วันนี้ผู้เขียนจะพาคุณผู้อ่าน ตะลอนเที่ยวเกาะสีชัง 2 วันกับ 1 คืน แบบคนต่างจังหวัด ที่ไม่มีรถส่วนตัว เที่ยวแบบรักษ์โลก(ประหยัดงบ) แต่อิ่มเอม เอ๊ะยังไง? เที่ยวแบบเรียบง่าย สโลว์ไลฟ์ อะไรประมาณนั้น เท่าที่ผู้เขียนไปสัมผัสมา อยากบอกทุกคนว่า เกาะสีชัง นั้นเป็นหมู่เกาะเล็กๆและบรรยากาศดี นำ้ทะเลสวย ให้ฟีลแบบบ้านพักตากอากาศที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับการไปพักผ่อนและเติมพลังให้ชีวิตนอกจากความสวยงามแล้วสถานที่แห่งนี้ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศไทยเนื่องจากเคยเป็นสถานที่เสด็จประพาสและเป็นที่ประทับของพระเจ้าแผ่นดินของกรุงรัตนโกสินทร์ถึง 3 พระองค์ ได้แก่ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และที่อื่นๆที่น่าสนใจอีกมากมายแต่!!วันนี้ เราจะพาคุณไปแบบสโลว์ไลฟ์ แบกเป้ใส่หลัง ขึ้นรถบัส ถ้าเป้าหมายของคุณคือ “เกาะสีชัง” ใช่ เราไปทางเดียวกัน *-*Day 1( วันที่ 1 )เริ่มต้นจากต่างจังหวัด เดินทางโดยรถทัวร์ 407 นะคะไปซื้อตั๋ว ได้ที่ บขส. แล้วบอกคนขายตั๋วว่า ไปลงโรบินสันศรีราชาค่ะ ค่ารถ จากจังหวัดเรา ถึง ศรีราชา ราคา 536 บาท(เมื่อ เมษายน 2566) สำหรับใครที่เริ่มต้นจากต่างจังหวัดเหมือนเราก็ลองหารถที่ผ่านศรีราชาดูนะคะ แต่ถ้าไม่มี ก็ไปลง กรุงเทพ ที่สถานีหมอชิต แล้วต่อรถตู้ไปศรีราชาได้เลยค่ะ ผู้เขียนเดินทาง รถเที่ยว 19.15 น. เดินทางเพื่อไปลงโรบินสันศรีราชา รถถึงศรีราชาประมาณ 6.40 น. ในวันต่อมา พอลงรถทัวร์มา ก็จะมีพี่ๆ สามล้อมาห้อมล้อมเรา ถามว่าเราจะไปไหน เยอะแยะเลย ผู้เขียนขึ้น สามล้อ เพื่อไปเกาะลอย (ท่าเรือซื้อตั๋วไปเกาะสีชัง) ราคา สามล้อ 60 บาท จากโรบินสัน ศรีราชา ถึง เกาะ ลอย พอถึงเกาะลอย จะมีช่องขายตั๋วเล็กๆข้างท่าเรือเลย เราก็เดินไปซื้อตั๋วและขึ้นเรือเดินทางไปยังเกาะสีชัง ตารางเดินเรือ ออกจากศรีราชา มี รอบ 07.00 น. , 11.00 น. , 15.00 น. และ 19.00 น.ออกจากเกาะสีชัง มี รอบ 09.00 น. , 12.00 น. , 13.00 น. และ 17.00 น.ราคาตั๋ว 50 บาท ใช้เวลาเดินเรือ ประมาน 50-60 นาที ก็เดินทางมาถึงเกาะสีชังเราสามารถเช่ารถมอเตอร์ไชค์ ได้จากตรงนี้เลยนะคะ เช่าเป็นรายชั่วโมงหรือเป็นรายวันก็ได้ แต่ผู้เขียนเช่ารายวัน ราคา 300 บาทต่อวัน มีน้ำมันให้เต็มถัง (เช็คน้ำมันก่อนขับออกก็ดีนะคะ)พอได้รถแล้วเราก็มุ่งหน้าไปยังที่พักที่เราได้จองไว้ นั่นก็คือ "ชายเขารีสอร์ท" ขับจากท่าเรือมาถึง ที่พัก ประมาณ 15 นาที เนื่องจาก ขี่ชมวิวมาตามรายทาง สามารถดูเส้นทางผ่าน google map ได้เลย ค่าที่พักที่ "ชายเขารีสอร์ท" ก็มีหลายราคา แต่ผู้เขียนเลือก ราคาคืนละ 500 บาท พอน่ารักกรุบกริบ ลืมบอกไป บนเกาะมีแค่ตู้ กสิกร เท่านั้น ใครใช้ธนาคารอื่นตู้กดไม่มีนะคะ แต่สามารถถอนเงินได้ที่ 7-11 นะคะ มีบริการเป็นธนาคารไทยพานิชย์และกรุงศรีเท่านั้นค่ะ (ข้อมูลเดือน เมษายน 2566) ผู้เขียนเกือบตุย เพราะไม่พกเงินสด แต่ดีหน่อยที่ใช้ธนาคารไทยพานิชย์ เมื่อถึงที่พัก ผู้เขียนก็นอนพักผ่อนเอาแรงซะก่อน ตามประสาคนที่มาคนเดียวจะทำอะไรก็ได้ นอนพักประมาณ 2 ชม. ก็ได้เวลาออกผจญภัย โดยมีรถเช่าเป็นเพื่อนร่วมทาง จุดแรกที่ไปเชคอิน คือ ช่องอิศริยาภรณ์ (ช่องเขาขาด) ซึ่งเป็นจุดชมวิว อีก 1 จุด ที่นักท่องเที่ยวที่มาเกาะสีชังต้องมาถ่ายรูป เพราะวิวสวยไม่แพ้ที่ไหนเลย เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม เป็นวิวที่สามารถมองเห็นหน้าผาและทะเล และสามารถนั่งตกปลาได้ นะ ภาพนี้ถ่าย ตอนฝนตกเสร็จใหม่ๆ ท้องฟ้าเลยไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่ช่องเขาขาด อีกหนึ่งจุดเชคอิน เมื่อมาที่เกาะสีชัง ต้องมาเก็บภาพไว้ เดี๋ยวเขาจะหาว่ามาไม่ถึง จากนั้นขับมอไชค์คู่ใจไปยังสะพานอัฐฎางค์ สะพานแห่งรัก ที่หลายคนก็มากันเป็นคู่ แต่เราไม่มี! แต่!!ก็อย่าได้แคร์ เติมความมั่นให้เต็มร้อยไว้ อาจจะเจอเนื้อคู่แถวนั้นก็ได้ สรุปคือ ก็ไม่เจออยู่ดี แต่ยังไงก็ตามชีวิตเราต้องเดินต่อไป ก็ไปเดินถ่ายรูปคนเดียว แบบเหงาๆ ตรงสะพานแห่งรัก (สัญลักษณ์แห่งความรักของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่มีต่อชาวเกาะสีชัง) จากสะพานเราก็เดินต่อ มาไหว้สักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เพื่อขอพร ตรงนี้จะมีคุณยาย ขายดอกไม้และธูปเทียนอยู่ คุณยายก็แนะนำให้เราเดินขึ้นไปชมความงามด้านบน ยายบอกเดินขึ้นเขาไปนิดหน่อยไปชมวิว เกาะสีชัง ด้วยความที่เรามาไกล ก็ไม่อยากเสียใจทีหลังถ้าพลาดunseen ของที่นี่ เราเลยตัดสินใจเดินขึ้นไป (คนเดียว) ในใจก็ลุ้นให้เจอเพื่อนร่วมทาง แต่ก็เจอนะ เจอแต่คนที่เดินลงมาเราส่งยิ้มบางๆให้พวกเค้า และ…เดินต่อไป และแล้ว ก็มาถึง unseen ที่คุณยายพูดถึงวัดอัฐฎางค์นิมิต โบราณสถานอันศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่เกาะสีชังมาช้านาน เป็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิค เป็นสถานที่สงบ ไม่พลุกพล่าน เหมาะแก่การทำสมาธิ และปฏิบัติธรรม แต่เสียดายที่วันนั้นเราไป อาจจะไปค่ำวัดปิดก่อนเลยไม่ได้เข้าชมความงามด้านในเดินตามทางข้นมาอีกนิดหน่อย เพื่อไปถ่ายรูปที่จุดชมวิวเขาน้อย เสร็จแล้วก็เดินกลับ ที่เดิม ที่จุดเริ่มต้นของเรา เดินชมหาดที่เงียบสงบในตอนเย็น มีเรือนไม้ คลาสสิค สีเขียวอยู่ริมหาด มีที่นั่งเล่นหน้าหาด ให้นั่งชิล เรียงรายทั่วหาด ลมพัดเย็นสบาย ช่วยให้ผ่อนคลาย หายเหนื่อยได้ดีเลยทีเดียวก่อนกลับที่พัก ก็แวะไปตลาดเย็นหาอะไรกิน ขับมอเตอร์ไซค์ ลัดเลาะมาจนถึงที่หมาย จากนั้น ขับรถมาดื่มชาชิลๆ ที่ squidy’s home ก่อน แล้วค่อยกลับที่พัก จบไป 1 วันตะลอนเที่ยวเกาะสีชังDay 2 ที่เกาะสีชังเช็ค เอ้า จากที่พัก 8.30 น. จากนั้นขับ มอเตอร์ไซค์ มาที่ท่าเรือเกาะสีชัง เพื่อรอขึ้นเรือ ตอน 09.00น. คืนรถให้เรียบร้อย จากนั้นเดินมารอซื้อตั๋ว ค่าตั๋ว เรือราคา 50 รอเรือสักพัก เรือก็มาถึง ก็นั่งเรือมา ลงที่เกาะลอยที่เดิม เหมือนตอนขามา จากนั้น นั่งสามล้อ ไปลงท่ารถตู้ ไป กรุงเทพฯ บอกคนขับว่าให้ไปส่งที่ รถตู้ไปหมอชิต ค่าสามล้อ 60 บาท นั่งรถตู้หมอชิต มาลงที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 เพื่อซื้อตั๋วกลับบ้าน กลับบ้านครั้งนี้โดยขนส่งนครชัยแอร์ บริการดี ประทับใจ คนขับค่อยๆขับและส่งผู้โดยสารทุกคนถึงที่หมายโดยสวัสดีภาพ รวมถึงตัวผู้เขียนก็ด้วย สำหรับ ทริปนี้ ก็ขอเสร็จสิ้นภารกิจการรีวิวเกาะสีชัง แต่เพียงเท่านี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นแนวทางที่เป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านหลายๆท่านไม่มากก็น้อยแล้วพบกันใหม่บทความหน้า นะคะภาพทั้งหมดโดย:ผู้เขียน อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !