อย่างที่เราทราบกันดีว่าในช่วงตลาดนักเตะที่กำลังเดือดระอุในตอนนี้ หนึ่งในสโมสรที่สร้างเสียงฮือฮาในการเสริมทัพมากที่สุดคงหนีไม่พ้นทัพเรือใบสีฟ้า " แมนเชสเตอร์ ซิตี " ที่ทุ่มเงินกระชากตัวดาวรุ่งนรกแตกอย่าง " เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ " มาร่วมทีมในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าได้สำเร็จ แต่ในบทความนี้ผมจะไม่ได้มาวิเคราะห์ดีลดังกล่าว แต่ผมจะมาเจาะถึงสถานีต่อไปของ " กาเบรียล เฆซุส " อีกหนึ่งแนวรุกที่ตกเป็นข่าวว่าต้องการย้ายทีมในตลาดรอบนี้โดยมีอาร์เซนอลและเชลซีเป็นสองทีมที่มีแนวโน้มมากที่สุดสถานการณ์สัญญาของปีกชาวบราซิลเหลืออีกเพียง 12 เดือนเท่านั้น และการเสริมทัพในตลาดรอบนี้ของแมนซิตี้จะกระทบต่อตำแหน่งตัวจริงของเฆซุสโดยตรง เพราะฉะนั้นการย้ายในตลอดรอบนี้ส่วนตัวผมมองว่าสมเหตุสมผลมากๆ เพราะมันจะเป็นผลดีต่อทั้งสโมสรและตัวนักเตะ ถ้าหากกลั้นใจไม่ยอมขายโอกาสลงสนามก็จะน้อยลง และสโมสรก็ต้องยอมเสียฟรีในซัมเมอร์หน้าถึงแม้สถานการณ์ของเฆซุสกับทัพเรือใบจะไม่แน่นอนแบบนี้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นนักเตะที่หมดสภาพหรือฟอร์มตกจนต้องหลุดตัวจริงอะไรนะครับ ส่วนตัวผมมองว่าด้วยขุมกำลังดั้งเดิมของทัพเรือใบที่แน่นมากๆ มีผู้เล่นในตำแหน่งแนวรุกฝีเท้าจัดจ้าน และสไตล์ใกล้เคียงกันหลายตัว ประกอบกับการเสริมทัพใหม่ในดีลของ " เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ " และ " ฆูเลียน อัลบาเรซ " จึงทำให้ตำแหน่งแนวรุกของทีมมีจำนวนผู้เล่นแน่นเกินไปหน่อย การเปลี่ยนถ่ายจึงเป็นทางออกที่เป็นสัจธรรมของโลกฟุตบอลปฏิเสธไม่ได้ว่าเฆซุสคือหนึ่งนักเตะระดับเกรด A ของยุโรป เขามีสกิลความสามารถระดับเทพตามสไตล์บราซิลเลียน แถมมีประสบการณ์คว้าแชมป์มากมายในอังกฤษ เป็นตัวหลักของทีมชาติบราซิลที่มีโอกาสติดทีมไปเล่นในศึก World Cup 2022 เพราะฉะนั้นผมมองว่าหากทีมไหนสามารถกระชากตัวดาวเตะวัย 25 ปีผู้นี้ไปครองได้ย่อมเป็นการเสริมทัพที่คุ้มค่าแน่นอนครับต่อมาเรามาวิเคราะห์ถึงสถานีต่อไปของเฆซุสกันดีกว่าครับ โดยอย่างที่บอกไปในช่วงต้นของบทความว่าอาร์เซนอลกับเชลซีคือสองทีมเต็งที่มีข่าว แต่อย่าลืมว่ามียักษ์ใหญ่จากเสปนอย่าง " เรอัล มาดริด " เป็นอีกหนึ่งทีมที่ให้ความสนใจเฆซุสเช่นกัน แต่ส่วนตัวผมขอตัดโอกาสของทัพราชันชุดขาวไปก่อนครับ เพราะดูเหมือนว่าตัวนักเตะยังอยากค้าแข้งในลีกผู้ดีมากกว่า กลับมาที่อาร์เซนอลที่มีข่าวก่อนใครเพื่อน ด้วยขุมกำลังทีมชุดใหม่ที่ถูกสร้างเพื่อ " อนาคต " แต่มันเต็มไปด้วยผู้เล่นอายุน้อยที่ไร้ประสบการณ์ระดับสูง การได้เฆซุสมาร่วมทีมคือเป้าหมายที่นอกจากจะสร้างความแตกต่างในสนามแล้ว สโมสรอาจมองไปถึงบารมีในห้องแต่งตัวของทีมด้วย ผมมองว่ามีโอกาสที่เฆซุสจะลงเอยกับทัพปืนโต ในมุมมองของนักเตะแน่นอนว่าเขาได้รับการการันตีเรื่องตำแหน่งตัวจริง 100 % ส่วนในมุมมองของสโมสรแมนซิตี้ก็อาจมองได้ว่าอาร์เซนอลยังไม่ใช่คู่ต่อกรของพวกเขาในเร็วๆ นี้ การปล่อยเฆซุสไปจึงไม่น่าจะส่งผลกระทบอะไรมากมายส่วนทางฝั่งเชลซีก็ดูจะมีปัญหาในตำแหน่งแนวรุกเช่นกัน เพราะความพังพินาศของ " โรเมลู ลูกากู " ที่เล่นได้ไม่สมกับความคาดหวังของแฟนบอล และมีโอกาสสูงมากที่ฟอร์มออกทะเลไปยาวๆ จนมีอันต้องกระเด็นพ้นทีม ส่วนผู้เล่นคนอื่นในแนวรุกนอกจาก " ไค ฮาแวทซ์ " ก็ยังดูฝากผีฝากไข้ไม่ค่อยได้เพราะแต่ละคนใช้โอกาสเปลืองอีกประเด็นคือเราต้องไม่ลืมว่าเฆซุสสมัยขึ้นมาติดทีมเรือใบใหม่ๆ เคยเล่นเป็นหน้าเป้าที่ฟอร์มดียิงประตูคมกริบมาก่อน จึงไม่แน่ว่ากุนซือสิงห์บลูอาจจะปลุกชีพทักษะเก่าๆ ของเฆซุสกลับมาใช้เสริมแกร่งให้ทีมได้ หรือหากจะเล่นในตำแหน่งปีกตามเดิมก็ยังการันตีการทำประตูได้เสมอๆ จากสถิติยิง 13 ประตู 12 แอสซิสต์ในฤดูกาลที่ผ่านมาสรุปภาพรวมไม่ว่าเฆซุสจะย้ายไปไหนล้วนเหมาะสมทั้งสิ้นครับ เพราะอย่างที่ผมบอกไปว่าสไตล์การเล่น ประสบการณ์ และทัศนคติมืออาชีพของเฆซุสจะช่วยยกระดับแผงแนวรุกของทั้งสองทีมได้แน่นอน ที่เหลือคงตัดสินกันที่รายละเอียดเรื่องค่าเหนื่อยและสัญญาที่ทั้งสองทีมยืนให้เจ้าตัวพิจารณาแต่ส่วนตัวผมมองว่าเชลซีดูจะมีภาษีดีกว่าในแง่ของการใช้จ่ายที่พร้อมทุ่มเสมอ ( ถึงแม้จะเปลี่ยนเจ้าของทีมก็ตาม ) ประกอบกับการได้เล่นในศึก UCL ฤดูกาลหน้าของเชลซีที่ผมมองว่าเป็นตัวดึงดูดชั้นดีเลยทีเดียว ต่างจากอาร์เซนอลที่ได้เล่นแค่ยูโรปาลีกเท่านั้น ** Ref Picture แหล่งที่มารูปภาพภาพหน้าปก 1 จาก Gabriel Jesus ภาพประกอบ 1 , 2 , 3 , 4 จาก Gabriel Jesus *STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565