หากพูดถึงจังหวัดกาฬสินธิ์ เชื่อว่าหลายๆคน คงจะคุ้นเคยเพียงดินแดนที่มีโครงกระดูกไดโนเสาร์ หรือ เขื่อนลำปาว ยิ่งพูดย่อยลงมาถึงเมืองสหัสขันธ์ ยิ่งหาจุดให้นึกถึงได้ยาก หากไม่ใช่คนสายธรรมะธัมโม รู้จักหลวงปู่หา แห่งวัดสักกะวัน แต่ถ้าหากอย่างถ่ายรูปวิวสวย บรรยากาศดี หรือพักผ่อนเมืองรอง ใช้ชีวิตชิล ๆ ตามแบบฉบับสโลว์ไลฟ์ เมืองสหัสขันธ์ ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวนัก และสถานที่ที่ส่วนตัวผมประทับใจก็คือ วัดพุทธาวาส ที่ตั้งบนเขาภูสิงห์ สำหรับ เมืองสหัสขันธ์ เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดกาฬสินธุ์ มีจุดเด่นที่เป็นที่ค้นพบกระดูกไดโนเสาร์ มีหลวงปู่หา แห่งวัดสักกะวัน เป็นที่พึ่งทางใจ และมีสะพานสินรินธรให้เราได้ไปพักกาย หย่อนใจ รับลมแม่น้ำได้อย่างสบายอุรา ส่วนวัดพุทธาวาสนั้น ตามประวัติที่ได้ค้นหาและสอบถาม ได้เค้าความว่า แต่เดิมวัดแห่งนี้ เป็นสำนักสงฆ์มาก่อน มีอายุมากกว่า 100 ปี ก่อนจะขึ้นวัดพุทธาวาส ภูสิงห์นั้น ผมแนะนำว่า ควรจะแวะสักการะหลักเมืองสหัสขันธ์ ซึ่งอยู่ใกล้คียงกับบันไดนาค หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า บันไดสวรรค์ เพื่อขอพรความเป็นสิริมงคล และถือหลักว่า มาเที่ยวบ้านเข ต้องทำการเคารพผู้ใหญ่ของบ้านก่อน ส่วนทางขึ้นไปบนยอดภูสิงห์นั้น มีให้เลือก 2 ทาง ได้แก่ เดินขึ้นทางบันไดนาค หรือ บันไดสวรรค์ จำนวน 654 ขั้น เป็นจุดที่เรียกได้ว่า วัดใจสายบุญ ตามคติ เดินทางลำบาก ได้บุญมาก กับอีกทาง คือ การขับรถหรือขี่รถจักรยานยนต์ขึ้นไปจอดด้านบน ระยะทาง 3 กิโลเมตร และต้องบอกว่า เส้นทางขึ้นภูสิงห์นี้ เป็นจุดยอดนิยมของเหล่านักปั่นน่องเหล็กของสหัสขันธ์ ถ้าที่เชียงใหม่ มีดอยสุเทพเป็นแหล่งปั่น ภูสิงห์ก็เป็นที่ซิ่งประจำอำเภอนี้เช่นกัน ตลอดเส้นทางขึ้นเขา ร่มรื่น เย็นสบาย ด้วยเป็นภูเขาที่เป็นพื้นที่อภัยทาน ทำให้ไม่มีคนมารบกวนพืชพันธุ์และเหล่าสัตว์ เมื่อรถนำเที่ยว พาผมขึ้นมาถึงด้านบน ต้องยอมรับว่า ที่นี่ สวยงาม เหมาะกับผู้ที่ต้องการทำบุญหาความสงบ ผมชอบอย่างบอกไม่ถูก และเดินไล่เรียง เที่ยวดู จุดต่าง ๆ และขึ้นไปสักการะพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีขาวตั้งเด่นอยู่ด้านบน ซึ่งมีชื่อว่า พระพรหมภูมิปาโล สำหรับประวัติการสร้าง พระพรหมภูมิปาโล มีเรื่องราวว่า ในปี 2509 อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายบุรี พรหมลักขโณ ต้องการแก้ไขปัญหาการแทรกซึมของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย รวมทั้งต้องการพัฒนาพื้นที่และสร้างมั่นคงและยึดถือเชื่อมั่นให้คนในพื้นที่ จึงได้ดำเนินการพระพุทธรูปขึ้นบนภูสิงห์แห่งนี้ แล้วเสร็จในปี 2511 เมื่อขึ้นมาอยู่บนภูสิงห์แล้ว เราจะสามารถชมวิวทิวทัศน์โดบรอบเมืองสหัสขันธ์ และจะมองเห็นเขื่อนลำปาว ภูกุ้มข้าว ไม่น่าเชื่อว่า ขนาดคนทำงานเดินทางทำข่าว ไปมาหลายที่ ผมกลับติดใจบรรยากาศของที่นี่ คนไม่มาก สามารถเลือกจุดถ่ายรูปได้ตามใจชอบ และยังได้ทำบุญ พักจิตใจให้สงบได้ในสถานที่เดียวกัน. เรื่องและภาพ โดย วรกร เข็มทองวงศ์