต่อ ฮารูกิ มูราคามิ ความหมั่นไส้และอคติของคุณจะลดลงเมื่อได้รับทราบความมานะพยายามของเขา มูราคามิทุ่มเทเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาด้วยความละเมียดละไม หนังสือเล่มนี้เป็นหนึ่งในแรงบัลดาลใจให้กับผู้อ่านหลายๆ คนตัดสินใจออกไปวิ่ง ลองอ่านดูนะครับแล้วคุณจะชอบ สุดท้ายนี้ขอขอบพะคุณผู้อ่านที่น่ารักทุกท่านที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ คราวหน้าผมจะมารีวิวหนังสือน่าอ่านเล่มอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกแน่นอน รอติดตามกันด้วยนะครับ แต่ก่อนจากกันผมขออนุญาตยกคำคมดีๆ ที่ผมไปเจอมาแล้วรู้สึกชอบเพื่อใช้กล่าวปิดท้ายให้กับนักอ่าน นักเขียน และนักวิ่งทุกคน ดังนี้ครับ "บนโลกนี้ ไม่มีการเขียนที่สมบูรณ์แบบ ไม่แม้แต่คำว่าใกล้เคียงด้วยซ้ำ จงเขียนในแบบของคุณเอง"บทความและภาพโดยนักเขียน ชาร์โคล เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !