เที่ยว ฟาร์มนกกระจอกเทศ ตื่นเช้าวันนี้มาอากาศแจ่มใส เราอยู่เคนย่าหนิหน่า ก็เที่ยวสิค่ะ เมื่อรวบรวมเพื่อนฟูงได้4-5คน เราก็ลุย .............. วันนี้ขอใช้บริการ Uber คนขับรถมารับเราที่โรงแรมละ ก็ออกเดินทางเลยค่ะ ระหว่างทางสองข้างทางก็จะได้เห็นวิถีชีวิตของคนเคนย่ามากมาย ร้านอาหาร บ้านเรือนต่าง เส้นทางที่เราไปก็จะใช้เส้น Mombasa ค่ะ รถค่อนข้างแน่น ขับมาได้ประมาณ 1ชั่วโมง และแล้วเราก็มาถึงจุดหมายของเรา นั่นก็คือ ฟาร์มนกกระจอกเทศ (Maasai Ostrich Farm) ที่นี่ห่างจากเมืองไนโรบี ประมาณ45กิโลเมตร ซึ่งตั้งอยู่ทางใต้ของแม่น้ำ Athi ที่ฟาร์มแห่งนี้มีโซนเปิดเพื่อให้นักท่องเที่ยวเยี่ยมชมนกกระจอกเทศและการเลี้ยงดูของเขา ซึ่งเราก็ต้องเสียค่าเข้าฟาร์ม และก็มีกิจกรรมให้เราขี่นกกระจอกเทศด้วยค่ะ ค่าเข้าฟาร์ม 300 KSH (90บาท) ค่าขี่นกกระจอกเทศ 500 KSH (150บาท) ซึ่งส่วนที่สองของฟาร์มก็คือ รีสอร์ท เมื่อเราเข้ามาในฟาร์ม ก็จะมีเจ้าหน้าที่พาทัวร์ค่ะ ที่นี่เขาเพาะพันธุ์นกกระจอกเทศ เพื่อเลี้ยงไว้ขาย ทั้งไข่และเนื้อ ซึ่งเขาก็จะไม่ได้ละเมิดหรือฆ่าสัตว์ป่านะคะ เพราะเขาขออนุญาตและเพาะพันธุ์เพื่อกินเนื้อและขายไข่แล้ว เริ่มที่ไข่ของนกกระจอกเทศที่เขาขายก็มีทั้งที่มีตัวอ่อน และ เปลืองไข่ (ที่เขาดูดตัวอ่อนออกไปแล้ว เพื่อนำมาประดับบ้านหรือวาดรูปเพื่อประดับเช่นกัน) สำหรับไข่ที่มีตัวอ่อน เจ้าหน้าที่เขาบอกว่า เราเอาไปทอดกินเหมือนไข่ไก่ ไข่เป็ดได้เลย ราคาก็ใบละ 1,000 KSH หรือประมาณ 300 บาท และนี้ก็คือจุดแรกที่เขาพาเรามาดูค่ะ ลองยกดูหนักไม่เบาเลยค่ะ ซึ่งเปลืองเขาหนามาก และที่ย่าถือก็เป็นไข่ที่มีตัวอ่อนอยู่ด้านใน พาเดินเข้ามาด้านซ้ายจะเห็นเป็นลานกว้างและมีรั้วลวดกั้นตลอดทางเป็นล็อคๆ ส่วนด้านซ้ายเป็นโลงเตี่ยๆ ที่เอาไว้ให้เจ้านกกระจอกเทศตัวเล็กอยู่ ซึ่งแยกออกมาจากพ่อแม่ของมัน เมื่อเดินตามทางลูกรั้งเรื่อยๆก็จะเจอฝูงนกกระจอกเทศ รั้วเตี่ยๆก็มีไว้แบ่งเป็นพันธุ์ต่างๆ ที่เห็นก็มีทั้งขนสีฟ้า บ้างก็มีขนสีดำ สีน้ำตาล มาตอนนี้เราสามารถให้อาหารเขาได้นะคะ แต่ก็ระวังนกจิกน้า ด้วยบริเวณที่กว้างขวางกินเนื้อที่กว่า 20ไร่ เขาก็จะปล่อยนกให้เดินตามทุ่งหญ้ากว้างและก็มีถังน้ำให้นกเป็นจุดๆไปค่ะ เมื่อเราอิ่มเอมกับการดูเขาแล้ว ก็ถึงช่วงตื่นเต้นของทริป ที่จะได้ไปขี่นกกระจอกเทศกัน เดินเข้ามาในโซนของร้านอาหารที่ด้านข้างก็จะมี ลานกว้าง ล้อมด้วยไม้ และมีเจ้านกอยู่1ตัว ดูที่หลังของมันจะมีเบาะไว้ให้คนขี่ได้ถนัดๆ และเจ้าหน้า 3คนก็รอพวกเราอยู่ค่ะ เมื่อเราไปถึงเขาก็รีบกุลีกุจอเตรียมนก มีข้อจำกัดในการขี่นะคะ ห้ามนักท่องเที่ยวที่มีน้ำหนักเกิน 75 กิโลกรัมขี่ ก็หนักเกินก็อดไปตามระเบียบเลยค่ะ เริ่มที่คนแรก นกค่อนข้างพยศ เจ้าหน้าที่บอกว่านกกระจอกเทศมีความจำสั้น ถึงแม้ว่าจะฝึกให้คนขี่ แต่ถ้าไม่มีนักท่องเที่ยวมาขี่บ่อยๆเขาก็จะลืม ละก็ต้องคอยจับให้เขาชิน เราจะได้ขี่วนไปคนละ 2รอบ ส่วนนกที่เอาไว้บริการนักท่องเที่ยวมีด้วยกัน2ตัว ซึ่งก็จะผลัดกันมาค่ะ พอได้ขึ้นไปจริงๆ เจ้าหน้าที่ก็จะคอยจับให้เราตลอด ใช้เวลาไม่ถีง 1นาที ครบรอบละค่ะ ตอนขึ้นก็จะตื่นเต้นหน่อย ส่วนย่าสงสารนกเลยขอขี่รอบเดียวพอ 5555 เมื่อเดินเยี่ยมชมฟาร์มครบหมดแล้ว ก็ถึงเวลาทานอาหาร แต่โชคร้ายวันที่ย่าไป ร้านอาหารปิดเลยต้องหิ้วท้องไปทานที่อื่น โดนปกติที่นี้ก็จะมีอาหารบริการมีทั้งเนื้อย่างต่างๆ รวมถึงเนื้อนกกระจอกเทศด้วยค่ะ สำหรับทริปนี้ต้องบอกเลยว่า สนุกมากค่ะ ได้มาเห็นนกกระจอกเทศตั้งแต่ฟักไข่ไปจนถึงได้ขี่เขาด้วย บรรยากาศในฟาร์มก็เข้าถึงธรรมชาติมากๆ แม้ว่าระหว่างทางที่เข้าชมฟาร์มจะแดดร้อนไปหน่อยแต่ลมก็เย็นให้พอคลายร้อน ถือว่าคุ้ม รูปภาพประกอบจาก ผู้เขียน