เดินเที่ยวลำพูนแบบสบาย ๆในตัวเมืองลำพูน เป็นเมืองเล็ก ๆ เดินเที่ยวได้แบบสบาย ๆ ช่วงหลังจากวันออกพรรษาถึงวันลอยกระทงของทุก ๆ ปี ที่ลำพูนได้จัดให้มีเทศกาลแขวนโคม ถ้าเราได้ไป จะเห็นว่ามีการแขวนโคมห้อยแทบทุกที่ เราค่อย ๆ เดินชมกันไปนะครับวัดสันป่ายางหลวง วันก่อนนั่งรถตู้จากเชียงใหม่ไปลำพูน ราคา 30 บาท ไปลงแถววัดสันป่ายางหลวง (ซึ่งอยู่นอกเกาะเมือง) ความสวยงามติดอันดับ 1 ใน 10 ในประเทศไทย โดยเฉพาะวิหารพระเจ้าเขียวโขง ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระหยกเขียว (“พระพุทธอัญญรัตน มหานทีศรีหริภุญชัย”) ซึ่งนำมาจากแม่น้ำโขง ส่วนพระองค์ใหญ่ที่ตั้งอยู่ในซุ้มใต้พระเจ้าเขียงโขง คือพระพุทธเมตไตร องค์จำลอง ภายในวิหารมีการประดับงานแกะสลักไม้ลงทองงดงามพระเจ้าเขียวโขงกับพระพุทธเมตไตร องค์จำลองความงามของไม้แกะสลักในวิหารความงามที่คล้ายกับ วัดชเวนันดอว์ ที่มัณฑะเลย์ วัดพระคงฤาษี พระเครื่องศักดิ์สิทธิ์ ชมความงานอิ่มแล้ว ก็เดินย้อนออกมาทางปากซอย เลี้ยวซ้ายเดินไปทางเข้าเมือง พอถึงกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จังหวัดลำพูน ก็เดินตัดทะลุไปด้านหลัง จะพบวัดพระคงฤาษี (วัดอนันทราม) ซึ่งเป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยพระแม่จามเทวี ครองเมืองลำพูน (หริภุญชัย) วัดนี้มีชื่อเสียงพระเครื่องศักดิ์สิทธิ์ “พระคง” เมื่อเดินเข้าไป จะเห็นเจดีย์สีทองเหลืองอร่าม มีซุ้ม (จรนำ) อยู่ 8 ซุ้ม เป็นที่ประดิษฐานพระอยู่ 4 ซุ้ม และอีก 4 ซุ้ม จะเป็นของ ฤาษี 4 ตน ดังนี้ ด้านทิศเหนือ รูปวาสุเทพฤาษี ,ทิศตะวันออก รูปพระพรหมฤาษี ,ทิศตะวันตก รูปของพระสมณนารคฤาษี ,ทิศใต้รูปของสุกกทันตฤาษี ในพระอุโบสถมีพระคงประดิษฐานบนฐานชุกชี หน้าพระประธาน และที่หน้าบันของหอไตร มีรูปพระคงประดับอยู่คุ้มเจ้ายอดเรือน ออกจากวัดพระคงฤาษีเดินชมอาคารบ้านเรือนที่ยังรักษาแบบบ้านเก่าไว้ ผ่านซุ้มประตูเมืองช้างสี ซึ่งเป็นประตูชัยของเมืองลำพูน (บนซุ้มจะมีพระรอดจำลองประดับอยู่) มาถึงหลังวัดพระธาตุหริภุญชัย ขอแวะกินกาแฟที่ร้านกาแฟ Temple House สักนิดให้พอหายเหนื่อย ซึ่งร้านนี้จะอยู่ปากซอยที่จะไปคุ้มเจ้ายอดเรือน หายเหนื่อย ไปต่อ เดินเข้าซอยไปนิด (แต่ชื่อถนนว่า ถนนรถแก้ว) ก็ถึงแล้วครับ คุ้มเจ้ายอดเรือน เป็นอาคารไม้ชั้นเดียวยกสูงจากพื้น คุ้มเจ้ายอดเรือน เป็นเรือนที่เจ้าหลวงจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าผู้ครองนครลำพูนองค์สุดท้าย สร้างขึ้นเพื่อมอบให้แก่ชายาเจ้ายอดเรือน ชายาองค์สุดท้าย คุ้มนี้ได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ดีเด่นจากสมาคมสถาปนิกสยามฯด้านบนจัดเป็นห้องจัดแสดง 5 ห้อง คือห้องของดีเมืองลำพูน จัดแสดงเครื่องดนตรี , ห้องโถงสำหรับรับประทานอาหาร , ห้องพระและบรรพบุรุษ , ห้องเจ้ายอดเรือน มีเตียงนอน โต๊ะเครื่องแป้งตู้เสื้อผ้าและของใช้ของเจ้ายอดเรือน และห้องสุดท้าย คือห้องเจ้าหลวง ซึ่งจัดเป็นโต๊ะชุดรับแขกชานกว้างระหว่างเรือนใหญ่กับเรือนครัวซึ่งเป็นห้องครัวและห้องนอนของแม่ครัว วันที่ไปเยือนวันนั้น คุณป้าที่ใจดีช่วยอธิบายให้ข้อมูลมากจนจำไม่ไหมครับ เท่าที่จำได้ ถ้าจะมาเยี่ยมชมหรือถ่ายทำรายการ ควรไปติดต่อที่สำนักงานเทศบาลอย่างเป็นทางการครับ ถ้ามาแบบแวะเที่ยวชมอย่างผมนี่ ก็ไม่ต้องครับเทศกาลแขวนโคม ที่วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร หลังจากกล่าวอำลาคุณป้าแล้ว ก็เดินย้อนออกมาทางเดิมเพื่อไปไหว้พระในวัดพระธาตุหริภุญชัยฯ โดยเข้าทางด้านหลังก็ได้ครับ อย่างที่บอกไปแต่ต้นแล้วว่า ช่วงที่ไปเป็นช่วงเทศกาล “โคมแสนดวง ที่เมืองลำพูน” พอดี ในบริเวณวัดมีการประดับโคมมากมายหลากหลายสีสัน เราเข้าไปไหว้พระในวิหารหลวงกันก่อน แล้วค่อยออกไปเที่ยวชมและถ่ายรูปหรือจะแขวนโคมกัน นอกจากในวัดแล้วยังมีที่บริเวณลานอนุสาวรีย์พระแม่จามเทวีอีกด้วย ถ้าอยากจะได้บรรยากาศสวยงามแนะนำให้มาตอนหัวค่ำครับ แต่ผมต้องรีบกลับเชียงใหม่ให้ทันรถตู้เที่ยวสุดท้ายครับ เลยไม่มีโอกาสอยู่ถ่ายภาพช่วงหัวค่ำครับ ระยะทางที่เราเดินกันวันนี้ ประมาณ 1.5 กิโลเมตรเองครับ สวัสดีบทความและภาพถ่าย โดยผู้เขียน