เตือนภัยแอลกอฮอล์เจล เพราะแอลกอฮอล์ติดไฟง่ายโดยปกติแล้วแอลกอฮอล์ จุดวาบของไฟต่ำอยู่แล้วอยู่ที่ประมาณ 12.7 องศาเซลเซียส เพราะฉะนั้นเวลาเราใช้เจลแอลกอฮอล์โดยการทาบนฝ่ามือแล้ว ตัวแอลกอฮอล์เองก็จะระเหยอยู่ในอากาศเป็นละอองฝอยเล็ก ๆ และสามารถจับตัวอยู่ตามเสื้อผ้าหรือบนเส้นผมของเราได้เช่นกัน ก่อนที่จะระเหยหายไปในอากาศ ขอบคุณรูปภาพจากhttps://pixabay.com/th/ ในกรณีที่เราทาเจลแอลกอฮอล์บนฝ่ามือเสร็จแล้วไปทำกับข้าวแล้วแอลกอฮอล์ที่อยู่ในมือเราไปเจอเข้ากับเปลวไฟ อาจจะทำให้ติดไฟได้กิจกรรมที่อาจจะทำให้เกิดเปลวไฟมีหลายอย่างเช่น ใช้โทรศัพท์มือถือ สูบบุหรี่ ทำอาหารและอื่น ๆ อีกหลายอย่าง ข้อควรระวัง ก็คือถ้าเราคิดว่ากิจกรรมไหนที่อาจจะก่อให้เกิดเปลวไฟ เราควรหลีกเลี่ยงเพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง การก่อให้เกิดเปลวไฟจะมีคำเตือนเป็นป้ายลายลักษณ์อักษรอย่างเช่นปั๊มน้ำมัน โดยจะมีป้ายเตือนให้อ่านขณะที่พนักงานกำลังเติมน้ำมัน เพราะในตัวแอลกอฮอล์สามารถกลายเป็นไอระเหยได้ พอเราทาเจลเสร็จแล้วไอระเหยของแอลกอฮอล์จะยังอยู่รอบ ๆ ตัวเราซึ่งถ้าหากเราไม่ระวังตัวให้ดีแล้ว ก็อาจจะมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นมาได้ ดังนั้นก่อนที่จะออกไปทำกิจกรรมใกล้เปลวไฟจะต้องรอให้เจลล้างมือแห้งสนิทเสียก่อน ประมาณ 1 นาทีหรือจนกว่ากลิ่นของแอลกอฮอล์จะหมดไป ขอบคุณรูปภาพจากhttps://pixabay.com/th/ แล้วเราถึงจะออกไปทำกิจกรรมข้างนอกได้ กรณีที่เป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ตัวผู้ป่วยเองไม่ควรใช้สเปรย์แอลกอฮอล์ฉีดบนฝ่ามือหรือตามตัวเพราะแอลกอฮอล์นั้นไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ 100% และอาจจะทำให้เชื้อโรคที่อยู่ในละอองฝอยไปติดผู้อื่นต่อได้เช่นกัน โดยทั่วไปคนส่วนใหญ่จะใช้เจลแอลกอฮอล์ในการฆ่าเชื้อไวรัสหลังจากหยิบจับของใช้สาธารณะที่มีคนใช้จำนวนมาก แต่สิ่งที่ใช้แทนเจลล้างมือและมีประสิทธิภาพการกำจัดไวรัสได้เท่ากับเจลล้างมือก็คือเอทิลแอลกอฮอล์และสามารถนำมาฆ่าเชื้อไวรัสบนมือได้โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการมากมายแต่วิธีนี้ไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 เพราะอาจเป็นการแพร่กระจายเชื้อได้ ขอบคุณรูปภาพจากhttps://pixabay.com/th/ นอกจากนี้แล้วขวดแอลกอฮอล์ยังต้องเก็บไว้ให้ห่างจากเปลวไฟและเด็ก ในกรณีที่ใช้แอลกอฮอล์ฉีดฆ่าเชื้อยิ่งจะต้องระวังเป็นอย่างมาก ไม่ควรฉีดหรือพ่นแอลกอฮอล์ใกล้เปลวไฟเพราะอาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อตัวเองและคนรอบข้างได้เช่นกัน รูปภาพหน้าปกhttps://pixabay.com/th/