ในช่วงโควิดระบาดนี้ อาจจะทำให้ใครหลายๆ คนไม่ได้ออกไปไหนจากบ้านมากนัก หลายๆ คนอาจจะใช้ช่วงเวลากักตัวนี้เป็นการพัฒนาตัวเอง เพิ่มทักษะต่างๆ ในวันนี้ทางเรามีเทคนิคเกี่ยวกับการเรียนภาษามาแชร์ให้กับเพื่อนๆ ค่ะ โดยวิธีนี้เป็นวิธีที่ทดลองใช้ส่วนตัวแล้ว พบว่ามีการพัฒนาในด้านภาษามากขึ้น และทำให้เราไม่เครียดกับการเรียนจนเกินไปค่ะ ภาพจาก : jcomp / freepik วิธีการเรียนภาษาโดยใช้เทคนิค 3CE (เทคนิคนี้เป็นเทคนิคส่วนตัวจากประสบการณ์ของผู้เขียนนะคะ) การเรียนภาษาของแต่ละคนนั้น อาจจะมีเทคนิคการเรียนรู้ การเพิ่มพูนคำศัพท์ หรือ การนำไปใช้ที่แตกต่างกันค่ะ ในส่วนบทความนี้เป็นการกลั่นกรองจากประสบการณ์ของผู้เขียนเอง ที่ได้ทำการลองผิดลองถูกมาตั้งแต่เริ่มเรียนภาษาแรกๆ ค่ะ ซึ่งเทคนิคที่ได้นำมาแชร์ในวันนี้ อยากให้เพื่อนให้ได้ลองเสนอความคิดเห็นได้นะคะ หากได้นำไปใช้แล้ว ถ้าได้ผลอย่างไร อย่าลืมมาแชร์กันนะคะ เทคนิคต่างๆ จะมีอะไรนั้น เราไปติดตามกันได้เลยค่ะ 1. Commitment (ความมุ่งมั่น)การที่เราจะเริ่มทำอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการเริ่มต้นเรียน หรือ ทำงานต่างๆ อย่างแรกที่จะช่วยให้มีการสัมฤทธิ์ผลและประสบความสำเร็จ ก็คือความมุ่งมั่นในเป้าหมายที่จะทำค่ะ ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เราจดจ่อกับสิ่งที่เราทำมากขึ้น การมีความมุ่งมั่นนั้นถือว่าเป็นการเริ่มต้นไปแล้วมากกว่า 50% เลยนะคะ ความมุ่งมั่นของเราอาจจะเริ่มได้จากจุดเล็กๆ ก่อนค่ะ เช่น จะเริ่มเรียนภาษาทุกวันหลังเลิกงาน (โดยที่ยังไม่ต้องกำหนดระยะเวลาว่าจะต้องเรียนนานเท่าไหร่) หรือ อาจจะเป็นการเริ่มเรียนทีละทีละน้อย ซึ่งความมุ่งมั่นนี้เปรียบเหมือนการไปถึงเส้นชัยในการวิ่งมาราธอนค่ะ เพราะการเรียนภาษาไม่มีทางลัด จะต้องอาศัยเวลาเพื่อเพิ่มพูนความเชี่ยวชาญ ภาพจาก : tirachardz / freepik2. Consistency (ความต่อเนื่อง)ในการเรียนรู้ทุกอย่างที่จะให้เกิดประสิทธิภาพ เราจำเป็นจะต้องเรียนรู้อย่างต่อเนื่องค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเวลามากหรือน้อยก็แล้วแต่ เราควรพยามยามที่จะให้ทักษะการเรียนรู้ของเรานั้น กลายมาเป็นกิจวัตรประจำวันอย่างหนึ่งในแต่ละวัน ทีนี้เวลาที่เรามีความเคยชินมากขึ้น จะให้ทำเรารู้สึกไม่เครียดจนเกินไป การเรียนรู้ก็จะเกิดการพัฒนาไปอย่างธรรมชาตินั่นเองค่ะ ในวิธีนี้ที่ผู้เขียนใช้ก็คือ การพยายามฝึกฝนการเรียนภาษาในแต่ละวัน เป็นเวลาที่เราสะดวกที่สุด เริ่มต้นแรกๆ ควรพยายามเรียนอย่างต่อเนื่องก่อน 15 นาทีค่ะ(เป็นอย่างน้อย) ซึ่งการใช้เวลามากหรือน้อยในแต่ละวัน ก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละคนได้เลยนะคะ สิ่งสำคัญที่สุดคือ พยายามให้เป็นกิจวัตรประจำวันใกล้เคียงกับเรามากที่สุดค่ะ การฝึกฝนทุกวันนั้นเป็นเวลาที่ไม่มากหรือไม่น้อยจนเกินไป จะช่วยหลีกเลี่ยงการ burn out (หมดไฟ) หรือ demotivate (หมดแรงจูงใจ) ในระยะยาวอีกด้วยนะคะ ภาพจาก : freepik / freepik3. Concentrate (จดจ่อ)สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการเรียนรู้ภาษา เพื่อเพิ่มพูนคลังคำศัพท์ ก็คือเรื่องการจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า และไม่มีการวอกแวก (distraction) สมมติว่าในวันนี้เราได้จัดตารางว่าจะเรียนภาษาเป็นเวลา 30 นาที เราก็ควรที่จะจดจ่อกับสิ่งตรงหน้าให้มากที่สุด และระหว่างเรียนไม่ควรที่จะแวะไปเช็คมือถือ, Facebook, Line หรือ อะไรต่างๆ เพราะการที่เราจดจ่อกับการเรียนตรงหน้า เป็นการส่งเสริมประสิทธิภาพให้กับสมองมากที่สุด ซึ่งก็ไม่เกี่ยวว่าถ้าใช้เวลาในการเรียนมากจะดี ดังนั้น การแบ่งเวลาเป็นช่วงๆ จะทำให้การเรียนง่ายขึ้น และไม่น่าเบื่อค่ะการเพิ่มสมาธิให้จดจ่อกับสิ่งตรงหน้า เทคนิคส่วนตัวของผู้เขียนที่ใช้ ก็คือ พยายามผ่อนคลายให้มากที่สุดก่อนจะที่จะเริ่มเรียน ซึ่งมันจะช่วยให้สมองของเราปลอดโปร่งมากขึ้น และลดการวอกแวกกับสิ่งรอบข้าง และกำหนดเป้าหมายว่าในวันนี้ต้องการจะเรียนอะไร และต้องการให้ถึงระดับไหน ซึ่งการแพลนและกำหนดเป้าหมายในแต่ละครั้งก็สามารถช่วยได้มากจริงๆค่ะ เพราะไม่ว่าเราจะมีสิ่งรบกวนเข้ามา ขัดจังหวะระหว่างเรียนก็ไม่สามารถทำให้เราหลุดโฟกัสจากสิ่งที่เราทำอยู่ได้ง่ายค่ะ ภาพจาก : pressfoto / freepik4. Enjoy (สนุก) มาถึงข้อสุดท้ายกันแล้วนะคะ ข้อนี้เป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้เราเกิดการพัฒนาในการเรียนรู้ภาษาในระยะยาวค่ะ การที่เราสนุกกับสิ่งที่เรียนอยู่ ทำให้การเรียนไม่น่าเบื่อ และช่วยให้กระตุ้นความท้าทายที่จะเอาชนะลิมิตของตัวเอง ทำให้เกิดการพัฒนาในระยะยาวค่ะ จะเห็นได้ว่าผู้เขียนจะเน้นให้ความสำคัญในเรื่องระยะเวลาเป็นพิเศษ เพราะการเรียนภาษาที่จะเก่งขึ้นนั้นไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆค่ะ จะต้องใช้เวลาที่สั่งสมประสบการณ์มาอย่างต่อเนื่อง การเรียนถึงจะเห็นผลนะคะความสนุกในการเรียนรู้เป็นบันไดที่ช่วยต่อยอดให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาตนเอง และค้นพบวิธีสำคัญในแบบที่ถนัด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็เป็นแรงผลักดันชั้นเยี่ยมที่ทำให้เราไม่หยุดพัฒนาตัวเองค่ะ อย่างน้อยถ้าเกิดวันหนึ่งเรารู้สึกเหนื่อยๆ เราก็ยังที่จะสามารถทำให้ตัวเองยังหมั่นฝึกฝนในสิ่งที่เราอยากจะพัฒนาได้อยู่ค่ะ ขอให้แค่เรายังสนุกที่จะอยู่กับสิ่งเราเรียนอยู่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนแล้วค่ะ ภาพจาก : freepik / freepikเป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับ Tips ที่นำมาแชร์เกี่ยวกับการเรียนภาษาให้ productive ในวันนี้ โดยส่วนตัวแล้วทางด้านผู้เขียนนั้น ก็ได้ใช้วิธีที่กล่าวมาข้างต้นอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาสักพักค่ะ ซึ่งวิธีที่นำมาแชร์ในวันนี้ก็เป็นวิธีที่ไม่โหดจนเกินไป เหมาะสำหรับเพื่อนๆ มือใหม่ที่อยากจะหาแรงกระตุ้นเพื่อช่วยในการพัฒนาการเรียนรู้ภาษาอย่างต่อเนื่องค่ะ หวังว่าบทความนี้คงจะมีประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยนะคะ Enjoy your journey! สวัสดีค่ะ ภาพหน้าปกจาก : canva / canva เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !