เวลาเห็นภาพรถแข่งไม่ว่าจะในนิตยสารแข่งรถ หนังสือพิมพ์ หรือเว็บไซด์ต่างๆ แล้วอยากถ่ายภาพแบบนั้นบ้าง เกิดคำถามในใจว่า ต้องใช้กล้องและเทคนิคการถ่ายภาพแบบไหน ถึงจะได้ภาพที่ดูแล้วน่าตื่นเต้น เร้าใจ ก่อนอื่นมาว่าด้วยเรื่องของอุปกรณ์ กล้องที่ใช้ถ่ายภาพรถแข่งควรจะเป็นกล้อง Mirrorless หรือ DSLR (Digital Single-Lens Reflex) เพื่อง่ายต่อการตั้งค่าและควบคุมกล้อง มือถือถ่ายไม่ได้เหรอ? ก็ได้นะ แต่เวลาถ่ายภาพอาจจะยากซักหน่อย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่นและคุณสมบัติของมือถือด้วย ไม่จำเป็นต้องใช้เลนส์ระดับโปรเสมอไป อย่างน้อยเลนส์ที่ใช้ในการถ่ายภาพรถแข่งควรมีความยาวของช่วงโฟกัสเยอะๆ ดึงระยะได้พอสมควร แนะนำเป็นเลนส์ซูม เลนส์คิทก็ใช้ได้ หรือถ้ามีเลนส์ระดับโปรจะยิ่งดีมาก สำหรับท่านที่จะลองหัดถ่ายภาพแนวนี้แนะนำให้ใช้เลนส์ซูมที่เป็นเลนส์คิท (เลนส์ที่ติดมาพร้อมกับกล้อง) ที่ต้องใช้เลนส์ซูมเพราะจะได้สะดวกต่อการจัดองค์ประกอบภาพ และเพื่อความปลอดภัยของตัวเราเองด้วย ยิ่งซูมมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เรายืนไกลจากขอบสนามมากเท่านั้น การถ่ายภาพรถแข่งไม่ว่าจะระดับโลกหรือที่จัดแข่งกันเองล้วนจะมีอันตรายสูงมาก พลาดพลั้งอาจบาดเจ็บหรือถึงแก่ชีวิตได้ การถ่ายภาพ Stop Action (การถ่ายภาพเคลื่อนไหวให้หยุดนิ่ง) ไม่จำเป็นต้องใช้ความสามารถในการถ่ายภาพระดับโปร เพียงมีความรู้เกี่ยวกับการถ่ายภาพขั้นพื้นฐานก็เพียงพอที่จะสามารถถ่ายภาพได้ แต่ว่าภาพถ่ายจะออกมาดูสวยงามหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ขึ้นอยู่กับมุมมองของช่างภาพและองค์ประกอบของภาพถ่าย เมื่อดูภาพแล้วต้องรู้สึกได้ว่ารถแข่งหยุดนิ่งไม่มีการเคลื่อนไหว หากมีบางส่วนของภาพที่ไม่ชัด หรือไม่หยุดนิ่ง ยังไม่ถือว่าเป็นภาพ Stop Action การที่จะหยุดภาพรถแข่งที่มีความเร็วสูงให้หยุดนิ่งได้ ต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์สูง (High Speed Shutter) ขึ้นอยู่กับกล้องแต่ละตัวและแต่ละค่ายว่าสามารถตั้งความเร็วชัตเตอร์ได้สูงถึงขนาดไหน อย่างน้อยก็ควรที่จะตั้งไว้ไม่ต่ำกว่า 1/800 sec ภาพแต่ละภาพอาจไม่จำเป็นต้องใช้ Speed Shutter เท่ากันเสมอไป Speed Shutter จะผกผันตามมุมหรือทิศทางของการถ่ายภาพ เช่น ถ้าเป็นจังหวะที่รถแข่งออกจากโค้ง ความเร็วของรถแข่งจะไม่มากนักอาจจะใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำกว่า 1/800 sec แต่ถ้าเป็นช่วงทางตรงความเร็วของรถแข่งบางคันอาจมากกว่า 300 km/hr. จะเอาให้นิ่งจริงๆ ต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์ไม่ต่ำกว่า 1/1000 sec ถึงจะทำให้ภาพชัดตั้งแต่หน้ารถจนถึงหลังรถ การตั้งค่า F-stop (รูรับแสง) ควรตั้งไว้ที่อย่างน้อย f 5.6 เพื่อที่จะทำให้ภาพชัดในระดับหนึ่ง ถ้าต้องการให้ภาพมีความชัดมากขึ้นก็ตั้ง F-stop ตามที่ต้องการ ผลของการตั้ง Speed Shutter ที่สูง และ F-stop ที่แคบ มีผลทำให้ความสว่างของภาพลดลง อาจทำให้มองไม่เห็นรายละเอียดบางส่วนของภาพ จึงจำเป็นที่จะต้องปรับค่า ISO (International Organisation for Standardisation) เพื่อให้ภาพสว่างขึ้นไม่มืดจนเกินไป แต่จะทำให้ได้ Noise (สัญญาณรบกวนที่เกิดขึ้นในภาพ) จากการปรับ ISO เพิ่มขึ้น จึงจำเป็นที่จะต้องมีพื้นฐานด้านการถ่ายภาพเบื้องต้น เพื่อที่จะได้ตั้งค่ากล้องได้อย่างเหมาะสม สำหรับ Mode การถ่ายภาพแนะนำให้เป็น Manual เพราะสามารถที่จะควบคุมทุกอย่างของกล้องด้วยตัวของเราเอง การตั้ง Mode ถ่ายภาพแบบ Auto อาจทำให้ภาพที่ออกมาไม่ได้เป็นอย่างที่ใจต้องการ ทั้งนี้ ก็อยู่ที่ความถนัดของแต่ละคน ในสนามแข่งรถจะมีแสงสว่างค่อนข้างมาก การวัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพอาจทำให้ภาพรถแข่งออกมาค่อนข้างมืดเมื่อเทียบกับสภาพแวดล้อม หากตั้งการค่าวัดแสงแบบเฉลี่ยทั้งภาพต้องถ่ายให้ over กว่าที่วัดแสงได้ประมาณครึ่งสต๊อปหรือหนึ่งสต๊อป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทิศทางของแสงกับมุมการถ่ายภาพในแต่ละมุม ก่อนที่จะไปถ่ายภาพในสนามแข่งรถแนะนำให้ฝึกถ่ายภาพรถที่วิ่งไปมาบนถนนแถวบ้าน จะได้มีความแม่นยำในการตั้งค่ากล้อง การจัดองค์ประกอบของภาพ และถ่ายภาพได้ทันต่อเหตุการณ์ เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสนามแข่งรถไม่อาจคาดเดาได้ล่วงหน้า สุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดของการถ่ายภาพรถแข่งคือความปลอดภัย ผู้จัดการแข่งขันเค้าไม่รับผิดชอบอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เราต้องดูแลตัวเองให้ดีที่สุด ขอให้สนุกกับการถ่ายภาพนะครับ เรื่องและภาพโดย Chatimage ขอบคุณ Chang International Racing Circuit, Buriram Thailand.