ในฐานะนักเดินทางวันนี้ผู้เขียนจะมาเล่าประสบการณ์การเดินทางไปต่างประเทศ คุณอาจจะมองว่าใคร ๆ ก็เขียนในเรื่องนี้เยอะแยะเต็มไปหมด ใคร ๆ ก็เดินทางไปเที่ยวคนเดียวในต่างประเทศได้ แต่การเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางครั้งแรก เรื่องราวประสบการณ์ ตั้งแต่เริ่มวางแผนตลอดจนการเดินทางจริงมันมักไม่เป็นไปตามแบบแผนที่เราวางไว้เสมอ ดังนั้นผู้เขียนจะบอกว่าการวางแผนไม่ใช่ทุกสิ่งของการเดินทาง แต่เป็นเพียงไกด์ไลน์ที่คุณจะใช้ชี้นำการเดินทางได้อย่างราบรื่นและไม่มีอุปสรรคมากนัก การวางแผนการเดินทางสำหรับการเดินทางคนเดียวเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ สำหรับผู้เขียนเองพบว่าการวางแผนการเดินทางในสถานที่ที่เราไม่เคยไปอาจจะเป็นเรื่องไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยาก เพราะทุกวันนี้เราสามารถเรียนรู้โลกได้บนสังคมอินเตอร์เน็ททั้ง ๆ ที่เราไม่เคยไปแต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณคิดจะเดินทางคุณต้องมั้นใจเสียก่อนว่าคุณก็พร้อมจะผิดหวังกับแผนที่คุณวางไว้เช่นกัน เพราะมันอาจจะไม่เป็นอย่างที่คุณคิด ทำไมผู้เขียนถึงอยากเขียนเรื่องราวนี้ผ่านบทความนี้ ผู้เขียนอยากจะแชร์ประสบการณ์ที่ดีในการเดินทางคนเดียวในต่างแดน แดนกิมจิ ที่ใคร ๆ ก็บอกว่าไม่มีอะไร แต่ผู้เขียนพบกว่าเกาหลีมีดีกว่าที่ใคร ๆ บอก เราทุกคนต่างมีวัตถุประสงค์ในการไปเที่ยวที่แตกต่างกัน บ้างก็ไปเที่ยวเพื่อไปช๊อปปิ้ง บ้างก็ไปเที่ยวแบบ Adventure บ้างก็ไปเที่ยวแบบเชิงศึกษาวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของสถานที่นั้น ๆ สำหรับผู้เขียนเองเป็นคนชอบเที่ยวสไตล์ศึกษาวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ซึ่งคนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยชอบและเบื่อกับการเดินทางแบบนี้ แต่รู้มั้ยการท่องเที่ยวเชิงนี้มันทำให้เรารู้ว่าชาติชาติหนึ่งหรือประเทศประเทศหนึ่ง เค้าเติบโตและพัฒนามาบนพื้นฐานเช่นไร วิถีชีวิตความเป็นอยู่ มารยาททางสังคม วัฒนธรรม ตลอดจนภูมิหลังที่เราไม่อาจจะเรียนรู้ได้หากเราไม่อ่านหนังสือหรือหาอ่านจากอินเตอร์เน็ท ทว่าการเดินทางในครั้งนี้ของผู้เขียนใช้เวลาวางแผนก่อนการเดินทาง 4 เดือน และใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 7 วัน ทุกคนอาจจะตกใจว่าทำไมผู้เขียนถึงได้ใช้เวลาวางแผนนานถึง 4 เดือน เนื่องจากสถานที่ที่เราจะไปมีสถานที่เยอะแยะมากมายที่เราอยากไปแต่เราก็ต้องศึกษาและเลือกสรรว่าจุดไหนเมืองไหนมีสถานที่ที่น่าสนใจ ผู้เขียนไม่เคยไปเกาหลีมาก่อนดังนั้นโซล จึงเป็นเมืองที่ควรไปเพื่อสัมผัส หลาย ๆ คน อาจไปโซลเพื่อช็อปปิ้งในย่านดัง ๆ อย่างกังนัม หรืออิแทวอลที่ตอนนี้กำลังฮิตมาก ๆ ซึ่งแน่นอนผู้เขียนไม่ได้ไปค่ะเพราะผู้เขียนอยากไปเที่ยวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ดังนั้นย่านที่ผู้เขียนเลือกไปในกรุงโซลก็คือ "ย่านอินซาดง" ตั้งแต่เลือกที่พักก็เลือกที่นี่ เพราะบริเวณนั้นอยู่ใกล้พระราชวังถึง 3 พระราชวัง และมีnational museum อยู่แถวนั้นด้วย ไปแล้วก็ต้องวางแผนว่าอยากเที่ยวย่านไหน ที่ไหน กิน นอน อย่างไร ซึ่งผู้เขียนก็เลือกที่จะพักในย่านนี้ โรงแรมมีเยอะชอบแบบไหนราคาแบบไหนบรรยากาศแบบไหน application ช่วยได้ ผู้เขียนใช้ agoda ที่พักเป็นที่พักใหม่ย่านอินซาดง ตึกสูงมองเห็นวิวรอบนอกสวยงาม ชั้นล่างสุดของโรงแรมมีพิพิธภัณฑ์มินเนี่ยนด้วยนะ มีร้านLine friends ด้วยค่ะ ดูได้จากภาพ เครดิตภาพขออนุญาติยกให้ผู้เขียนทุกภาพ เพราะผู้เขียนถ่ายเองทุกภาพค่ะ ที่พักย่านอินซาดง โรงแรม Nine Tree Premier Insadong Hotel ราคา 2500-3000 แล้วแต่ช่วงเลยจ้าว่าไปช่วงไหน สามารถเดินทางจากสนามบินอินชอนได้โดยรถบัสสาย 6005 ลงป้ายสุดท้ายเลยจ้า เดินจากป้ายรถเมล์ใช้เวลา 5นาทีถึงโรงแรมเลยค่ะ โรแรมติดถนนใหญ่เลยค่ะ เดินงายไม่ต้องลกกระเป๋าไกลเลย ด้วยราคานี้จัดเลยค่ะ ใหม่และสะอาด ปลอดภัย ใกล้แหล่งเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ จากภาพเป็นวิวที่มองออกจากหน้าต่างห้องค่ะ ช่วงที่ไปคือเดือนมกราจริง ๆ ควรมีหิมะขาวโพนแต่ บังเอิญวันที่ไปฝนตกก่อนจะ Land ลงที่เกาหลีดังนั้น หิมะก็ถูกชะล้างไปหมด บรรยากาศภาพก็จะประมาณนี้นะคะ แต่ความเย็นไม่น้อยนะคะก็ติดลบ 2 พออยู่ได้ค่ะ ไม่หนาวมาก ไปเดือนนี้ก็จะเดินเที่ยวสบาย ๆ ถ้าไม่เจอหิมะนะคะ พระราชวังชางด๊อก Changdeokgung, 창덕궁 เป็นพระราชวังลำดับที่สอง ซึ่งถูกสร้างขึ้นต่อจาก พระราชวังคย็องบก Gyeongbokgung Palace การก่อสร้างเริ่มขึ้นในปี ค. ศ. 1405 และแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1412 ในรัชสมัยของกษัตริย์แทจง (Taejong of Joseon, 태종; ค.ศ. 1367 – ค.ศ. 1422) พระราชวังแห่งนี้ มีความสำคัญในการเป็น ที่พำนักของพระมหากษัตริย์หลายพระองค์ ในสมัยราชวงศ์โชซอน (Joseon Dynasty) และยังเป็น 1 ใน 5 ของพระราชวังในกรุงโซล ทั้งยังมีสวนลับพระราชวังชางด๊อก (Changdeokgung Secret Garden) ตามรูปด้านบนสวนสวย ๆ หรือรู้จักกันโดยทั่วไปในชื่อของ พีวอน (Biwon, 비원) ซึ่งหมายถึง สวนลับ (Secret Garden) และมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ชางด็อกกุงฮูวอน (Changdeokgung Huwon, 창덕궁 후원 ) ซึ่งอยู่ด้านหลังของพระราชวังชางด๊อก บรรยากาศดีเดินเล่นเรื่อย ๆ ใช้เวลาไป 1 ชั่วโมงกว่าๆ เกือบสองชั่วโมงสวนนี้จะมีรอบเวลาเข้าและมีไกด์ มีภาษาอังกฤษ พาเดินนะค่ะ ใครไปก็ลองเช็กรอบเวลาอีกทีนะค่ะ จะได้ไม่ต้องรีบร้อนหรือรอนาน หลังจากชมสวนก็เดินต่อมายังพระราชวังชังกย็องตามภาพ พระราชวังชังกย็อง Changgyeonggung Palace, 창경궁 ป็นพระราชวังที่ติดอันดับ 1 ใน 5 พระราชวังที่สำคัญที่สุดในเกาหลี เนื่องจากเป็นที่ประทับในช่วงปลายรัชสมัยของกษัตริย์เกาหลีถึง 10 รัชกาล มีความงดงามตามแบบสถาปัตยกรรมเกาหลีแท้ ตั้งอยู่บริเวณใจกลางกรุงโซลของประเทศเกาหลีใต้ เดิมทีนั้นได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นพระราชวังฤดูร้อนกษัตริย์ในราชวงศ์โครยอ และในวันที่สองผู้เขียนเดินไปเดินไปเที่ยวชมวังพระราชวังคย็องบก ดังภาพ พระราชวังคยองบก (Gyeongbokgung Palace) หรือเรียกอีกแบบหนึ่งว่า “พระราชวังคยองบกกุง” เป็นทั้งสัญญลักษณ์และแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของกรุงโซล พระราชวังที่มีขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในกรุงโซล สร้างขึ้นในปี 1394 ในสมัยพระเจ้าแทโจ ราชวงศ์โชซอน พระราชวังนี้จะมีการแสดงโชว์ปลี่ยนเวรทหารหน้าวัง ช่วงสาย 10 โมงเช้า และช่วงบ่ายสองโมง ใครจะไปเดินชมก็ไปช่วงเวลาที่มีโชว์ก็จะได้ชมการแสดงนี้ด้วยค่ะ ซึ่งผู้เขียนใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 10 นาที เท่านั้น โดยการเดินไปยังพระราชวังต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้น ตลอดจน อาหารการกินก็อยู่ในย่านที่มีของกินขึ้นชื่อเราได้ทำการศึกษาไปก่อนก็จะรู้ว่าแถวนั้นเค้าทานอะไรกัน ก็ตามภาพเลยค่ะ ภาษาไทยก็เรียกเกี๊ยวซ่า ซึ่งแถวนั้นมีร้านดังหลายร้าน ลองเดินหาดู สำหรับผู้เขียนก็เลือกกร้านเล็ก ๆ คนไม่เยอะ แต่อร่อยนะจะบอกให้ ลองเดินดูค่ะ ไม่ต้องวางแผนร้านแค่หาข้อมูลว่าแถวนั้นเค้าทานอะไรกันก็พอก่อนไป คือดี ผู้เขียนใช้เวลาอยู่ในโซล 2 วันเท่านั้น และผู้เขียนก็นั่งเครื่องบินภายในประเทศไปยังเมืองยอซู จังหวัดชอลลาใต้ เป็นเมืองที่คนไทยไม่ค่อยไปหรือแทบจะไม่มีเลย เมืองยอซูนับว่าเป็นเมืองท่าหรือเมืองอุตสาหกรรมก็ได้ จะคล้าย ๆ ภาคตะวันออกบ้านเรา ชลบุรี ระยอง ประมาณนั้นเลยค่ะ เป็นอีกเมืองที่ผู้เขียนศึกษาจากรีวิวของต่างชาติ คนไทยไม่มีใครทำรีวิวเลย ความสนุก และท้าทายอยู่ตรงนี้ ไม่เคยไปไม่ค่อยมีคนเที่ยว มีแต่คนเกาหลีที่จะไปเที่ยว เป็นเมืองทางใต้ของเกาหลีติดทะเล เมืองนี้เคยเป็นเมืองที่จัดงาน expoใหญ่ มาครั้งหนึ่ง สถานที่เที่ยวก็จะแนว ๆ พักตากอากาศ มีเกาะให้ขึ้นไปเดินเล่น นั่นก็คือเกาะ ออดงโด ที่ยอซูexpo จะมีมีโชว์แสงสีให้ชมทุกคืนวันเสาร์และวันพุธ แต่ผู้เขียนไม่ได้พักกลางยอซูในวันที่มีโชว์ ไปแค่วันใกล้เคียง ที่พักที่จองไว้ผู้เขียนเปลี่ยนทุกวัน ประสบการณ์การพักในเกาหลี มันแตกต่างกันนะ ถ้าเป็นโรงแรมเครื่องทำความร้อน หรือฮิตเตอร์จะเป็นเครื่องเดียวกับแอร์ หรืออกมาทางช่องแอร์เลย ถ้าเป็นmotel ความร้อนจะออกมาจากพื้น หรือบางที่จะอยู่ใต้ที่นอน โอ้ยเวลานอนทรมานสุด ๆ เพราะมันร้อนมากเกินไปซึ่งผู้เขียนไม่ชอบ ดังนั้นที่พักของผู้เขียนจึงถูกเปลี่ยนไปนอนที่โรงแรม อันนี้ก็เป็นอีกแนวนึง การไปเที่ยวแบบไหนพักแบบไปไหนเหมาะสม ไปคนเดียวปลอดภัยไม่อันตรายก็โรงแรม แต่บ้านเมืองเกาหลีไม่น่ากลัวเท่าไหร่ปลอดภัยพอสมควรเท่าที่สัมผัสได้ แม่กระทั่งเดินบนท้องถนนคนเดียวก็ตาม แต่ที่พักก็จะเพิ่มความมั่นใจในยามนอนหลับให้เราได้พักผ่อนอย่างเต็มที่หลังจากที่เดินเที่ยวมาทั้งวันแล้ว ความสนุกยังไม่หมดยอซูยังมีอะไรให้ทุกคนได้สัมผัสอีกมาก ผู้เขียนขอมาเล่าประสบการณ์นี้ในครั้งหน้าหากบทความนี้ได้รับการอนุมัตินะคะ