น้ำทะเลสีฟ้าใส เกาะน้อยใหญ่วางเรียงราย พักผ่อนใจกายที่บูทีค ในชุมชนชิค ๆ @เสม็ดนางชี สวัสดีนักท่องโลกทุกท่าน ในครั้งนี้นักเขียนมือใหม่นาม พรรษา พาสรรค์ จะพาทุกท่านไปสรรหาสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ กับ "เสม็ดนางชี" หากพร้อมแล้ว ไปกันเลย รู้จักเสม็ดนางชี "เสม็ดนางชี" สถานที่ทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงระดับโลก ความลึกลับและน่าค้นหา คือมนต์ขลังที่สามารถสยบใจนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี เพียงแค่คุณเดินก้าวย่างเข้าไปยังฉากหลังที่สะท้อนความสวยงามในตัวเองโดยไม่มีการปรุงแต่ง มองแสงอาทิตย์ยามเช้าที่เปล่งประกายตัดกับสีฟ้าครามของน้ำ ช่างสวยงามราวกับภาพลวงตาหน้าร้อน ภูผาเล็กใหญ่ที่เรียงตัวอย่างสวยงามดุจดั่งสวรรค์สร้าง ฟังเสียงเรือหางยาวของชาวบ้านเหมือนเสียงดนตรีที่คลอประกอบ สูดกลิ่นไอของธรรมชาติที่สดชื่นชุ่มปอด ทำให้รู้สึกว่าเวลาของการพักผ่อนได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เสม็ดนางชี ตั้งอยู่ที่หมู่ 2 บ้านท่าอยู่ ตำบลคลองเคียน อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา ชื่อแปลก ๆ ของ "เสม็ดนางชี" ที่ฟังแล้วก็สะกิดใจในครั้งแรกนั้น โดยคำว่า "เสม็ด" มาจากคำว่า เหม็ดผ้า ในภาษาใต้ ซึ่งแปลว่า การยกชายผ้าขึ้นให้พ้นน้ำ เนื่องจากในสมัยก่อนมีเรื่องเล่า เริ่มมาจากพ่อเฒ่าผู้หนึ่งในเกาะแห่งหนึ่ง ที่ต้องการจะสู่ขอหญิงสาวให้แก่ลูกชาย ในขณะที่ออกเดินทาง มีแม่ชีท่านหนึ่งอยากไปกับพ่อเฒ่าด้วย จึงผ่านน้ำคลองไปหาเรือให้ ทำให้ผ้าเปียก เขาจึงให้แม่ชีเหม็ดผ้าขึ้น จนจุดนั้นก็กลายเป็นจุดเสม็ดนางชีมาจนถึงทุกวันนี้ ในเหล่าแบ็กแพกเกอร์ โดยเฉพาะผู้ชอบการพิชิต ต่างก็ให้ความสนใจกับที่นี่เป็นอย่างมาก เนื่องจากการที่จะขึ้นไปถึงจุดชมวิวได้นั้น คุณต้องเดินต้านแรงโน้มถ่วงของโลก ซึ่งองศาในการเดินก็ช่างลาดชันยิ่งนัก ในช่วงแรกมีน้อยคนนักที่จะสามารถถึงจุดสูงสุดนี้ได้ แต่ในสมัยนี้การเดินทางขึ้นกลับง่ายดังปลอกกล้วยเข้าปาก เพียงแค่ยื่นเงิน 90 บาท (ค่ารถ 60 บาท ค่าชมวิว 30 บาท) ให้แก่พนักงานต้อนรับ สักพักก็จะมีรถกระบะพาคุณไปผจญภัยกับทางชันลาดสุด ๆ โปรดจับกรงเหล็กให้มั่น พร้อมประชันความเสียว เจ้าสี่ล้อขนาดใหญ่จะพาคุณไปท้าทายกับการผจญภัยที่คุณจะไม่มีวันลืม เมื่อไปถึงจุดชมวิว มีการบริการเต็นท์ขนาดย่อมสำหรับผู้เดินทางที่ต้องการรับชมบรรยากาศของวิวราคาแพงในตอนกลางคืนและตอนเช้าตรู่ เต็นท์สำหรับ 2-3 คน ราคาอยู่ที่ 350 บาท หากมาเป็นครอบครัว แนะนำให้เช่าหนำ (กระท่อมเล็ก ๆ ) โดยบริการในราคาหลังละ 500 บาท นอกจากนี้ยังมีร้านค้าที่ให้ความสะดวกทั้งอาหารและของใช้ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เพียงเท่านี้คุณก็จะได้รับชมวิวสวย แบบ 360 องศา ได้อย่างชื่นใจ การเดินทางมายังเสม็ดนางชี มีเคล็ดลับง่าย ๆ คือ สังเกตสะพานลอย ถ้ามาจากทางกระบี่ ให้นับสะพานลอยที่ 4 แล้วเลี้ยวซ้าย แต่ถ้ามาจากทางภูเก็ต ให้เริ่มนับจากสะพานสารสิน เลี้ยวรถกลับที่สะพานลอยที่ 3 จากนั้นนับสะพานลอยที่ 3 อีกครั้งแล้วเลี้ยวซ้าย เข้าไปยังปากทางท่าอยู่ โดยเส้นทางที่เข้าไป เป็นเส้นทาง 13 กิโลเมตรที่สวยงามอีกเส้นหนึ่ง ผ่านภูเขาเขียวขจี และนานาพันธุ์ไม้ที่เรียงรายอยู่ข้างถนน คุณจะได้สดชื่นกับบรรยากาศที่ปกคลุมไปด้วยธรรมชาติ และได้รับอ้อมกอดอันอบอุ่น รู้จักกับกำนันอำร่อน ผู้ริเริ่มบุกเบิกเสม็ดนางชี “กำนันอำร่อน” ชื่อที่ชาวบ้านแถวนั้นเรียกเขา ชายวัยกลางคนที่มีผิวคล้ำแบบชาวใต้ นัยน์ตาของท่านแผ่รังสีความมุ่งมั่นออกมาชัดเจน ทำให้เราเข้าใจถึงความใจกล้าของท่านที่จะบุกเบิกจุดชมวิว กำนันได้กล่าวว่าท่านวางแผนจะบุกเบิกในช่วง 5-6 ปี แต่ตอนนั้นการทำถนนท่าเรือ (ถนนทางเข้า) ยังไม่เสร็จ เมื่อเห็นว่าทุกอย่างพร้อม จึงเริ่มดำเนินการ โดยแรงบันดาลใจมาจากการที่ท่านได้มีโอกาสชมสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติจากที่อื่นมาหลายครั้ง จึงฉุกคิดว่า ทำไมพังงาถึงไม่มีสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ด้วยตัวมันเองบ้างเล่า พอลุงมองสภาพแวดล้อมแถวนั้นที่มีภูเขาเรียงรายประกอบกับทะเลสีคราม ท่านจึงคิดที่จะทำจุดชมวิวขึ้นอย่างตั้งใจและขะมักเขม้น และไม่คิดว่าที่นี่จะโด่งดังจนสามารถมีชื่อเสียงระดับประเทศได้ขนาดนี้ ตอนนี้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ต่างก็ต้องการที่จะมาเห็นด้วยตาตัวเอง ว่าสวยเพียงไหน แรงงานต่าง ๆ ที่ใช้ส่วนใหญ่นำมาจากชาวบ้านที่อยู่ในชุมชนละแวกนั้น ท่านอยากให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมที่จะสร้างแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัด นอกเหนือจากการทำอาชีพประมงซึ่งเป็นอาชีพหลักของพวกเขา เพื่อที่จะหารายได้เข้าสู่ชุมชน โดยทุกคนก็ร่วมมือร่วมใจกันเป็นอย่างดี มีอะไรขาดเหลือก็ช่วยกันตลอด ทำให้การทำงานราบรื่นไปได้ด้วยดี ซึ่งการที่เสม็ดนางชีมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้น ส่งผลให้สถานที่ท่องเที่ยวละแวกนั้นมีจำนวนนักท่องเที่ยวมากขึ้นตามลำดับ บางคนสนใจลงเรือชมอ่าวพังงาบ้าง ทะเลแหวกบ้าง นับเป็นการต่อยอดการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น มุ่งสู่เสม็ดนางชีบูทีค นอกจากจุดชมวิวเสม็ดนางชีที่สามารถมองเห็นความสวยงามของธรรมชาติแบบครบครันแล้วนั้น ถัดไปอีกไม่ไกล คุณจะได้เจอ โรงแรมเสม็ดนางชีบูทีค ที่นี่เหมาะแก่บุคคลที่ไม่ชอบการผจญภัย แต่อยากเห็นความงดงามของเสม็ดนางชีในอีกมุมหนึ่ง การเดินทางก็สะดวก จะมีรถบริการรับส่งอยู่ด้านล่างเขา พอขึ้นมาถึงคุณจะตกตะลึงกับความงามราวกับโรงแรมระดับ 5 ดาว สไตล์ของร้านก็จะมีความเป็นสากล ผสมกับกับเอกลักษณ์ไทยที่หาได้ยาก ผนังด้านนอกมีการเพนท์ลายหลากสีสันไว้สำหรับผู้ที่ต้องการมุมถ่ายรูปเพื่ออวดโลกโซเชียลแบบชิค ๆ หากท่านอยากพักผ่อน ก็มีที่พักให้เลือกหลายแบบ หลายคาแร็กเตอร์ให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น แบบเต็นท์หรือแบบบ้านเป็นหลัง ๆ เหมาะสำหรับคนที่อยากซึมซับบรรยากาศพร้อมดูทางช้างเผือกในยามมืดมิด ถึงแม้ราคาจะสูงสักหน่อย แต่ถ้าเทียบกับการที่ได้มาเจอวิวสวย ๆ ราคาหลักล้าน ก็ถือได้ว่าคุ้มค่าที่สุดแล้ว นอกจากการชมวิวทิวทัศน์ ทางโรงแรมก็ได้วางแผนจัดกิจกรรมเพื่อสานสัมพันธ์ โดยออกแบบมาเป็นทริป ซึ่งได้แก่ทริปล่องเรือ และ zipline (การโหนสลิง) เพื่อให้นักท่องเที่ยวรู้สึกโลดโผนและน่าตื่นเต้น ซึ่งก็จะสามารถสร้างความทรงจำที่ดี ๆ ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ในส่วนพนักงานโรงแรมก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นชาวบ้านในชุมชนนี่เอง พี่พนักงานบอกว่า “พี่มีความสุขที่ได้มาทำงานนี้ เพราะพี่ได้อยู่ใกล้บ้าน สามารถที่จะดูแลครอบครัวได้อย่างใกล้ชิด และการทำงานทุกขั้นตอนควรมีสมาชิกในชุมชนร่วมอยู่ด้วย เพราะการที่คนในชุมชนทำงานให้ชุมชนและเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างรายได้เข้าชุมชน จะทำให้พวกเขารู้สึกภูมิใจและมีใจรักที่จะทำต่อไป” คำพูดที่เอื้อนเอ่ยทำให้เรารู้สึกได้ว่าพี่เขาผูกพันกับชุมชนจริง ๆ ลิ้มรสอาหารชิค ๆ สไตล์พังงา หลังจากเดินชมโรงแรมกันอยู่พักหนึ่ง กลิ่นควันอาหารที่แสนจะหอมหวนชวนน้ำลายไหลได้พุ่งเข้ามาเตะจมูกอย่างรุนแรง จากห้องอาหารสุดหรูที่มุมหนึ่งด้วยความล้าจากการเดินทาง ทำให้เสียงน้ำย่อยในกระเพาะจากที่ร้องอยู่ค่อย ๆ แล้ว ได้เริ่มร้องปะทะกันดังขึ้นเรื่อย ๆ ร่างกายเหมือนใส่เกียร์ว่างเอาไว้ แล้วโดนดับเครื่องโดนทันที เดินมุ่งหน้าไปยังจุดหมายเดียวกัน เข้าไปถึงห้องอาหารเสม็ดนางชีบูทีค ทุกคนเหมือนโดนสตาร์ทเครื่องอีกครั้ง ความงดงาม ความหรูหรา บวกกับวิวสวย ๆ ของเสม็ดนางชี ที่บานกระจกสุดใสนั้น ทำให้ตะลึงกันไปพักใหญ่ เราก็ไม่พลาดที่จะเดินไปนั่งยังโต๊ะอาหารริมกระจกบานนั้น ในส่วนของเมนูอาหาร โดยมากจะเป็นซีฟู้ด ซึ่งวัตถุดิบตัวน้อยตัวใหญ่ของเขาก็ไม่ได้หาจากที่ไหนไกล มาจากชุมชนในละแวกนี้นี่แหละ ทำให้ความสดใหม่มีอยู่ในอาหารตลอดเวลา ด้วยปริมาณและคุณภาพที่เต็มเปี่ยม จึงไม่แปลกใจที่ราคาจะสูง โดยเราก็ได้คัดสรร 3 เมนูสุดเด็ดของทางร้านมาให้ได้ชมกันดังนี้ กุ้งสวรรค์แช่น้ำปลา Fresh Shrimp in Fish Sauce ความแปลกของชื่อเมนู ที่ฟังดูแล้วเสนาะหู ทำให้ต้องลองสักจานที่ได้เรียกกันว่าชื่อนี้เป็นเพราะการได้ทานกุ้งบนภูเขาสูงพร้อมกับมองวิวเสม็ดนางชีสวย ๆ ราวกับนั่งทานอยู่บนสวรรค์ ทั้งอิ่มกาย อิ่มใจยิ่งพอได้ลองทาน สัมผัสแรกที่พบเลยคือความนุ่มและสดใหม่ของกุ้งสด ทั้งเครื่องเคียงที่ดับกลิ่นคาวได้อย่างพอดีถ้าอยากลองขึ้นสวรรค์สักครั้งต้องเมนูนี้เลย ราคา 220 บาท ระดับความอร่อย 5 ดาว เมี่ยงปลากะพง Meuang Snapper เมนูที่ขาดไม่ได้บนโต๊ะก็ต้องเมี่ยงปลากะพง ความแน่นและนุ่มของเนื้อปลาที่พึ่งขึ้นมาจากน้ำตอนเช้าตรู่แถวท่าน้ำของชุมชน ทำให้อรรถรสในการทานสุดเกินจะบรรยาย ยิ่งหากทานคู่กับเครื่องเมี่ยง ความลงตัวที่แท้จริงจะเกิดขึ้น ราคา 450 บาท ระดับความอร่อย 4.5 ดาว กุ้งผัดพริกเกลือ Shrimp Fried Chili Salt เป็นอีกหนึ่งเมนูที่เอาใจคนชอบทานรสจัด จานนี้จะเค็มนำปนความเผ็ดของพริกเล็กน้อย แต่พอทานแล้วจะมีความกลมกล่อมอยู่ในนั้นตัวกุ้งได้ผ่านการทอดมาก่อนที่จะผัด เคี้ยวแล้วกรุบกรอบทานต่อได้เรื่อย ๆ ความสดในจานนี้ก็ไม่ต้องห่วงเช่นกัน กุ้งที่ได้มาเป็นกุ้งแชบ๊วยที่ชาวบ้านในชุมชนนิยมเลี้ยงกันอยู่แล้ว นอกจากสด ยังปลอดภัย ไร้สารพิษ ราคา 350 บาท ระดับความอร่อย 4 ดาว เรียนรู้วิถีชาวบ้านท่าเรือหินร่ม ท่าเรือบ้านหินร่ม ท่าเรือใจกลางอ่าวพังงา ซึ่งอยู่ละแวกเดียวกับเสม็ดนางชี คุณจะได้เจอกับความงดงามที่ประเมินค่าไม่ได้ บวกกับวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันโดดเด่น และวิถีชีวิตชาวประมงพื้นบ้าน นอกจากนั้นที่นี่ยังทำให้เราได้เข้าใกล้ภูเขาหินปูนที่ตั้งตระหง่านสวยงามอยู่ตรงหน้าโดยมีฉากหลังเป็นน้ำทะเลสีฟ้าอมเขียว ราวกับจะทำให้คนมองดำดิ่งลึกลงไปในวังวนของธรรมชาติ สำหรับเส้นทางไปยังท่าเรือยังคงเป็นถนนลูกรัง ขับไปฝุ่นก็ตลบไล่หลัง ขับเข้าไปเรื่อย ๆ สองข้างทางที่เป็นบ้านเรือนเริ่มกลายเป็นผืนน้ำที่มีสิ่งปลูกอาศัยเป็นเพิงพัก ไม่ไกลมีสะพานปูนทอดยาว กับมีเรือหลายลำจอดรอท่า ภาพเด็ก ๆ ในหมู่บ้านกระโดดน้ำเล่นกันตูมตามทำให้บรรยากาศสดใส เมื่อขับรถไปก็จะเจอร้านอาหารอยู่ด้านใน กับท่าเรือที่สามารถข้ามไปเที่ยวเกาะอื่นได้สบาย ๆ ความตระการตาของเสม็ดนางชีและท่าเรือหินร่มที่อยู่ละแวกนั้น บวกกับความทันสมัยของโรงแรมเสม็ดนางชีบูทีคทำให้เรารู้สึกได้ว่าพังงาก็มีความงดงามของธรรมชาติมากมายที่ซ่อนอยู่ ต้องขอขอบคุณ “กำนันอำร่อน” ที่บุกเบิกสถานที่ คอยให้ความรู้เด็ด ๆ และทำให้เรารับรู้ถึงความเป็นชุมชนของที่นี่ แม้การรวมตัวกันภายในชุมชน อาจส่งผลกระทบต่อธรรมชาติบางประการ แต่ถ้าทุกคนดูแลรักษาสถานที่ให้ดี เราก็จะสามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติแบบนี้สืบไป และก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นแนวทางที่จะพาท่านผู้อ่านเอ็นจอยไปด้วยกัน ลองมารับชมการสรรค์สร้างของธรรมชาติที่ลงตัว ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่ามันจะตรึงอยู่ในความทรงจำอย่างไม่มีวันลืม แล้วเจอกัน @เสม็ดนางชี ขอบคุณรูปภาพสวยๆ จาก นายภูวิช จันทะฟอง ทีม KOEY STUDIO ติดตามผลงานเพิ่มเติมได้ที่ https://m.facebook.com/KOEYstudio/photos/?ref=bookmarks&mt_nav=0