หลังจากเกิดการเเพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 แพร่ระบาดอย่างหนักในประเทศไทย จนถึงตอนนี้ แม้จะควบคุมสถานการณ์ได้ในระดับหนึ่งเเล้ว แต่ก็ยังไม่น่าไว้วางใจ เนื่องจากในหลายประเทศ เกิดการระบาดในรอบสอง เราจึงต้องคงบคุม และปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ทำให้รัฐบาลประกาศให้ทุกโรงเรียนจัดการเรียนการสอนเเบบออนไลน์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ในวันที่ 18 พฤภาคม 2563 ที่ผ่านมา ล่าสุดในโลกออนไลน์ ผู้คนกำลังพูดถึงการจัดการเรียนการสอนอนไลน์เป็นจำนวนมาก เรามาดูกันว่า เราเห็นอะไรบ้าง กับการทดลองเรียนออนไลน์วันเเรก 1.นักเรียนบางส่วนยังไม่มีความพร้อมในการเรียนออนไลน์ ทั้งการปรับตัวให้เข้ากับการเรียนออนไลน์ และการขาดเทคโนโลยีในการเข้าถึงการเรียนออนไลน์ ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ ถ้าเราขาดคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค หรือแม้กระทั่งโทรทัศน์ละ เราจะทำอย่างไรให้เข้าถึงการเรียนออนไลน์เราควรแก้ปัญหาให้กับตัวเองที่เป็นปัญหาของระบบนี้ โดยการไปดูกับเพื่อนหรอ นั่นก็ถือเป็นความคิดที่ดี แต่ถ้าในละเเวกบ้านเราไม่มีใครเลยละ เราจะทำอย่างไร นั่งรถไปหาเพื่อนหรอ อ้าว..ถ้าเป็นแบบนี้ เราจัดการเรียนการสอนที่โรงเรียนเหมือนเดิมไม่ดีกว่าหรอ นี้คือปัญหาบางส่วนของการเรียนออนไลน์วันแรก ที่ต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้เข้ากับสภาพเเวดล้อมของเด็กในโรงเรียนนั้น ๆ อย่างเหมาะสม ในทางกลับกันเด็กบางคนที่มีโอกาสทางเทคโนโลยีมากกว่าเด็กคนอื่น กลับไม่สนใจที่จะเรียนเท่าที่ควร บางคนนั่งเปิด Youtube, Facebook, หรือเล่นเกมไปด้วย พร้อมกันกับเปิดทีวีช่อง DLTV ทำให้พ่อแม่ ผู้ปกครองต้องมานั่งควบคุมระหว่างการเรียนออนไลน์อีกด้วย 2. ผู้ปกครองมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น มีเงินจำนวนจำกัด ยิ่งช่วงเวลานี้ เป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจหยุดชะงัก เกิดการเลิกจ้างงาน แค่เงินในการใช้ชีวิตประจำวันยังลำบากเลย แล้วเขาจะเอาเงินส่วนไหน มาสนับสนุนลูกของเขาในส่วนการเรียนออนไลน์นี้ คำตอบคงหนีไม่พ้น คือ พวกเขาเหล่านี้ต้องกู้หนี้ยืมสิน เพื่อที่จะซื้อโน๊ตบุ๊คเครื่องใหม่ ทีวีเครื่องใหม่ ไหนจะค่าอินเทอรืเน็ตที่ต้องจ่ายเป็นรายเดือน ให้สามารถเข้าถึงการเรียนออนไลน์ได้เหมือนคนอื่นๆ นี่เป็นการผลักภาระอีกครั้งให้ผู้ปกครองหรือไม่ 3. แม้กระทั่งครู และกระทรวงศึกษาธิการที่จัดการเรียนการสอนออนไลน์เองนั้นก็ยังไม่มีความพร้อม เพราะเป็นเรื่องที่แปลกใหม่ ยังไม่เคยพบเจอมาก่อน เราเห็นได้จากเนื้อหาของครูที่เป็นคนสอนออนไลน์ผ่าน DLTV ที่สอนผิด โดนคนในโลกออนไลน์วิจารณ์กันอย่างกว้างขว้าง ในส่วนนี้ผมเห็นใจครูที่จัดการเรียนการสอนออนไลน์พอสมควร คงต้องปรับเนื้อหาข้างในกันยกใหญ่เลยทีเดียว เพื่อลดกระเเสวิพากษ์ วิพากษ์วิจารณ์ จากคนบนโลกออนไลน์ แต่ในอีกมุมหนึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ที่เราช่วยกันคัดกรองเนื้อหาของบทเรียนให้มีความถูกต้องแก่เด็ก ๆ ในการเรียน 4. ช่องทางการเรียนออนไลน์ยังคงมีปัญหา แม้จะมีด้วยกันถึง 6 ช่องทาง แต่ก็ไม่สามารถรองรับการเข้ามาเรียนพร้อมกันของนักเรียนในระบบได้ ช่องทางทั้ง 6 ช่อง ได้แก่ ทีวีดิจิทัล ช่อง 37-51 ทีวีดาวเทียม Ku-Band (จานทึบ) ช่อง 186-200 ทีวีดาวเทียม C-Band (จานโปร่ง) ช่อง 337-351 ทางเว็บไซต์ www.dltv.ac.th. ผ่านทางมือถือ Application DLTV Youtube DLTV1 Channel โดยปัญหาใน 3 ช่องทางแรกที่พบคือ ไม่มีสัญญาณ, หาช่อง DLTV ไม่พบ, กล่องที่ใช้ดูทีวีผ่านดาวเทียมต้องเป็นกล่องแบบเอชดีเท่านั้น และอีก 3 ช่องทางที่เหลือทางออนไลน์เกิดเว็บล่มตั้งแต่ช่วงเช้า เนื่องมาจากมีคนเข้าใช้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งจำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วพอสมควร ในบางพื้นที่จึงเกิดการรับชมที่ขัดข้อง 5. จากการสังเกตน้องที่นั่งเรียนออนไลน์อยู่ ก็พอจะเข้าใจปัญหาอยู่บ้าง ปัญหาอีกอย่างหนึ่งเลย ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่ทีเดียว นั่นคือ สอนเร็วเกินไป ไม่มีเวลาคิด คิดไม่ทัน ท้ายที่สุดเด็กไม่เข้าใจ เป็นงานของพ่อแม่ต้องมานั่งสอนอีกครั้ง จึงเกิดคำถามที่ตามมาด้วยว่า แบบนี้เราจะจ่ายค่าเทอมไปทำไม ในเมื่อเราต้องสอนลูกของเราเอง นี่ก็ถือเป็นงานที่ท้าทายสำหรับผู้ที่ออกแบบการศึกษาออนไลน์ให้ดีขึ้นกว่าครั้งแรกที่ผ่านมา 6. เด็กอนุบาล สมควรที่จะต้องมานั่งเรียนออนไลน์จริง ๆ หรอ ผมกลับคิดว่านี่เป็นช่วงเวลาพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก ๆ การฝึกให้ขีดเขียนอย่างอิสระ เรียนรู้ธรรมชาติ เพื่อไม่ให้เป็นการปิดกั้นจินตนาการของเด็กในวัยนี้ แทนที่จะไปนั่งจดจ่ออยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ ที่อาจเกิดปัญหาทั้งการเสียสายตา การขาดสมาธิ เพราะเป็นเรื่องยากที่เราจะสร้างแรงจูงใจให้เด็กจดจ่ออยู่กับการเรียนออนไลน์ได้เป็นเวลานาน ๆ 7. มีคนเป็นจำนวนมากไม่เห็นด้วยกับการเรียนออนไลน์ เราจะพาไปดู 2 ประเทศที่กลับมาเปิดการเรียนการสอนในห้องเรียนอีกครั้งว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง ประเทศจีน นักเรียนเมืองอู่ฮั่น นั่งเรียนในห้องเรียน โดยมีแผ่นพลาสติกใสกั้นรอบโต๊ะ ประเทศฝรั่งเศส พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เกือบ 70 ราย หลังจากเปิดเรียนได้ เพียง 1 สัปดาห์ ทำให้โรงเรียนหลายแห่งต้องปิดเรียนอีกครั้ง เราคงบอกไม่ได้ว่า การกลับไปเรียนที่โรงเรียนอีกครั้ง จะดีกว่าการเรียนออนไลน์ที่เป็นอยู่ในตอนนี้หรือไม่ เเต่นี่เป็นอีกครั้งที่เราได้เห็นแผลความเหลื่อมล้ำของสังคมไทย ที่เปิดขึ้นอีกครั้ง เพื่อน ๆ คิดว่าการเรียนออนไลน์จะเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดหรือไม่ และมันเกิดประโยชน์กับเด็กขนาดไหน ในส่วนของผม ผมคิดว่าการเรียนออนไลน์เป็นเพียงทางเลือกที่สองเท่านั้น เนื่องจากการเรียนออนไลน์ในวันแรกนี้เป็นการเรียนแบบ one way เด็กไม่สามารถโต้ตอบกลับมาหาผู้สอนได้ เราคงต้องรอดูท่าทีของกระทรวงศึกษาอีกครั้ง ว่าจะเอาอย่างไรต่อไปกับเรื่องนี้ ภาพปกจาก Pixabay ออกแบบโดย canva.com ภาพประกอบโดย Pixabay : รูปที่1 / รูปที่2 / รูปที่3