เช็คอิน ณ.หนองคาย 1 ใน 77 จังหวัด ของประเทศไทย ถ้าเอ่ยชื่อก็คงไม่มีใครไม่รู้จัก และเมื่อครั้งที่ผู้เขียนได้มีโอกาสไปเยือนจังหวัดหนองคายนั้น ถือว่าประทับใจมาก ผู้คนที่นั่นใจดี บรรยากาศก็ดี สามารถเดินเล่นริมโขงและถ่ายรูปสวยๆได้อีก มีของฝากสวยๆมากมาย ราคาก็ไม่แพง เสียดายที่ได้ไปแค่วันเดียว และโซนตลาดมีการปรับปรุงด้วย เลยเดินไม่ครบ แต่ก่อนจะออกเดินทางเราไปหาอะไรกินกันก่อน " แดงแหนมเนือง " ถ้าไม่ได้กินที่ หนองคาย ก็คงมาไม่ถึงหนองคายเนาะ ร้านที่นี่ใหญ่มากค่ะลูกค้าก็เยอะมาก ๆ เช่นกัน ถ้ามาตอนช่วงเวลาเที่ยง ๆ ต้องต่อคิวยาวเลยนะคะ เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปบรรยากาศภายในและภายนอกร้านมาให้ชม ( เหมือนว่าเขาจะห้ามถ่ายรูปค่ะ ) แต่ที่ร้านแดงแหนมเหนือง สาขานี้มีทั้งที่นั่งแบบห้องแอร์ และแอร์ธรรมชาตินะคะ ถ้าใครนั่งข้างนอกก็สามารถมองเห็นริมโขงด้วยค่ะ ส่วนในเรื่องของเมนูยอดฮิตของที่นี่มีหลายอย่างให้เลือกเลยนะคะ ราคาก็ไม่แพงด้วยค่ะ แต่เด็ดสุดก็เหนมเนืองนี่แหละค่ะ ผักสด ๆ น้ำจิ้มกลมกล่อม ฟินจนต้องบอกต่อ กินที่ร้านแล้วอิ่มแล้ว จะสั่งกลับไปเป็นของฝากก็ได้ค่ะ ตอนนี้ก็มีส่งเดลิเวอรี่กันเยอะเลยนะคะ ลอง ๆ กดค้นหาใน Google กันได้ค่ะ " แดงแหนมเนือง " หลังจากท้องอิ่มก็ออกเดินเล่นกันเลยค่ะ มาหนองคายก็จะเจอรูปปั้นพยานาคเยอะหน่อยนะคะ ว่าแล้วเรามาเริ่มจากมุมยอดฮิตกันเลยดีกว่า ที่นี่มีจุดถ่ายรูปเยอะมากค่ะ มาที่เดียวถือว่าคุ้มมาก ที่แรก ป้ายท่าเสด็จ สุดเขตแดนที่เมืองหนองคาย คนละฝั่งกับป้ายท่าเสด็จ ก็จะเจอป้าย ณ.ตลาดท่าเรือ ตรง ตลาดท่าเรือ มีร้านขายของฝาก ของที่ระลึกด้วยน่ารัก ๆ มากมายเลยนะคะ ถัดมาอีกนิดก็จะเจอกับจักรยานคันเก่า เหมือนเป็นจักรยานส่งไปรษณีย์ในสมัยก่อน ที่ตอนนี้ก็จอดไว้เพื่อให้คนที่เดินผ่านไปมา คนที่มาเยี่ยมชม เมืองหนองคาย ได้แวะมาถ่ายรูปกันชิค ๆ เหมือนได้ย้อนวันวาน ระหว่างทางที่เดินก็จะเจอมุมสวยตลอดทางเดินค่ะ สำหรับใครจะมาค้างคืนตามริมโขงก็มีที่พักเยอะแยะมากมายเลยค่ะเลือกได้ตามใจชอบเลยค่ะ สำหรับรถเก๋ ๆ คนนี้ เห็นแล้วสะดุดตา สามารถนั่งได้จริง ๆ นะคะ แต่เขาน่าจะมีไว้บริการสำหรับคนที่มาเข้าพักที่โรงแรมของเขาค่ะ ส่วนเรานั้นก็แอบถ่ายรูปเอง สำหรับรูปเสาหลักกิโลอันนี้ ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ คือเป็นคนที่ชอบถ่ายรูปหลักกิโล เวลาไปเที่ยวที่ไหน แบบ 0 กิโลเมตร เราพิชิตแล้วนะ แต่ขอแนะนิดนึงนะคะใครมาช่วงกลางวันแดดจะร้อนมากค่ะ แต่พอเริ่มเย็นอากาศดีเลยค่ะมีลมพัดเบา ๆ อาจจะเพราะใกล้ริมโขง พอแดดเริ่มหมดก็จะเริ่มเห็นคนแถวนั้นมาเดินเล่น บางคนก็มาวิ่งออกกำลังกาย ออกมาถ่ายรูป และก็เริ่มมีรถขายของมาตั้งร้านริมถนน ทั้งร้านไอติม ร้านปลาหมึกย่าง และเหล่าคณะแก๊งนำโชคค่ะ และแล้วเราเดินมาจนถึงจุดสำคัญ พระยานาคพ่นน้ำ ถ้าประเทศสิงคโปร์มีสิงโตพ่นน้ำ จังหวัดหนองคายของเรา ก็มีพระยานาคพ่นน้ำเหมือนกัน แต่พระยานาคพ่นน้ำเป็นเวลานะคะ ถ้าเดินมาแล้วพยานาคยังไม่พ่นน้ำก็ เดินเล่นถ่ายรูปรอสักพักเดี๋ยวพระยานาคก็จะพ่นน้ำค่ะ น่าจะเว้นระยะห่างประมาณ 15-20 นาทีค่ะและตรงข้ามพระยานาคพ่นน้ำก็มีวัดลำดวนให้คนที่มาเยือนหรือคนแถวนั้นกราบไหว้กันด้วยค่ะ หรือใครอยากจะเสี่ยงโชคก็มีขายตลอดทางเช่นกันค่ะ ชอบเจ้าไหนเลือกได้ตามใจเลย ( ซอยเล็ก ๆ ข้างวัดลำดวนสามารถเดินไปยัง บขส.หนองคายได้นะคะ เปิด google mapsได้เลย) ไหว้พระเสร็จ หันกลับมา พยานาคพ่นน้ำต่อค่ะ อย่างที่บอกไปข้างต้นถ้ามาแล้วยังไม่เจอพยานาคพ่นน้ำก็รอประมาณ 15 -20 นาทีนะคะ จะได้มาแล้วไม่เสียเที่ยว เห็นรถขายไอติม ก็ขอสักถ้วยแล้วกัน ไอติมกะทิเย็น ๆ ราดนม โรยถั่ว บอกได้คำเดียวว่า ฟิน ค่ะ หลังจากดูพระยานาคพ่นน้ำ กินไอติมแล้ว ก็เดินมาเก็บภาพพระอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้ากันสักหน่อย ริมโขงมุมถ่ายรูปเยอะนะคะ คนไม่เยอะ ไม่แย่งกันด้วย หลังจากพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าแล้ว ผู้เขียนก็ขอจบ " เช็คอิน ณ. หนองคาย " ไว้แค่นี้นะคะ สำหรับครั้งแรกของการมาเยือนเมืองหนองคายบอกเลยว่าประทับใจมาก ประทับใจตั้งแต่ลงรถทัวร์ มาเจอคุณลุงคนขับแท็กซี่มาส่งก็ใจดี คิดตามราคา แถมแนะนำเส้นทางการเดินเที่ยว ทำให้พวกเราได้เห็นหลาย ๆ มุม ของ หนองคาย แถมอาหารที่นี่ราคาน่ารักมาก ๆ ด้วยค่ะ ถ้าเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ มีโอกาสอย่าลืมแวะไปเยี่ยมชาวหนองคายกันนะคะ " ทุกการเดินทางคือประสบการณ์ " ที่มา : เครดิตรูปภาพประกอบโดยผู้เขียน