" ใหว้พระขอพร พระธาตุโพน - พระธาตุอิงฮัง " วันหยุดนี้ ... ผมจะพาทุกคน ... ไปทริปทำบัญกันนะครับ ... *-* หลังจากที่วางแผนจะไปเที่ยวทะเลกับแฟน โดยหยอดกระปุกออมสินเป็นระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งก่อนจะเดินทางเราต้องหาแหล่งเงินก่อน .. แน่นอนครับ คงหนีไม่พ้น ..... ออมสิน [เจ้าหมู] ตัวนี้ ...... ไปไหว้พระแทนละกันนะครับ .... #รอบหน้าค่อยไปทะเล เมื่อเรามีตังแล้ว ... เราก็...... ได้เวลาแล้ว.....ไป...ไป....ไป.... เที่ยวกัน...น...น...น...น...น.... ซึ่งการเที่ยวในครั้งนี้ไม่ได้มีการวางแผนไว้ล่วงหน้า..... ปุ๊บปั๊บ ทันที 555+++ เรื่องของเรื่อง เกิดจากพี่ๆ ก๊วนเดียวกัน ชวนไปไหว้พระฝั่งสะหวันเขต ทุกคนเห็นพ้องต้องใจกันว่าอยากไปทำบุญกัน จึงเกิดทริปนี้ขึ้นมา จุดเริ่มต้น ของทริป ในครั้งนี้ผมขับรถยนต์ส่วนตัวไปจอดที่เชิงสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 (มุกดาหาร - สะหวันเขต) ซึ่งตรงด่านพรมแดนจะมีที่จอดฟรีครับ แต่วันที่ไปโชคดีหน่อยครับที่ได้ที่จอด แต่หากที่จอดเต็ม ก็มีบริการรับฝากรถยนต์ที่เชิงสะพาน ซึ่งจุดบริการที่จอดรถจะมีร่มกันแดดกันฝนให้ ไม่ต้องจอดตากแดดเหมือนกับผม และในการเดินทางนั้นจะมีรถโดยสารระหว่างประเทศวิ่งข้ามสะพานไปมาระหว่างสถานีขนส่งมุกดาหาร ไปยังตัวเมือง สะหวันเขต ซึ่งตารางเวลาเดินรถต้องตรวจสอบกับทางท่ารถอีกที แต่ในทริปครั้งนี้ เนื่องจากพี่ๆ ทีมงานได้นัดกับรถตู้เช่าเหมาลำไว้แล้ว จึงเป็นการง่ายในการเดินทางในครั้งนี้ แต่ถ้าเราจะเดินทางไปเองก็ไม่ได้ยุ่งยาก แต่ต้องเป็นไปตามขั้นตอนพิธีศุลกากร ซึ่งในส่วนของการเดินทางขาไป ทางรถเช่าจากฝั่งไทยของเราได้ดำเนินการจัดทำเอกสารผ่านแดนให้ทั้งหมด เสียค่าใช้จ่ายประมาณคนละ 200 กว่าบาท ซึ่งจะเป็นค่าเอกสารผ่านแดนชั่วคราว ซึ่งเราจะต้องเสียค่าบริการนิดหน่อยเพื่อให้ทางรถเช่าดำเนินการจัดทำเอกสารอำนวยความสะดวกในการผ่านแดนในครั้งนี้ ซึ่งทางรถเช่าก็ดีมากครับ เป็นมิตรกับทางคณะเดินทางของเรา และคิดราคามิตรภาพ (สมกับเป็นทริปแสวงบุญจริงๆ ครับ) และเมื่อเดินทางข้ามจากฝั่งไทยไปถึงฝั่งลาวเราก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการเข้าประเทศลาว น่าจะคนละ 100 กว่าบาทนะครับถ้าจำไม่ผิด ข้ามฝั่งไปแล้ว อย่างแรกเลยเราต้อง เปลี่ยนเงินจาก เงินบาท เป็น เงินกีบ ก่อนนะครับ ถ้าไม่สะดวกแลกก็ไม่เป็นไรครับ เพราะ สามารถใช้เงินสกุล บาท ของไทยได้เลย แต่จะคิดยากหน่อย เลยเปลี่ยนเป็นเงินกีบแทน จะได้เหมือนกับนักท่องเที่ยวหน่อย 555+++ (ต้องปลอมตัวให้กลมกลืนกับพื้นที่) บอกก่อนเลยครับทริปนี้ เป็นทริปบุญครับ สนุกมากครับ เพราะผมเดินทางกับชาวก๊วน พี่ๆ น้องๆ ซึ่งเป็นคนรู้จักและสนิทกัน มีแต่คนรู้ใจเท่านั้น จึงทำให้การเดินทางในครั้งนี้เป็นไปด้วยความครื้นเครงตลอกการเดินทาง จุดหมายแรกที่เราเลือกไปโดยเฉพาะคือ พระธาตุโพน ซึ่งมีคนพูดกันต่างๆ นาๆ และเล่าขานกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ เป็นอย่างมาก ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าใครเล่ามา แต่ในใจก็อยากจะไปไหว้สักครั้งหนึ่ง ซึ่งทริปนี้เป็นการข้ามไปเที่ยวลาว ครั้งที่ 3 ของผม และเป็นการไปเที่ยวพระธาตุโพน ครั้งแรกในชีวิตของผมด้วย แอบตื่นเต้น นิดๆ ก้าวแรกที่ไปถึงวัดพระธาตุโพน ตลอด 2 ข้างทาง เป็นไปแบบธรรมชาติมาก ทุกอย่างรอบๆตัวยังมีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก ซึ่ง เราจะได้สัมผัสกับ วิถีชีวิตชนบท ที่เรียบง่าย และแฝงไปด้วยมนต์เสน่ห์ ของผู้คนตลอด 2 ข้างทางของการเดินทาง การเดินทางใช้ระยะเวลาสักพอสมควร เนื่องจากการไม่คุ้นชินเส้นทางและการขับคนละเลนส์กับเส้นทางของไทย จึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการเดินทาง เมื่อไปถึงผมก็ซื้อดอกไม้ ธูป เทียน ที่ทางวัดจัดเตรียมไว้ ซึ่งรายละเอียดต่างๆ จะมีคนที่จำหน่ายดอกไม้เตรียมไว้ให้แล้ว วัดแห่งนี้จะมีผู้คนทั้งชาวลาว และชาวไทย พากันเดินทางมากราบใหว้ไม่ขาดสาย ภายในบริเวณวัด ก็จะคล้ายๆ กับ วัดบ้านเราซึ่งจะมีการทำบุญในจุดต่างๆ มีพ่อค้าแม่ขายของเยอะ เป็นบรรยากาศที่อิ่มทั้งบุญ อิ่มทั้งใจ และเมื่อใหว้พระขอพรเสร็จ เราก็พากันเดินมาเสี่ยงเซียมซี (เหมือนที่เคยทำ) ได้ใบที่ 13 แต่เชื่อไหมครับ ผม ... อ่านไม่ออก 555++ (โง่ จริงๆ) ผมเลยให้ชาวบ้านที่เป็นคนลาวแถวนั้นช่วยอ่านและแปลให้ ซึ่งความหมายก็ค่อนข้างจะดี(เขาว่ามานะ) นี่หละหนา ที่เขาว่ากันว่า "การศึกษาสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด" ได้เห็นชัดๆ ก็ วันนี้หละครับ (555+++ ) อยากบอกว่า "ขอบคุณครับ" ที่ช่วยแปลคำทำนายให้ผม หลังจากไหว้พระธาตุโพนเสร็จก็เดินทางกลับ ณ ช่วงที่เดินทางกลับเวลานั้นก็ บ่ายๆ แล้ว และยังมีโปรแกรมมาใหว้พระต่อที่พระธาติอิงฮัง ซึ่งอยู่บริเวณแขวงสะหวันเขต หลังจากเดินทางจากพระธาตุโพนมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ก็เดินทางมาถึง พระธาตุอิงฮัง ซึ่งเมื่อมาถึงจะต้องซื้อบัตรเข้าไปในวัด ค่าบัตรผ่านประตู บัตรราคา 5000 กีบ ก็ เป็นเงิน 20 บาทไทย [ลืมบอกไปว่าคราวที่แล้วผมมาเอง เหมารถเครื่อง (3 ล้อ) จาก บขส. มาก็ได้ ไม่ไกลเท่าไรนักครับ แต่พระธาตุโพนจะไกลออกไปมากๆ เลยครับ] หลังจากซื้อบัตรเสร็จ เราก็เข้าวัดกันเลย ... แต่ลืมบอกไปว่าว่าต้องแต่งตัวสุภาพนะครับ ผู้หญิงต้องนุ่ง "ผ้าซื่น" ซึ่งมีทางวัดเตรียมไว้ให้ อาจจะเพื่อความเรียบร้อย และการเคารพสถานที่แห่งนี้ และเพื่อเป็นไปตามขนบธรรมเนียมของท้องถิ่นนั้นๆ เราจึงต้องปฏิบัติตาม เมื่อใหว้พระขอพรเสร้จแล้ว ผมเหลือบมองนาฬิกา อ้าว...ไกล้จะคำ่แล้วนี่หว่า ลืมไปว่าต้องกลับไทยแล้ว ต้องลาจากชาวก๊วนมาก่อน เนื่องจากแฟนติดงานประชุมในวันรุ่งขึ้น คิดในใจว่า จะกลับทันไหมน้อ......... พี่คนขับรถตู้รีบซิ่ง ขับรถมาส่งที่ บขส.สะหวันเขต ไม่เสียแรงที่รีบ เรามาทันรถเที่ยวสุดท้ายของวันนี้พอดี (โชคดีอะไรยังงี้) นี่หละหนา เขาว่าคนมาทำบุญ มันก็ต้องได้รับสิ่งดีๆ สิครับ 555 +++ รีบไปซื้อตั๋วเพื่อกลับไทย (รถบัสระหว่างหว่างประเทศ) เมื่อได้ตั๋วแล้วก็ขึ้นมาบนรถ (อาการสะบายใจแบบบอกไม่ถูก 555+++) นั่งลงไม่ถึง 5 นาที รถก็เคลื่อนออกจากสถานีไปอย่างช้าๆ พร้อมกับกาลบอกลาของแสงพระอาทิตย์ในวันนั้น พอมาถึง ด่านพรมแดนของฝั่งลาว ก็ต้องลงจากรถมาประทับเอกสารขาออก ที่ด่าน ต.ม. ของ สปป.ลาว เสียค่าธรรมเนียมไป 100 บาท จำไม่ได้ว่าต่อคน หรือ ว่า 2 คน เนื่องจากมาพร้อมกับแฟน 2 คน หลังจากดำเนินการด้านเอกสารเสร็จก็มาขึ้นรถ รอจนทุกคนประทับเอกสารเสร็จ รถบัสก็พาเราข้ามสะพานมาถึงไทยอย่างปลอดภัย เป็นทริป 1 วันที่ มีความสุขมากครับ อาจจะได้ไปเที่ยวหลักๆ แค่ 2 ที่ เนื่องจากทำการบ้านมาน้อย แต่ระหว่างการเดินทางก็ได้แวะตลาดของป่าข้างทาง ได้แวะซื้อของจากชาวบ้าน ซึ่งมีราคา ถูก อร่อย ที่สำคัญ ได้เยอะ ด้วยครับ (ชอบตรงนี้มากครับ 555 +++) เป็นทริปที่มีความสุขมากครับ ไว้เก็บตังได้ มีเวลาว่าง และมีโอกาส ผมจะมาใหม่นะครับ อย่าลืมติดตามอ่านทริปต่อไปของผมนะครับ ภาพถ่ายโดย : จอมยุทธฯ