สวัสดีครับผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน วันนี้ผู้เขียนจะมาแชร์เรื่องราวผ่านบทความนี้ในแนวของเส้นทางพระพุทธศาสนากับการสืบสานประเพณีวัฒนธรรมของชาวอีสาน จะกล่าวถึงเรื่องของ พระนักเทศน์ ของภาคอีสานกันนะครับหลาย ๆ ท่านอ่านจะเคยรู้เคยฟังมาพอสมควรแล้วในเรื่องของพระนักเทศน์ หรือเทศแหล่ ซึ่งตอนนี้ผู้เขียนจะพาเจาะลึกลงไปให้กระจ่างกันเลย ว่าพระนักเทศน์แต่ละท่าน มีขั้นตอนการปฏิบัติกิจทางสงฆ์ในการเป็นนักเทศน์อย่างไร ตามหลักของพระพุทธศาสนากับพระสงฆ์องค์ที่เป็นนักเทศน์นี้จะมีหน้าที่ยังไง? ผู้อ่านอยากรู้แล้วใช่ใหมครับ พร้อมแล้วไปพร้อมกันเลย สาธุ... สาธุ... สาธุ... เมื่อพระองค์ใดมีความสามารถทางนี้ หรือพระที่มีเสียงที่ดี ก็จะมีการเล่าเรียนทำนองเทศน์ ในภาคอีสาน เทศน์แหล่เป็นการเทศน์แบบทำนองสรภัญะพระคาถา เป็นการแสดงธรรมเทศนาในญาติโยมสดับรับฟังในงานต่าง ๆ ซึ่งเป็นการแสดงธรรมแบบเป็นทำนองภาคพื้น เล่นเสียงยาวสั้น เป็นช่วงทำทำนองที่ไพเราะ โดยนำเรื่องราวคำสอนของพระพุทธศาสนานี้แหละครับ มาโปรดให้ญาติโยมได้รับฟังกัน ในส่วนของภาคอีสานก็จะเทศน์ไปในสำเนียงภาษาอีสานมีความโดดเด่นเฉพาะ ซึ่งทั้งหมดนี้นอกจากจะไพเราะในทำนองแล้ว ยังเป็นการดึงดูดผู้คนให้เข้ามาสนใจพระธรรมได้มากขึ้น เพราะการเทศน์แบบเล่นเสียงนี้ผู้ฟังก็จะมีอารมณ์คล้อยตามในความไพเราะจึงทำให้ไม่เบื่อคราวนี้ เรามาดูกันว่าพระนักเทศน์จะทำการแสดงธรรมเทศนาได้ที่ใหน? ลักษณะการเทศน์เป็นยังไง? แล้วเทศน์เพื่ออะไร? เรามาพูดถึงในเรื่องบุญอุทิศส่วนกุศล เมื่อมีคนตายก็มีการทำบุญ พระสงฆ์ย่อมเป็นองค์ประกอบในพิธีทางศาสนา มีการนิมนต์พระมาฉันข้าวที่บ้านงาน ถวายสังฆทานเป็นอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ตาย ส่วนในเรื่องของเทศน์แหล่นั้น ในชุมชนคนอีสานก่อนจะอุทิศส่วนบุญก็จะทำการเรียกดวงวิญญาณผู้ตายก่อน ในส่วนนี้แหละครับจะเป็นหน้าที่ของ พระนักเทศน์ ทำการเทศน์เรียกดวงวิญญาณมารับส่วนบุญ จากนั้นก็แสดงธรรมเทศนาให้ญาติโดยฟังในเรื่องการ เกิด แก่ เจ็บ แต่ จะใช้เวลาเทศ 2-3 ชั่วโมง เมื่อเสร็จพิธีก็จะเทศน์ส่งดวงวิญญาณเป็นอันเสร็จพิธี ทั้งหมดล้วนเป็นกิจของพระนักเทศน์อีกทางหนึ่งซึ่งชาวบ้านจะทำเป็นจารีตประเพณีเลยนะครับการเทศน์ในบุญประเพณี ซึ่งภาคอีสานนั้นจะมีจารีตประเพณีของแต่ละเดือน เรียกว่า ฮีต 12 คอง 14 ยกตัวอย่างเช่น บุญเผวส บุญมหาชาติ (พระเวสสันดร) จะเป็นบุญประจำเดือนสามของทุกปี ซึ่งการเทศน์นั้นจะยกเรื่องราวของพระเวสสันดรชาดก 13 กัณฑ์จะเป็นเรื่องราวของพุทธประวัติของพระพุทธเจ้าในครั้งอดีตกาล ยกมาเทศน์เป็นเรื่องราวให้ญาติโยมฟัง ซึ่งเป็นเนื้อหาหลักของงานเลยนะครับ ในการเทศน์นั้นใช้เวลาเกือบครึ่งวันกว่าจะครบ 13 กัณฑ์ และใช้พระนักเทศน์ 3 องค์หรือเรียกว่า 3 ธรรมมาสต์ แต่ละองค์จะรับหน้าที่ในส่วนของกัณฑ์ต่าง ๆ เรียบเรียงเป็นเรื่องราวและเทศน์จนครบ13 กัณฑ์ จากประสบการณ์ที่ผู้เขียนเคยนั่งฟังเทศน์แหล่ ท่านเทศน์ได้เพราะมากเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเสียง เป็นท่วงทำนองที่สละสลวยลื่นหู ฟังแล้วคล้อยตามเนื้อเรื่องพุทธประวัติเลยทีเดียวครับ การเทศน์แหล่นี้อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของการดึงดูดคนให้เข้าถึงศาสนามากขึ้นก็เป็นได้ เพราะการแสดงธรรมผ่านทำนองเทศน์แหล่นี้เวลาฟังมันมีความรู้คล้อยตามเรื่องฟังเเล้วเพลิน จึงไม่เกิดความเบื่อหน่ายฟังได้ทุกวัยซึ่งเป็นเรื่องที่ดีและเป็นเอกลักษณ์ของแสดงธรรมอย่างหนึ่งของภาคอีสานที่ยังคงรักษากันไว้อย่างมั่นคง เครดิตภาพจาก pixabay : ภาพหน้าปกภาพประกอบทั้งหมดจาก : ผู้เขียนตกแต่งภาพหน้าปกจาก : canva