การแข่งขันพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2020-2021 แข่งกันมา 37 นัดแล้ว เหลือนัดที่ 38 นัดสุดท้ายเพียงนัดเดียว การแข่งขันในฤดูกาลนี้ก็จะรูดม่านสิ้นสุดลง เราคงทราบกันดีแล้วว่าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้คือ ทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถือเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 5 ของทีมเรือใบสีฟ้า และนับเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 3 ของกุนซือสมองเพชรเป๊ป กวาดิโอล่า ส่วนรองแชมป์ตกเป็นของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การทำทีมของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา แชมป์กับรองแชมป์ไม่มีปัญหาเราทราบทีมที่ได้กันไปแล้ว แต่อันดับ 3 กับอันดับ 4 นี่ซิที่ยังไม่นิ่ง โดยสองอันดับนี้คือสองทีมสุดท้ายที่จะได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในฤดูกาลหน้าตามทีมแมนซิตี้และแมนยูไป โดยนัดที่ 37 ที่เพิ่งแข่งขันกันจบไปมีการเปลี่ยนแปลงอันดับตารางคะแนนพอสมควร เนื่องจากอันดับ 3 เลสเตอร์ ซิตี้ กับอันดับ 4 เชลซี มาแข่งขันตัดแต้มกันเอง ซึ่งผลปรากฎว่าเป็นฝ่ายสิงห์บลูส์เชลซีชนะไป 2-1 ถอนแค้นที่เพิ่งพ่ายแพ้ เลสเตอร์ ซิตี้ ในนัดชิงเอฟเอคัพไปเมื่อไม่กี่วันก่อนได้สำเร็จ และประกอบกับทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 5 บุกมาเอาชนะ เบิร์นลีย์ 3-0 ส่งผลให้ เชลซี และ ลิเวอร์พูล แซง เลสเตอร์ ขึ้นมาอยู่อันดับ 3 กับ อันดับ 4 ส่วน เลสเตอร์ ซิตี้ ต้องตกมาอยู่อันดับ 5 ลงไปแทน จากตารางคะแนนล่าลุดที่ทุกทีมแข่ง 37 นัดเท่ากัน อันดับ 3 เป็นทีม เชลซี มี 67 คะแนน บวกกับลูกได้เสียอีก 23 ลูก อันดับ 4 เป็นทีม ลิเวอร์พูล มี 66 คะแนน บวกกับลูกได้เสียอีก 24 ลูก อันดับ 5 เป็นทีม เลสเตอร์ ซิตี้ มี 66 คะแนน บวกกับลูกได้เสียอีก 20 ลูก หากดูอันดับคะแนนแล้วทั้ง 3 ทีมยังมีลุ้นกันอยู่ในนัดสุดท้าย ที่หากใครพลาดอาจต้องน้ำตาตก ด้วยคะแนนที่เบียดคู่คี่กันมาก และเงินรางวัลที่ได้ของทีมที่ไปแข่งยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก กับ ยูฟ่ายูโรปาลีก ก็แตกต่างกันมหาศาล ทั้ง 3 ทีมจึงต้องทุ่มทุกอย่างที่มีเพื่อคว้าตั๋ว 2 ใบสุดท้ายให้ได้ เชลซี อาจได้เปรียบกว่าทีมอื่นตรงที่ กุมชะตาชีวิตในมือตนเอง ไม่ต้องยืมจมูกใครหายใจ ซึ่งหากนัดสุดท้ายทีมพวกเขาชนะ ก็ไม่จำเป็นต้องดูผลการแข่งขันของทีมอื่น สิงห์บลูส์ จะได้ 70 คะแนน ส่งผลให้ได้อันดับ 3 อย่างแน่นอน ถึงแม้ว่า ลิเวอร์พูล กับ เลสเตอร์ จะชนะด้วยก็ตาม เพราะคะแนนก็จะได้กันเพียง 69 คะแนน ไล่ไม่ทัน โดยนัดสุดท้าย เชลซี จะต้องบุกไปเยือน แอสตันวิลล่า ทีมที่ไม่มีลุ้นอะไรแล้ว ซึ่ง 7 นัดหลังสุดที่เจอกันทุกรายการ เชลซี สามารถเอาชนะได้ 6 นัด เสมอเพียงนัดเดียว ลิเวอร์พูล ทีมแชมป์เก่าที่ในปีนี้เจอมรสุมซัดกระหน่ำ ที่มีปัญหาผู้เล่นตัวจริงบาดเจ็บหลายคน รวมไปถึงกองหน้าฝืดไม่คมเหมือนเก่า ทำให้เมื่อต้นปีเล่นแพ้คาบ้าน 6 นัดติดกัน จนอันดับจากที่เคยนำจ่าฝูงร่วงลงมาอันดับ 7 อันดับ 8 ความหวังไปยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกแทบหมดหวัง แต่มาเร่งเครื่องในสี่นัดล่าสุดที่ชนะรวดทำให้คะแนนตีคู่มาเท่ากับ เลสเตอร์ ซิตี้ แต่ผลต่างประตูได้เสียดีกว่า 4 ลูก อันดับจึงอยู่เหนือกว่า โดยโปรแกรมนัดสุดท้าย ลิเวอร์พูล จะเปิดบ้านการมาเยือนของทีม คริสตัล พาเลส ซึ่งสถิตินัดล่าสุดที่เจอกันเมื่อปลายปีที่ผ่านมา หงส์แดงบุกไปชนะ คริสตัล พาเลส ถึงถิ่นมาแล้ว 7-0 ในนัดนี้ที่จะเจอกัน ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องชนะไว้ก่อน เพื่อที่จะมี 69 คะแนน และบวกลูกได้เสียเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งก็จะทำให้โอกาสได้อันดับ 4 ค่อนข้างสดใส แต่ถ้าทำได้แค่เสมอหรือว่าแพ้ก็ต้องแช่งให้ เลสเตอร์ ซิตี้แพ้ด้วย เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมแชมป์เอฟเอ คัพ ล่าสุด เกาะกุมอยู่อันดับ 3 อันดับ 4 มาเกือบทั้งฤดูกาล มาพลาดทำคะแนนหล่นช่วงท้ายฤดูกาล ทำให้ ลิเวอร์พูล ไล่กวดมาทัน โดยนัดสุดท้าย เลสเตอร์ ซิตี้ จะเจอของหนักสุด เมื่อต้องเปิดบ้านเจอทีม สเปอร์ส ที่แม้ว่าไม่มีลุ้นไปยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกแล้ว แต่ สเปอร์ส ยังต้องทำอันดับเพื่อไปเตะยูฟ่ายูโรปาลีก ทำให้งานของทีม เลสเตอร์ ยากกว่า เชลซี และ ลิเวอร์พูล เป็นเท่าตัว โดย เลสเตอร์ จำเป็นต้องชนะสถานเดียว แล้วมานั่งลุ้นให้ลิเวอร์พูลไม่ชนะ หรือถ้าทีม ลิเวอร์พูล ชนะ พวกเขาก็ต้องยิงชนะ สเปอร์ส ให้ลูกได้เสียมากกว่า ลิเวอร์พูลให้ได้ (ซึ่งขณะนี้ ลิเวอร์พูล ลูกได้เสียดีกว่า 4 ลูก) ทีมเลสเตอร์ถึงจะมีสิทธิ์คว้าตั๋วใบสุดท้ายไป นัดสุดท้ายการแย่งชิงอันดับ 3 อันดับ 4 จึงต้องลุ้นกันถึงเสียงนกหวีดเป่าจบเกม ใครจะคว้าตั๋ว 2 ใบสุดท้ายไป ลุ้นกันได้วันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม นี้ โดยทุกคู่แข่งเวลาพร้อมกันหมด 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ใครรักทีมไหน เชียร์ทีมไหน ตามลุ้นกันได้วันอาทิตย์นี้ ไม่นานเกินรอครับ ขอบคุณภาพหน้าปกจาก Twitter/ChelseaFC Twitter/LiverpoolFC Twitter/LeicesterCity ขอบคุณภาพทีมเชลซีจาก Twitter/ChelseaFC ขอบคุณภาพทีมลิเวอร์พูลจาก Twitter/LiverpoolFC ขอบคุณภาพทีมเลสเตอร์ ซิตี้จาก Twitter/LeicesterCity ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !