“วิ่งเทรล” บ่อยครั้งที่พูดกับเพื่อน ครอบครัว หรือคนรอบข้างว่าเราจะลงวิ่งเทรล ก็มีคำถามย้อนกลับมาหาเราบ่อยมาก เทรลมันคืออะไร แล้ววิ่งไปทำไม จะวิ่งไหวหรอ เอาตัวเองไปเหนื่อยทำไม ต่างๆนาๆ เราขออธิบายคำว่าเทรลก่อนเลยแล้วกัน จากที่เราได้ตามเพจวิ่งต่างๆ ตามพี่นักวิ่งในเฟสบุ๊คและได้มีโอกาสลงไปวิ่งเอง เทรลสำหรับเราคือการได้วิ่งในเส้นทางธรรมชาติ ป่าไม้ ภูเขา แอ่งน้ำ เส้นทางเนินดิน หินทราย และความยากง่ายของการวิ่งเทรลนั้นเราคิดว่ามันขึ้นอยู่กับระยะทางซะส่วนใหญ่ยิ่งระยะทางมากขึ้นทางยิ่งโหดขึ้น ที่สำคัญขึ้นอยู่กับการซ้อมของเราด้วยว่าเราซ้อมมามากน้อยขนาดไหน ตอนนี้หลายๆคนก็คงรู้จักคำว่าวิ่งเทรลกันไปบ้างแล้วและสำหรับใครที่อยู่ในแวดวงนักวิ่งก็คงรู้จักมันดี โดยปกติเราชอบลงงานวิ่งทั่วไปอยู่แล้ว และระยะที่ลงไม่เคยเกิน 12 km ส่วนเรื่องการทำเวลาก็ไม่ได้ทำได้ดีสักเท่าไหร่เราวิ่งอยู่เพซประมาณ 7-8 (เพซ คือ ความเร็วในการวิ่ง นาที/กม.) และเราก็ไม่เคยคิดจะลงวิ่งเทรลเลย วันหนึ่งนั่งไถโทรศัพท์ไปเรื่อยๆและเห็นงานวิ่งเทรลที่จัดขึ้นใกล้ๆบ้าน งานนี้ชื่องานว่า PET Pribpree Eco Trail แค่เห็นชื่องานก็สะดุดตาแล้ว รูปแบบงานจะเน้นไปในด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ใส่ใจธรรมชาติ ซึ่งเราก็ชอบสายนี้อยู่แล้วและยิ่งจัดใกล้บ้านด้วยจากที่ไม่คิดจะลงวิ่งเทรล ตอนนี้หาวิธีสมัครแล้ว เมื่อเจอวิธีสมัครแต่เหมือนฟ้าจะไม่เป็นใจ เพราะหมดเขตรับสมัครไปแล้ว แต่เราไม่ยอมแพ้ เราไปตามหาบิบในกลุ่มวิ่งให้ทัน ก็ไม่ได้จนสุดท้ายทางเพจของงานเปิดให้มีการซื้อขายบิบ เราก็ไม่รอช้าไปปักหมุดรับซื้อบิบ 5 km แต่ก็ไม่มีใครปล่อยจนไปเจอ 10 km ด้วยความอยากรู้อยากลองสนามเทรลเลยรับ 10 km มา แต่ก็บอกตัวเองว่าถ้าไม่จบ 10 km ก็ไม่เป็นไรเพราะเรามาด้วยความอยากรู้อยากลอง หลังจากที่ได้มาแล้วต่อจากนี้ก็ซ้อม ซ้อมอย่างเดียว ซ้อมจนเพื่อนถามว่า “มึงจะวิ่งไปถึงไหนว่ะ” ที่ซ้อมหนักขนาดนี้ไม่มีใช่เพราะอะไรเลย นอกซะจากนี้เพราะนี้เป็นเทรลแรก!! เทรลแรกด้วยระยะทาง 10 km กับเสียงเลื่องลือถึงความโหดของสนามนี้สำหรับเราไม่ใช่เรื่องง่าย จากที่ได้บอกไปว่าใครๆก็เลื่องลือกันว่ามันโหด จนถึงขั้นทักไปถามแอดมินเพจแอดบอกว่าเป็นพื้นดิน90%ไม่เจอเนินก็เลยไม่รู้สึกตื่นเต้นกับเทรลครั้งแรกของตัวเองสักเท่าไหร่ จนกระทั่งมาถึงงานและเข้าสู่จุดปล่อยตัวบอกเลยเริ่มกังวลเพราะว่าแค่จุดปล่อยตัวก็เจอเนินแล้ว!!! ผ่านจุดปล่อยตัวมาก็เริ่มโอเคขึ้นเอาทริคก้าวสั้นที่แฟนบอกมาใช้ กับการทรงตัว ความคล่องตัว การใช้กำลังขา พอเครื่องเริ่มติดแรงเริ่มมาก็วิ่งไม่หยุดจนได้เจอกับเส้นทางใหม่ มันคือทางเข้าป่าขึ้นไปบนเขานั่นเอง!!! ไหนทีมงานบอกชิวๆไง เราขึ้นเขาไปในกิโลที่7 ทางขึ้นชันมากกกก ยืนอึ้งอยู่สักพักแล้วถามตัวเองในใจว่าจะขึ้นไปได้ป่าวว่ะ สุดท้ายก็ตัดสินใจไปพอขึ้นไปได้อยากจะถามหาแอดมินเพจแล้วถามว่าไหนบอกว่าไม่มีเนินขึ้นเขาไปได้ก็ได้เพื่อนใหม่ต่างวัยอีก2-3คน วิ่งไปเบาๆคุยกันไปเรื่อยๆ ซึมซับและสัมผัสกับธรรมชาติอย่างที่เราไม่เคยได้ทำมาก่อน การวิ่งในป่ามันยิ่งทำให้เราเข้าใจและอยากที่จะปกป้องพวกเค้าเหล่านี้มากขึ้น (เราหันมาช่วยกันปกป้องและอย่าทำลายมากไปกว่านี้ดีกว่า เพราะบทเรียนต่างก็มีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ) ถ้าถามว่าเหนื่อยไหม..มันก็เหนื่อยมากแต่เราไม่ได้โฟกัสตรงนั้น เรารู้สึกเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศระหว่างทางวิ่งธรรมชาติ ต้นไม้ เพื่อนๆนักวิ่งมากกว่า เรารู้สึกว่าเหมือนเราไปวิ่งเล่นกลางป่ากลางหุบเขาอะไรแบบนั้น วิ่งเทรลให้ความรู้สึกเหมือนได้ผจญภัยอยู่ตลอดเวลา เพราะเราไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเจอเส้นทางแบบไหน และเราก็ต้องมีสติในการวิ่งเพราะเส้นทางมันพร้อมจะทำให้เราลื่นล้มได้ง่ายๆเลยแหละ รู้สึกดีมากๆที่เทรลครั้งแรกของเรามีเรื่องราวน่าประทับใจมากขนาดนี้ ซึ่งเรื่องราวเหล่านั้นมีเพียงนักวิ่งเท่านั้นที่รู้และได้สัมผัสมัน สำหรับใครที่อยากจะลอง อยากบอกว่าลองเลย “เทรลครั้งแรกมีครั้งเดียว” และอย่าลืมซ้อมวิ่งด้วยนะคะ :)