เส้นทางชิมของอร่อยจากแหล่งพื้นบ้าน ช้อป ปั่นชมทุ่งดอกไม้ วันนี้ครอบครัวเราจะออกจากบ้านไปหาอะไรรับประทาน ละแวกชุมชนที่เปิดช่วงวัน เสาร์-อาทิตย์ ที่นี่เป็นการรวมตัวของชาวบ้านและสร้างชุมชนขึ้นมาโค้งถนนนึงที่ "บุ่ง" ของกินของพื้นบ้านแต่บรรจงทำ มีผัก ผลไม้ ขนม ของฝาก หรือ อาหารที่สามารถนั่งรับประทานในบรรยากาศซุ้มหญ้าแฝก ชายคา ชาวบ้านชาวสวนและละแวกคนบ้านท่ามะเฟือง รวมตัวกันจนเป็นหมู่บ้านตัวอย่างให้หลายชุมชนมาเที่ยวชมและเป็นที่จัดกิจกรรมของชุมชนอีกด้วย "บุ่งวังโคลน บ้านท่ามะเฟือง" ตอนแรกก็งงๆ กับคำว่า"บุ่ง" เห็นหลายที่ในจังหวัดนครนายกมีชื่อขึ้นต้นว่าบุ่งมากมาย ที่เห็นตามป้ายบอกทาง ชวนให้เปิดค้นหาความหมายคำนี้มากเพื่อไขข้อข้องใจ บุ่ง คือ บึง นั่นเอง ค่ะ ไปเที่ยวดูบุ่ง จริงๆ กัน เลยดีกว่า จอดรถปุ๊บลงเจอด่านแรกใกล้ที่จอดรถคือ ส้วมค่ะ น่าสนใจเชียว แวะล้างไม้ล้างมือก่อนรับประทานอาหารซะก่อนเพื่อสุขอนามัยกันค่ะ เราเริ่มเดินตามทางถนนเล็กๆ ที่เป็นโค้งถนนของบ้านท่ามะเฟือง ที่กลุ่มชาวบ้านร่วมกันปรับปรุงภูมิทัศน์เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในตำบล ป่าขะ โดยทางเดินมีซุ้มร้านค้า ตั้งแต่ ขายอาหาร ผัก ผลไม้ ขนม เป็นส่วนใหญ่ และซุ้มนั่งเล่นเป็นระยะๆ เห็นวิวน้ำ (บุ่ง) นั่นเอง โดยลมที่พัดมาจากบึงน้ำให้สดชื่นเย็นสบาย ระหว่างรออาหารที่สั่งไว้ก็เดินชมได้ระยะสั้นเพื่ออุ่นเครื่อง ตลาดโดยรวม คือ เส้นทางเป็นโค้งที่สวยงามมีต้นปาล์มขึ้นเป็นทิวตลอดถนน การวางพื้นที่น่าสนใจทีเดียว โค้งถนนจุดเริ่มเดินชิมโดยมีซุ้มอาหารอยู่สองข้างทาง เงาต้นไม้สวยดี นอกจากมีซุ้มอาหารให้เราชิม แล้ว ทานเสร็จเราจะได้ปั่นจักรยาน เพลินๆ ชมทุ่งดอกไม้ที่อยู่ถัดเข้าไปในซอย ซึ่งครั้งนี้เราปั่นไปไม่ถึงเนื่องจากมีเวลาจำกัดและลูกทีมตัวน้อยวิ่งเล่นเสียหมดแรงปั่น ไว้มีโอกาสคราวหน้าจะรีวิวส่วนทุ่งดอกไม้นี้อีกทีค่ะ และช่วงที่ไปยังไม่ตรงช่วงของน้ำในบุ่งมากนัก ซึ่งหน้าน้ำอาจได้พายเรือกัน จักรยานฟรีที่ทางชุมชนจัดไว้ให้นักท่องเที่ยว จอดเรียงรายใครอยากออกกำลังขาก็ได้เลยค่ะจากนั้นนำมาคืนที่ เราเริ่มเดินตรงลึกเข้าไปเพลินๆ ตามทางถนน ซึ่งจะเป็นอีกจุดที่น่านั่งเล่นมากและเป็นจุดชมบุ่งนั่นเอง เดินเข้าไปตรงสะพานไม้ไผ่ น้องชายตัวเล็ก ตรงเข้าไปเจอกลุ่ม เด็กๆ กลุ่มนึงเล่นกันอยู่ เด็กๆ แต่งโจงเสื้อของชุมชน พร้อมกล่าวทักทายยกมือไหว้ เราอย่างน่ารักพร้อมทักทายต้อนรับ เป็นลูกหลานของชาวบ้านที่มาขายของในวันหยุดนั่นเอง โดยด้านล่างทางบุ่งจัดเรือให้ผู้มาเยี่ยมเยียน แต่ยังไม่มีน้ำในส่วนนี้เต็มที่เพราะยังไม่ใช่หน้าน้ำ เห็นว่าถ้าช่วงหน้าน้ำจะเยอะมาก น่าที่จะมาพายเรือคงได้อีกบรรยากาศ เล่นกับเด็กๆ สักพักก็เดินกลับไปทานอาหารที่สั่งไว้ ดูหน้าตาน่ารับประทานมากส้มตำและประเภทยำๆคือร้านที่นิยม กลับไปไม่ทันเลยได้ภาพของทานมานิดหน่อย ^__^ ไม่ต้องบอกว่าพรรคพวกหิวกันแค่ไหน ทอดมันหน่อข่าในจานรักษ์โลก เป็นออเดิร์ฟ ของทานเล่นนั่งรับประทานที่ซุ้มไม้ไผ่ที่จัดไว้ให้นักท่องเที่ยวหรือ จะซื้อขนมทานเล่นจัดชุดน่าสนใจดี ขนมเบื้องที่ให้เอาไปทำเอง เมี่ยงคำที่แพ็คเป็นชุดพร้อมเป็นของฝาก ขนมลูกชุบเป็ดน้อยร้อนๆและหมดเร็วมาก ทานเสร็จได้เวลาไปลองเส้นทางจักรยาน เด็กๆ ชอบมาก งานนี้พี่พาน้องซ้อนท้ายและเริ่มสำรวจ สอบถามพี่ๆ ร้านค้าบอกว่าปั่นตรงเข้าไปข้างในจะมีทุ่งดอกไม้ เริ่มสตาร์ทกัน ปั่นไปสักระยะ (ไม่ถึงสองร้อยเมตร)เจ้าน้องชายร้องกลับ จบ จบ จบ ข่าวค่ะ วกกลับแฮนด์จักรยานแทบไม่ทัน สรุปคราวหน้ามาใหม่ แต่คงต้องชวนเพื่อนๆ มาเป็นแกงค์ชวนกันปั่นน่าสนุกดี มีเวลาไม่มากค่ะแต่ก็ได้เซอเวย์ได้อิ่ม ได้ยืดเส้นขานิดหน่อย ขากลับแวะซื้อขนมถ้วย มีชื่อเขียนว่าขนมถ้วยร้อยปี แต่ยืนรอนานนิดเพราะป้าแกยกทิ้งทั้งเตา เนื่องจากแกบอกว่าดูหน้ามันแตกไม่สวย และทำให้ใหม่ บอกของไม่ดีไม่ให้เอากลับ น่ารักจริงๆ คนบุ่งนี้ ขนมถ้วยสูตรร้อยปี หมดเร็วเตาต่อเตาเลยค่ะ เพราะเขาจะทำสดๆ ร้อนๆ ยายให้เลือกผลไม้กลับบ้านฟรีด้วยเพราะยายบอกให้รอนาน แต่เราเกรงใจ ไว้พบกันอีกน่ะยาย