เมื่อประมาณปีที่ผ่านมาผู้เขียนได้มีโอกาสสัมภาษณ์แรงงานข้ามชาติเพื่อประกอบการค้นคว้าในบทความชิ้นหนึ่ง แรงงานข้ามชาติคนดังกล่าวมีชื่อว่า “พี่แจ๋ว” (นามสมมุติ) พื้นเพเป็นคนชาติพันธุ์กะเหรี่ยงอาศัยอยู่ทางภาคใต้ของพม่า ซึ่งพี่แจ๋วได้เป็นคนรับใช้ในบ้านญาติฝั่งบิดาของผู้เขียนที่กรุงเทพมหานครมาตั้งแต่ผู้เขียนจำความได้ จนปัจจุบันครอบครัวผู้เขียนได้ย้ายมาจังหวัดนนทบุรีแล้ว พี่แจ๋วก็ยังคงทำงานอยู่ที่เดิม โดยผู้เขียนทำการสัมภาษณ์พี่แจ๋วด้วยคำถามดังต่อไปนี้ เช่น ภูมิลำเนาเดิม เหตุผลที่ย้ายมาทำงานฝั่งไทย เงินเดือน ชีวิตความเป็นอยู่ และความเป็นไปได้ในการย้ายกลับบ้านเกิดที่ฝั่งพม่า เป็นต้นพี่แจ๋วเริ่มต้นโดยการตอบคำถามแรกว่าภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ไหน แต่พี่แจ๋วไม่ได้ตอบอย่างชัดเจนเพียงแต่บอกว่าอยู่ทางภาคใต้ของฝั่งพม่า และเหตุผลสำคัญที่ย้ายมาทำงานเป็นคนรับใช้ที่ฝั่งไทย คือเหตุผลด้านเศรษฐกิจเป็นหลัก พี่แจ๋วมองว่ารายได้ของประเทศไทยน่าจะดีกว่าพม่าอย่างแน่นอนจึงตัดสินใจเข้ามาหางานที่ไทย ซึ่งพี่แจ๋วได้งานนี้โดยอาศัยคำแนะนำจากญาติที่เคยมาทำงานอยู่ก่อนแล้ว และผู้เขียนได้ถามต่อในเรื่องเงินเดือน ซึ่งพี่แจ๋วตอบว่าในช่วงแรก ๆ ก็ได้ไม่กี่พัน แต่ก็อยู่ได้เพราะอาศัยอยู่ที่บ้านญาติของผู้เขียนโดยที่ไม่ต้องเสียค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร และในเวลาต่อมาเงินเดือนกี่เพิ่มขึ้นเกือบหมื่นบาท พี่แจ๋วจึงสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสบายพอสมควรที่ไทย และยังสามารถส่งเงินไปให้ครอบครัวที่อยู่ฝั่งพม่าได้อีกด้วย และคำถามสุดท้ายผู้เขียนถามว่าถ้าเป็นไปได้พี่แจ๋วจะกลับบ้านที่พม่าไหม พี่แจ๋วนิ่งไปสักครู่แล้วตอบกลับมาว่า ตอนนี้พี่ยังไม่อยากกลับ เพราะกลับไปก็ยังหางานที่เงินเดือนดีแบบนี้ไม่ได้ และถ้าเป็นไปได้พี่แจ๋วก็อยากกลับบ้านไปหาครอบครัวเมื่อพร้อมกว่านี้แต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้กลับเสียทีการสัมภาษณ์ “พี่แจ๋ว” ข้างต้น ผู้เขียนมองว่าหากเราต้องการทำความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับพี่แจ๋วจักต้องใช้ “ทฤษฎีด้านทุนมนุษย์ในการย้ายถิ่น” ในการมองและอธิบายปรากฎการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น สาระสำคัญของทฤษฎีดังกล่าวมุ่งเน้นพิจารณาพฤติกรรมการตัดสินใจการย้ายถิ่นของมนุษย์ในฐานะปัจเจกชน โดยมองว่าการตัดสินใจย้ายถิ่นอยู่บนฐานของการตัดสินใจแบบมีเหตุมีผล (Rational Choice Theory) ซึ่งการตัดสินใจนั้นขึ้นอยู่กับอรรถประโยชน์สูงสุดที่ตัวเองจะได้รับนั่นคือ “รายได้” โดยคนย่อมย้ายถิ่นหากรายได้คาดหวัง หรือ รายได้ที่คาดว่าจะได้รับในพื้นที่ปลายทางสูงกว่าในพื้นที่ต้นทาง อีกทั้งยังมีปัจจัยที่ทำให้ผู้คนเลือกย้ายถิ่น นั่นคือ ปัจจัยกำหนดการย้ายถิ่น (Determinant of Migration) ได้แก่ อายุ ปัจจัยด้านครอบครัว อัตราการว่างงาน เป็นต้น การย้ายถิ่นมาทำงานที่ไทยของพี่แจ๋ว พี่แจ๋วเองก็ตัดสินใจบนฐานอรรถประโยชน์สูงสุดที่ตัวเองจะได้รับ ซึ่งก็คือรายได้ที่เพิ่มขึ้นหากย้ายมาทำงานที่ฝั่งไทย อีกทั้งการที่พี่แจ๋วอายุยังน้อยและไม่มีสามีก็มีโอกาสย้ายถิ่นมากกว่าคนที่แต่งงานแล้ว และที่สำคัญที่สุดในช่วงเวลาที่พี่แจ๋วกำลังจะย้ายเข้ามา ประเทศไทยก็มีความต้องการจ้างคนรับใช้จากประเทศเพื่อนบ้านเนื่องจากค่าแรงถูกกว่าคนไทย เห็นได้จากญาติพี่แจ๋วที่มาทำงานเป็นคนใช้ในประเทศไทยอยู่ก่อนแล้ว จึงทำให้พี่แจ๋วสามารถเข้ามาทำงานได้โดยง่าย และเหตุที่พี่แจ๋วยังไม่ย้ายกลับก็เป็นผลมาจากการตัดสินใจบนฐานอรรถประโยชน์สูงสุดที่ตัวเองจะได้รับเช่นเดียวกับการย้ายถิ่นมาทำงานที่ไทย ซึ่งพี่แจ๋วคงมองว่าถ้าหากย้ายกลับไปพม่าตัวเองคงยังไม่ได้รับอรรถประโยชน์สูงสุดซึ่งก็คือ “รายได้” ที่มากกว่าไทยนั่นเองจึงจำต้องอาศัยอยู่ที่ไทยไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะพร้อมมากกว่านี้ แต่อย่างไรก็ตามคำว่า “พร้อม” ของพี่แจ๋ว ผู้เขียนคิดว่านอกจากเรื่องรายได้แล้ว น่าจะเป็นเรื่องของอรรถประโยชน์อื่นที่ได้รับ ถ้าพี่แจ๋วได้คิดด้วยเหตุผลแล้วว่าหากอรรถประโยชน์ที่ได้รับเมื่อกลับฝั่งพม่าแล้วจะได้รับมากกว่าไทย พี่แจ๋วก็อาจจะตัดสินใจกลับก็ได้ เช่น เรื่องความสุขที่ได้กลับไปดูแลและสร้างครอบครัวในบ้านเกิดของตัวเอง เป็นต้น จากการมองแรงงานข้ามชาติอย่าง "พี่แจ๋ว" ผ่านทฤษฎีการย้ายถิ่นที่ผู้เขียนยกมาวิเคราะห์ในบทความนี้ อาจทำให้ผู้อ่านมองแรงงานข้ามชาติโดยเข้าอกเข้าใจพวกเค้าเหล่านั้นในฐานะมนุษย์มากขึ้น แรงงานเหล่านี้จำเป็นต้องดิ้นรนย้ายถิ่นฐานมาทำงานที่ประเทศไทยเพื่อชีวิตที่ดีกว่า เช่นเดียวกับแรงงานไทยที่ไปทำงานยังต่างประเทศก็ตัดสินใจอยู่บนพื้นฐานเดียวกัน ซึ่งในตอนนี้พวกเราจักต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน โดยแรงงานข้ามชาติก็มีส่วนในการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของประเทศไทย อีกทั้งแรงงานเหล่านี้ยังรับทำงานในภาคส่วนแรงงานที่คนไทยมักไม่ค่อยจะทำกันอีกด้วย*หมายเหตุ พี่แจ๋วเป็นแรงงานถูกกฎหมาย มีบัตรประจำตัวสีชมพู (บัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย) และมีใบอนุญาตทำงาน (Work Permit)เครดิตรูปภาพภาพหน้าปกจาก Pixabayภาพประกอบที่ 1 จาก Pixabayภาพประกอบที่ 2 จาก Pixabayภาพประกอบที่ 3 จาก PxHere