สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สร้างผลกระทบเป็นวงกว้าง ทำให้เศรษฐกิจโลกหยุดชะงัก โดยเฉพาะประเทศไทย เรียกว่าจุก เจ็บของจริง เพราะเส้นเลือดใหญ่ทางการค้าฝากไว้ที่ พี่จีนเกือบทั้งหมดไม่ว่า การท่องเที่ยวหรือส่งออก ส่งผลให้คนในประเทศไทยตกงาน หรือลดอัตราค่าจ้าง ทำให้รัฐบาลได้ออกมาตรการให้ "เงินเยียวยา 5,000 บาท" โดยเปิดให้ลงทะเบียนใน www.เราไม่ทิ้งกัน โดยล๊อตแรกกระทรวงการคลังได้มีการโอนเงินล็อตแรก ระหว่างวันที่ 8-10 เมษายน 2563 ให้ประชาชนจำนวน 1,677,000 ราย แบ่งเป็น วันที่ 8 เมษายน จำนวน 2.8 แสนราย วันที่ 9 เมษายน จำนวน 7.53 แสนราย และวันที่ 10 เมษายน 6.44 แสนราย รวมเป็นเงิน 8,385 ล้านบาท เงินส่วนนี้ถึงจะเป็นจำนวนไม่มาก แต่ก็ไม่น้อยซะทีเดียวอย่างน้อยก็พอจุนเจือใหดำรงชีวิตอยู่ในปัจจุบันได้ เพียงแค่รู้จักบริหารจัดสรรเงินที่มีอยู่ให้ดี ๆ ด้วยการประกอบอาหารทำกินเอง เพราะราคาขายในตลาด ไม่แพง เราสามารถนำมาประกอบอาหารเพื่อรับประทานมื้ออื่น ๆ ได้ด้วยค่ะ อย่างตลาดเช้าย่านคลอง 3 แถวบ้าน จะมีคุณป้า คุณตา คุณยาย ทำอาหารสด และอาหารแห้ง มาจำหน่ายเยอะมากค่ะ อย่างร้านขายผัก เราสามารถนำไปปรุงอาหาร ผัด ทอดหรือต้มได้ เช่น ซื้อถั่วผักยาว กำละ 10 บาท เราสามารถแบ่งไว้แกงถั่วฝักยาว และนำอีกส่วนไว้รับประทานสด หรือแบ่งไว้ต้ม เพื่อไว้กินกับน้ำพริกกะปิ กระปุกเล็ก ๆ ราคาไม่แพง 20 บาท สามารถเก็บไว้ทำรับประทาน 3 ครั้ง โดยแต่ละวันควรวางแผนให้ดี ๆ ว่าเราจะทำอะไรกินบ้าง เพื่อที่จะได้ใช้วัสดุที่ประกอบอาหาร ไว้ทำมื้ออื่น ๆ ได้ อย่างปลาทอดนี้ สามารถนำไปรับประทานคู่กับเมนูอื่น ๆ ได้ แม่เราชอบมาก คือไว้กินกับข้าวต้มร้อน ๆ ตอนเช้า ทอดกรอบ ๆ เค็ม ๆ เข้ากับข้าวต้มได้ดีเลยค่ะ จะซื้อ 1 กิโลกรัมหรือ ครึ่งกิโลกรัมก็ได้ แล้วแต่เราเลย ราคาก็แล้วแต่ชนิดปลา 40 60 หรือจะซื้อแบบที่เขาทอดขายแล้วก็ได้นะคะ สะดวกดี แถวบ้านขายจานละ 20 บาทจะมีประมาณ 4 ชิ้น เช่นปลาดุกแดดเดียว ปลานิลแดดเดียว ส่วนมะนาว มะกรูด เอาไว้ใส่ต้มยำ กับน้ำพริกได้ดีเลยค่ะ ตระกร้าละ 10 บาท 20 บาท บางร้านถ้าลูกใหญ่ ๆ ให้เรานั่งคัด นั่งเลือกได้ จะตกอยู่ราว ๆ ลูกละ 5 บาท เอาไว้ใส่ยำปลากระป๋อง น้ำพริกะปิได้ดีเลยค่ะ และอาหารที่จะขาดไม่ได้เลยนั้นก็คือไข่ บางร้านขายถูกขายแพงต่างกัน ราคาอาจจะขยับขึ้นกว่าเดิม 20 บาท หรือบางร้านขายราคาเดิม แต่ลดขนาดเบอร์ของไข่ลง เพื่อให้คนแถวบ้านซื้อได้ค่ะ ตลาดแถวบ้านเราย่านคลองสาม จะมีทั้งตลาดเช้าและตลาดเย็น อยู่ในหมู่บ้านข้างเคียง เราชอบไปตอนตลาดเช้ามากกว่า เพราะของจะเอามาจากตลาดไท สด และได้จำนวนเยอะมากกว่าตลาดช่วงเย็น ราคาถูก ๆ 10 20 บาทเท่านั้น อย่างไหลบัว กำเล็ก ๆ เพียง 10 บาท สามารถนำมาทำแกงส้ม หรือตำส้มได้แซ่บเชียว ซื้อกำสองกำ แบ่งไว้ทำอาหารมื้ออื่น ๆ ได้ด้วยค่ะ ไม่ต้องกลัว เลยว่าเงิน 5000 บาทที่ได้มาจะไม่พอ หากรู้จักใช้รู้จักประหยัดทำกินเอง อย่างปลาย่างนี้ สามารถนำไป ตำปลาป่น หรือนำไปต้มโคร้งกินอร่อยมากค่ะ เพียง 20 บาทและซื้อเครื่องต้มยำอีก 5 บาท สามารถแบ่งไว้ยำปลากระป๋อง และไว้ต้มโคร้งได้เลย วัสถุดิบแต่ละอย่างสามารถนำไปแบ่งลดต้นทุนประหยัดเงินในการซื้อได้เยอะเลยค่ะ วันไหนไม่รู้จะทำอะไรกิน ไข่เจียว ไข่ดาว มาม่าต้มก็อร่อยไม่เบา เลยนะคะ หรือข้าวที่เหลือจากตอนเช้า ตอนเย็น ๆ เราจะเอามาผัดกับไข่เป็นข้าวผัดไข่ แล้วทำน้ำจิ้ม ซอยพริก มะนาว น้ำปลา อร่อยเด็ดเหมือนภัตตาคารเลยค่ะ กินหรูกินแพงเท่าไรก็ไม่สุขเท่ากับการได้กินกับครอบครัวจริง ๆ นะคะ ส่วนอันนี้เราลองทำคร่าว ๆ สมุมติว่าได้เงินเยียวยา 5000 บาท จริง ๆ เราจะใช้อย่างไรให้พอสิ้นเดือน สรุปคร่าว ๆ ได้ประมาณนี้ค่ะ เฉลี่ยสัปดาห์ละ หนึ่งพันเศษ ๆ วัสดุที่ซื้อก็ยังเหลือไว้ประกอบอาหารมื้ออื่น ๆ ด้วยค่ะ ในยุคที่วิกฤตแบบนี้ต้องรู้จักกินรู้จักใช้นะคะ หรือวันไหนที่คิดไม่ออกจะทำอะไรกิน ไปตลาดเดินดูอาหารสำเร็จรูปก็มีให้เลือกซื้อค่ะ แถวบ้านเรามี ถุงละ 20 บาทด้วยนะ ปริมาณพอเหมาะรสชาติพอใช้ได้ เพราะส่วนใหญ่ ย่านที่อยู่ จะมีแรงงานต่างด้าว และสาวโรงงานเยอะมาก ราคาอาหารจึงไม่ค่อยสูงนัก จะมีบางร้าน ถ้าผัด แกง หน้าร้านเลย จะตกอยู่ประมาณถุงละ 40 บาทค่ะ วันไหนเบื่อฝีมือตัวเองแล้ว อาจจะฟรีเดย์ซื้อเขากินบ้างก็ได้นะคะ และนี่คือแนวทางคร่าว ๆ ในการใช้เงินเยียวยา 5000 อย่างไรให้รอดครบเดือนค่ะ ลองนำไปปรับใช้ ไปจ่ายตลาดทำกินดูนะคะ แล้วคุณจะรู้ว่า เงินทุกบาทมีค่าจริง ๆ ค่ะ ประหยัดกว่าการซื้อเขาทุกมื้อแน่นอนค่ะ ภาพ ผู้เขียน