หากกล่าวถึง White Mountain National Forest เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าอยู่มุมไหนของโลกใบนี้ วันนี้เราเลยจะพาเดินกินลมชมวิวช่วงดูใบไม้ร่วงกันว่าจะสดใสสวยงามขนาดไหน เราเริ่มเดินทางจาก Boston ด้วยรถยนต์เช่าที่เราเช่าจากตัวเมือง มุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ จุดมุ่งหมายของเราคือเมือง Sugar Hill เมืองเล็ก ๆ กลางหุบเขา White Mountain National Forest หลังออกจากตัวเมืองได้ไม่นานเราขับเข้าเขต Highway ซึ่งเป็นถนนที่สวยเหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยาย ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง มองไปทางไหนก็เจอแต่ใบไม้สีเหลือง เขียว ส้ม น้ำตาลเต็มไปหมด ทั้งบนต้นและที่ร่วงหล่นลงบนพื้นเป็นกองมหึมา เราเดินทางบน Highway ไปเรื่อย ๆ ไม่นานก็เข้าเขตรัฐ New Hampshire และเขต White Mountain National Forest ที่เป็นเขตป่าสงวนและอุทยานแห่งชาติที่ยังมีสภาพสมบูรณ์ รถยนต์คันน้อยของเราได้แล่นไปอย่างช้า ๆ เนื่องจากถนนเส้นนี้มีกวางและสัตว์ป่าหลายชนิดอาศัยอยู่ที่ชายป่าเรียบถนนอย่างชุกชุม เรียกได้ว่าทุก ๆ 1 กิโลเมตรเราจะเห็นกวางป่าออกมาเดินเล่นและหาอารหารกันตลอดทาง คนที่นี่ส่วนใหญ่จะขับรถกันค่อนข้างช้าเพราะต้องระวังสัตว์เล็กใหญ่วิ่งตัดหน้าแล้วอาจเกิดอุบิติเหตุเฉี่ยวชนได้ ตลอดการเดินทางเราเห็นป้ายเลี้ยวเข้าสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น Mt. Lafayette, Cannon Mountain, Franconia National Park และอื่น ๆ อีกมากมาย เราวางแผนไว้ว่าจะไปเดินป่าที่ Flume George กันก่อน check-in เข้าที่พักที่ Sugar Hill หลังจากเราใช้เวลาอยู่บนถนนถึง 2 ชั่วโมงเราได้มาถึง Flume George อย่างปลอดภัย พอเปลี่ยนชุดแล้วลงจากรถฝนก็เริ่มตกทันที ไม่มีใครมาเดินป่ากับเราเลยวันนี้ ลานจอดรถว่างเปล่ามากราวกับว่าสถานที่นี้ไม่เปิดให้บริการ เราเดินไปตรงทางเข้าเห็นป้ายบอกว่าเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินป่าแต่จำกัดเส้นทางเพราะอาจมีน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งเส้นทางที่เปิดจะเป็นเส้นทางระยะ 10 กิโลเมตรรอบบริเวณน้ำตกและลำธาร เราออกเดินทางและชื่นชมบรรยากาศที่สวยงามแลพสดชื่น แต่ต้องเดินอย่างระมัดระวังเพราะฝนกำลังตกปรอย ๆ เลยทำให้พื้นทางเดินเปียกมีตะใคร่เกาะและไม่มีเจ้าหน้าทีมาดูแลในฤดูนี้ เราเดินผ่านลำธารหลายสาย น้ำในลำธารไหลผ่านและกระทบโขดหินน้อยใหญ่เป็นเสียงที่ฟังแล้วทำให้รู้สึกเย็นและสบายมาจากภายใจใจ แบบนี้นี่เองที่เขาเรียกว่าธรรมชาติบำบัด ถ้าเป็นไปได้เราอยากมาเดินแบบนี้ทุกวันเลย พอเราเดินไปต่ออีกไม่ไกลฝนก็หยุดตก เราเร่งฝีเท้าเพื่อขึ้นไปยังยอดภูเขาเพื่อชมวิวจากด้สนบน บนยอดภูเขานี้มีความสงบมาก มีเสียงนก เสียงแมลง ผสานกับเสียงของน้ำตกที่ไหลลงไปในลำธารที่ฟังดูแล้วเหมือนดนตรีบรรเลงจากธรรมชาติที่ไพเราะเสนาะหูมาก อยากให้คนไทยทุกคนมีโอกาสได้มาสัมผัสบรรยากาศแบบนี้จัง โดยเฉพาะคนกรุงเทพ ที่วัน ๆ พวกเราทำงานแต่ในห้องแอร์ ถ้ามีโอกาสได้มาเดินเล่นชื่นชมธรรมชาติแบบนี้บ้างคงจะมีแรงมีกำลังใจกลับไปทำงานกันเต็มที่เลย หลังจากที่เราอิ่มหนำกับการดื่มด่ำบรรยากาศบนยอดเขาแล้วก็ถึงเวลาเดินกลับลงมาที่ลานจอดรถ ระหว่างทางเจอคุณตาคุณยายคู่หนึ่ง อายุน่าจะราว ๆ 80 กว่าแล้วจูงมือกันเดินขึ้นไป เป็นภาพที่น่าประทับใจมาก อยากเห็นภาพแบบนี้บ่อย ๆ ถึงแม้ว่าร่างกายจะร่วงโรยไปตามกาลเวลา แต่ใจเรายังรักกันและรักการเดินทางและท่องเที่ยวเสมอ ขอบคุณที่ติดตามผลงานของผู้เขียนนะคะ แล้ววันหลังจะพาแวะไปเที่ยวอีกบ่อย ๆ ค่ะ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน