คงมีหลายๆคนมักจะพูดว่า อยากเก็บเงินได้ 1 ล้านแรกจังเลย ต้องทำยังไง? ในทางการเงินนะครับมีคนพูดถึงเยอะนะเขาบอกว่าการเก็บเงิน 1 ล้านแรกยากที่สุด ถ้าเราเก็บเงิน 1 ล้านแรกได้เนี่ยล้านต่อๆไปก็จะง่ายขึ้น จริงเหรอ??สำหรับการเก็บออมเงินยังไงมันก็ต้องใช้ความอดทน ใช้ความพยายามครับแต่การที่มันไปสู่ล้านต่อไปได้ง่ายขึ้น มันเป็นเพราะว่าจากล้านแรกที่เรามีนะครับผลตอบแทนที่เราได้มันก็จะช่วยทำให้เงินของเราไปถึงเป้าหมายต่อไปได้เร็วขึ้น ต่างหาก ไม่ได้เป็นเรื่องการเก็บออมอย่างเดียวนะ แต่ก็ยังเหนื่อยและยังต้องใช้ความพยายามเหมือนเดิม ทีนี้ถ้าอยากเก็บเงินให้ได้ 1 ล้านแรกนะครับ วิธีการมันก็ค่อนข้างจะกำปั้นทุบดินสักนิดนึงนะครับ เราก็มี 2 ขั้นตอนสำคัญก็คือ1. ต้องเก็บเงินให้ได้อย่าง สม่ำเสมอ ที่ต้องเน้นคำว่าสม่ำเสมอนะครับ ก็เพราะว่าถ้าเรามีเงินแค่เล็กๆน้อยๆมีนิดๆหน่อยๆ ก็รีบเอามาลงทุนมันก็คงไม่ถึงหรอกครับ เราต้องเก็บเงินให้ได้ต่อเนื่องจนเป็นนิสัย 2. นำเงินที่เก็บออมได้มาลงทุนในสินทรัพย์ที่มีผลตอบแทนสูง แค่ 2 ข้อนี้นะครับก็ทำให้เราไปถึง 1 ล้านได้แล้ว ถ้าเรามีเงินเก็บได้สักเดือนละประมาณ 2,000 บาท และตั้งใจว่าจะเก็บใส่โอ่งไปให้ถึง 1 ล้านให้ได้ ถ้าทำแบบนี้ต้องใช้เวลาถึง 42 ปีเลยนะครับ แต่ถ้าเรามีเครื่องมือ และศึกษาเรียนรู้ ใช้เครื่องมือให้เป็น เราเก็บ 2,000 บาทเหมือนกันแล้วก็เอาไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงสักประมาณ 7-10%ต่อปี ยกตัวอย่างเช่น กองทุนรวมหุ้น หรือว่าอาจจะเป็นหุ้นสหกรณ์ของบางบริษัทก็สามารถพาเราไปถึงเงิน 1 ล้านได้ในระยะเวลาเพียงไม่ถึง 20 ปี เห็นไหมครับพอใช้เครื่องมือเป็น ระยะเวลาที่จะได้ล้านแรกของเราลดลงมาครึ่งนึงได้เลย แต่ถ้าเกิดอยากจะเก็บเงินพร้อมกับได้ความคุ้มครองไปด้วย แบบนี้ ก็สามารถใช้เรื่องของประกันชีวิตเป็นตัวช่วยได้เหมือนกันครับ แต่ประกันที่เหมาะสมจะใช้ในการเก็บเงินต้องเป็นประกันแบบออมทรัพย์หรือสะสมทรัพย์เท่านั้น ปัญหาก็คือมีหลายคนอยากจะเก็บเงินเหมือนกัน แต่ว่าหาเงินเก็บไม่ได้สักที ถ้าเก็บเงินไม่ได้สักทีเมื่อไหร่จะมีเงินล้าน ! แล้วจะต้องทำยังไงล่ะ? จริงๆแล้วเราสามารถหาช่องทางในการเก็บเงินได้ง่ายๆโดยการพิจารณาจากการลดรายจ่ายที่เราจ่ายเป็นประจำ จ่ายด้วยความเคยชิน ซึ่งบางเรื่องมันอาจจะไม่ใช่รายจ่ายที่เราจำเป็นต้องจ่ายจริงๆก็ได้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นรายจ่ายฟุ่มเฟือย ค่ากาแฟ บุหรี่ เบียร์ หรือแม้กระทั่งเวลาไปซุปเปอร์มาร์เก็ตนะครับเดินเข้าไปในซุปเปอร์มาเก็ตพอเห็นอะไรก็อยากจะซื้อไปซะทุกสิ่งทุกอย่าง พอใช้ไม่หมดใช้ไม่ทันของก็จะเสีย สุดท้ายบางทีก็ต้องมาโยนทิ้ง แบบนี้ก็ถือเป็นรายจ่ายที่ไม่จำเป็นและสามารถประหยัดได้ด้วยเหมือนกันครับ ยกตัวอย่างชานม 1 แก้วนะครับราคา 35-60 บาท ถ้าเรากินเดือนนึงก็ 1,050 -1,800 บาท ถ้ากินทั้งปี ก็ 12,600 - 21,600 บาทเลยทีเดียว ดังนั้นถ้าเราพอจะลดได้ ก็จะสามารถประหยัดเงินได้ แต่ถ้าเกิดว่าเราเป็นคนติดชานม ชอบจนชนิดที่ว่าหยุดกินไม่ได้ ก็ต้องลองหาชานมที่ราคาถูกหน่อย หรือจะลองลดค่าใช้จ่ายตัวอื่น เป็นตัวที่เราจะลดลงแทน อันนี้ก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลนะครับต้องไปเลือกไปพิจารณากันดูครับ สรุปสุดท้ายครับถ้าอยากจะมีเงินเก็บ 1 ล้าน เราก็ต้องเก็บเงินอย่างสม่ำเสมอ แล้วก็ลงทุนอย่างต่อเนื่องในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่สูงหน่อยนะครับ ศึกษาให้เข้าใจถึงเครื่องมือการลงทุนต่างๆ ดูว่าตัวเรานั้นรับความเสี่ยงได้มากแค่ไหน แล้วก็ใช้เครื่องมือนั้นพาเราไปให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้ถ้าไม่เริ่มวันนี้ ไม่ทำวันนี้ สุดท้ายก็จะไม่ได้มีเงินล้านกับเขาสักทีนึงขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ ขอให้มีเงินล้านกันเร็วๆครับ ขอบคุณรูปภาพจาก www.pexels.comรูปหน้าปก / รูปประกอบที่ 1 / รูปประกอบที่ 2 / รูปประกอบที่ 3 / รูปประกอบที่ 4