ไลฟ์แฮ็ก
เคล็ดลับการเก็บพริก ให้สดใหม่ อยู่ได้นานเป็นเดือน
เคล็ดลับการเก็บพริกให้สดใหม่ อยู่ได้นานเป็นเดือน
พริก ไม่ว่าจะเป็นพริกขี้หนู พริกจินดา พริกชี้ฟ้า หรือพริกอะไรก็ตาม เราก็ทราบกันดีว่าเค้ามีรสชาติที่เผ็ดร้อน แต่รู้หรือไม่ว่า พริก มีประโยชน์มากมายกับร่างกายของเรา ไม่ว่าจะเป็นการช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย บำรุงสายตา กระตุ้นให้เจริญอาหารมากขึ้น และสารแคปไซซินในพริก ยังช่วยให้เกิดการตื่นตัวของร่างกายเราด้วย แต่อย่างไรก็ตาม เราควรทานให้เหมาะสมไม่มากจนเกินไป ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดโทษต่อร่างกายได้
พริก เป็นวัตถุดิบคู่ครัวในการประกอบอาหารไทยมาเนิ่นนาน ไม่ว่าจะเป็นเมนูอะไร เราก็มักจะใส่พริกลงไปเพื่อเพิ่มสีสัน หรือเพิ่มรสชาติให้มีความ จัดจ้านและหอมอร่อยยิ่งขึ้น แต่เคยสังเกตุกันหรือไม่ว่า พริก เมื่อเราซื้อมาในปริมาณที่มาก ใช้ครั้งเดียวไม่หมด และวางเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องปกติ จะมีการเน่าเสียและขึ้นราได้อย่างรวดเร็ว และลองสังเกตดูที่ขั้วของพริก มักจะมีเชื้อราเป็นขนสีขาว ลักษณะปุกปุย อยู่ที่บริเวณขั้วพริกนี้อยู่บ่อยครั้ง ทำให้เราต้องทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งที่ยังใช้ประกอบอาหารไม่หมด และยิ่งในช่วงนี้ที่มีวิกฤตโควิด1 9 ทำให้เราต้องซื้อวัตถุดิบมาเก็บไว้ใช้ประกอบอาหารได้เป็นเวลานานๆ เราจึงต้องมีวิธีการเก็บรักษาให้ พริก ของเราสดใหม่และเก็บไว้ใช้ได้นานมากขึ้น
Advertisement
Advertisement
วันนี้เรามีวิธีการเก็บรักษาพริกให้สดใหม่อยู่ได้นานเป็นเดือนมาฝาก ทำได้ง่ายๆ ดังนี้
วิธีการเก็บรักษาพริก
เมื่อเราซื้อ พริกสด กลับมาที่บ้าน กรณีที่ซื้อมาทั้งพริกแดงและพริกเขียว ให้แยกสีพริกออกจากกันก่อน ล้างพริกด้วยน้ำสะอาด 1 ครั้ง จากนั้นให้เด็ดก้านของพริกออกทุกเม็ด และล้างน้ำสะอาดอีกครั้ง
นำพริกวางผึ่งให้แห้ง หรือจะใช้กระดาษทิชชูอเนกประสงค์ซับน้ำออกให้แห้งก็ได้ จากนั้นนำพริกแยกแต่ละสี มาวางบนกระดาษทิชชูอเนกประสงค์ซ้อนทับ 2 ชั้น และพับกระดาษเข้าหากัน มัดด้วยหนังยางให้เรียบร้อย พริกสีเขียวมัดด้วยยางสีเขียว พริกสีแดงมัดด้วยยางสีแดง (ถ้ามี) เพื่อสะดวกในการหยิบนำไปประกอบอาหาร
เสร็จแล้วให้วางพริกใส่ไว้ในกล่องที่มีฝาปิด เพื่อป้องกันอากาศเข้าไปสัมผัสกับตัวพริก และนำกล่องไปแช่ตู้เย็นในช่องแช่ผักตามปกติได้เลย
Advertisement
Advertisement
แค่นี้เราก็จะได้พริกที่สดใหม่ตลอดเวลา และสามารถเก็บไว้ประกอบอาหารได้นานเป็นเดือนๆ ไม่ยากเลยใช่มั้ย ลองนำไปทำกันดูนะคะ
ภาพประกอบทั้งหมด : ถ่ายโดยผู้เขียน
วิธีทำง่ายๆ ฉบับวิดีโอ สามารถดูได้ที่ลิงก์นี้ค่ะ https://youtu.be/KcsSzvWiw5g
ความคิดเห็น