เด็กประถมสอนยังไงให้สนุก” เชื่อว่าหลายๆคนคงจะมีคำถามนี้ ไม่ว่าจะเป็นครูที่จบสาขาประถมศึกษาโดยตรง หรือจะได้บรรจุไม่ตรงสาขาวิชาในโรงเรียนขนาดเล็ก ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่า “เด็กประถม” ถือเป็นช่วงวัยที่มีความท้าทายในการสอนพอสมควร เนื่องจากเป็นวัยที่มีความอยากรู้อยากเห็น ชอบเล่น และช่วงสมาธิจะสั้นกว่าเด็กโต ซึ่งวันนี้ ChiMoo มีเทคนิค 6 ข้อมาแบ่งปันทุกคนค่ะ สามารถท่องให้จำง่ายได้ว่า “ตั้งกติกา-วาจาศักดิ์สิทธิ์-กระตุ้นให้คิด-รางวัลพิชิตใจ-ไม่ใช้อารมณ์-กิจกรรมสมวัย” อาจจะช่วยให้ห้องเรียนทุกท่านมีความสุขขึ้นได้ค่ะ1. ตั้งกติกา สำหรับเด็กประถม เป็นวัยที่มีความเหมาะสมที่จะสร้างนิสัยที่ดีและระเบียบวินัย ดังนั้นควรมีกติกาที่อาจจะเกิดจากการตกลงของนักเรียนในห้อง หรือ คุณครูกำหนดค่ะ โดยควรมีจำนวนข้อที่ไม่เยอะเกินไป และสามารถจดจำได้ง่ายค่ะ เช่น มีน้ำใจ ไม่ส่งเสียงดัง ตั้งใจเรียน อาจให้นักเรียนท่องก่อนเข้าเรียนทุกครั้ง จะทำให้นักเรียนจำได้ และเห็นความสำคัญของกฎค่ะ โดยควรมีบทลงโทษที่ชัดเจน เช่น เก็บขยะ 5 ชิ้น หากไม่ทำตามกฎ เป็นต้นค่ะ หากเป็นครูประจำชั้น ควรสร้างระเบียบวินัยในห้องเรียน เช่น การแบ่งเวรและหน้าที่ มารยาทพื้นฐาน และการมีจิตอาสาค่ะ จะช่วยให้คุมชั้นเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ2. วาจาศักดิ์สิทธิ์ นักเรียนจะให้ความสำคัญกับสิ่งที่ครูพูดมาก หากครูพูดแล้วทำจริง นักเรียนจะเชื่อคำพูดของครู หากครูไม่ทำตามที่ตัวเองพูด หรือรักษาสัญญากับนักเรียนไม่ได้ ความน่าเชื่อถือในตัวครูจะลดลงค่ะ ดังนั้น ครูจึงควรรักษาคำพูดของตัวเอง เช่น เมื่อตั้งกฎกติกาแล้ว หากมีนักเรียนไม่ทำตาม ครูจะต้องลงโทษตามที่ตกลงไว้ จึงจะได้รับความเชื่อถือจากนักเรียนค่ะ และนอกจากนี้ “ตัวอย่างที่ดี มีค่ากว่าคำสอน” ค่ะ หากครูสอนนักเรียนแล้ว ครูไม่สามารถทำตามสิ่งที่ตัวเองสอนนักเรียนได้ นักเรียนจะทำตามสิ่งที่ครูทำ แต่ไม่ทำตามสิ่งที่ครูสอนค่ะ 3. กระตุ้นให้คิด ครูสามารถใช้คำถามนำให้นักเรียนได้ฝึกคิดวิเคราะห์ด้วยตนเอง หากนักเรียนได้คำตอบจากการคิดวิเคราะห์ของตัวเอง จะทำให้นักเรียนอยากทำตามสิ่งที่ครูต้องการได้มากกว่าที่ครูบอกอย่างเดียว เช่น แทนที่จะสั่งให้นักเรียนใส่รองเท้า เปลี่ยนเป็นให้นักเรียนบอกประโยชน์และโทษของการใส่รองเท้าแทน ธรรมชาติของเด็กจะไม่อยากทำตามสิ่งที่เราบังคับ แต่จะอยากทำตามสิ่งที่เขาต้องการ หากนักเรียนตระหนักได้ว่ามันเป็นประโยชน์ต่อเขา เขาจะอยากทำมันด้วยตัวเองค่ะ 4. รางวัลพิชิตใจ การเสริมแรงทางบวก ช่วยให้การสอนนักเรียนประถมศึกษา มีความสนุก และทำให้นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียนได้ เช่น การสะสมแต้ม หรือแจกของรางวัล ครูสามารถใช้กระดาษปั๊มดาว หรือ application ในการช่วยสะสมแต้มได้ เช่น class123 หรือ class dojo เป็นต้น เมื่อนักเรียนทำความดี หรือส่งงานตามกติกาที่ครูกำหนดจะได้แต้ม หากท้ายภาคเรียน ใครสะสมแต้มได้มากที่สุด สามารถนำมาแลกรางวัลได้ วิธีนี้เด็กๆชอบมากค่ะ ซึ่งของรางวัล ควรจะเป็นสิ่งที่ของที่มีประโยชน์ เช่น อุปกรณ์การเรียนน่ารัก ในทางกลับกัน สามารถเสริมแรงทางลบ โดยการหักแต้มที่สะสมได้เช่นกัน หากนักเรียนทำผิดกติกาที่ตกลงไว้5. ไม่ใช้อารมณ์ เชื่อว่าในเส้นทางชีวิตครู ทุกคนต้องเคยเจอเด็กที่มีพฤติกรรมไม่ดี หรือทำร้ายความรู้สึกของเรา จากประสบการณ์ พบว่าเด็กมีพฤติกรรมที่ไม่ดี ล้วนมีปัญหาที่น่าเห็นใจ จึงอยากให้ครูทุกท่าน เปลี่ยนจากความรู้สึกไม่ดี เป็นความเมตตา เห็นใจ ให้ความรักแก่เด็ก เด็กจะรับรู้ความรู้สึกเหล่านั้น แล้วพฤติกรรมจะเปลี่ยนไปค่ะ นอกจากนี้ควรใช้เหตุผลในการสอน ไม่ใช้อารมณ์ เช่น หากเด็กแกล้งเพื่อน ควรบอกถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น และให้นักเรียนนึกถึงใจเขาใจเรา การลงโทษเช่นเดียวกัน ควรใช้วิธีการลงโทษที่สร้างสรรค์ เช่น การบำเพ็ญประโยชน์ หรือเขียนสะท้อนคิด เป็นต้น6. กิจกรรมสมวัย ช่วงวัยประถมศึกษา เป็นวัยที่ไม่ชอบวิชาการหนักๆ จึงควรมีสิ่งที่น่าสนใจ เหมาะสมกับวัย เช่น การใช้สื่อการสอนที่น่าสนใจ กิจกรรมเพลง เกม คลิปวิดีโอ หรือกิจกรรมเคลื่อนไหว ที่เกี่ยวข้องกับบทเรียน มาใช้ประกอบจะทำให้น่าสนใจมากขึ้น เช่น การสอนเรื่อง Body อาจให้นักเรียน เต้นประกอบเพลง Head, shoulder, knee and toes ขั้นก่อนเข้าบทเรียนก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน ก่อนที่จะสอนนักเรียน ควรมีกิจกรรมเรียกสมาธิ เช่น กิจกรรม Brain gym หรือ นั่งสมาธิก่อนเข้าเรียน จะช่วยให้นักเรียนสามารถจดจ่อกับบทเรียนได้มากขึ้น ส่วนภาระงาน อาจจะเป็นใบงานน่ารัก พร้อมระบายสี หรือตัดกระดาษ ทำให้นักเรียนมีความสุขในการทำค่ะ ทั้งหมดนี้เป็นเทคนิคที่ได้จากการหาความรู้ ประสบการณ์จากรุ่นพี่ และประสบการณ์ลองผิดลองถูกของตนเอง เชื่อว่าหากทำตามเทคนิคเหล่านี้ “ตั้งกติกา-วาจาศักดิ์สิทธิ์-กระตุ้นให้คิด-รางวัลพิชิตใจ-ไม่ใช้อารมณ์-กิจกรรมสมวัย” อาจจะได้เห็นรอยยิ้มของทั้งนักเรียนและครู หากท่านใดนำไปใช้แล้วได้ผลอย่างไร หรือมีเทคนิคอื่นๆมาแบ่งปัน สามารถ comment บอกกันได้นะคะ ขอให้ห้องเรียนเต็มไปด้วยความสุขนะคะ :) เครดิต ภาพปก เพจนักเขียน ChiMooบทความอื่นๆที่เกี่ยวข้องวันฮาโลวีน (Halloween) 31 ตุลาคม สอนอะไรได้บ้าง? #ฮาโลวีน2022วันภาษาไทยแห่งชาติ 29 กรกฎาคม จัดกิจกรรมอะไรได้บ้าง? (ออนไลน์ก็ทำได้)วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา จัดกิจกรรมอะไรได้บ้าง (ออนไลน์ก็จัดได้)“วันแม่แห่งชาติ” 12 สิงหาคม สอนอะไรได้บ้าง?รีวิวสอบครูผู้ช่วย อ่านยังไงให้ผ่านใน 7 วัน! (ฉบับคนไม่ค่อยมีเวลา)หาเงินง่ายๆไม่ต้องลงทุน สมัครฟรีที่ TrueID In-Trend ติดตามข่าวสาร คอนเทนต์เด็ด ๆ ก่อนใคร อย่าช้า โหลดเลยที่ TrueID !!