สวัสดีครับ เริ่มแรกเลยผมอยากที่จะเล่าประสบการณ์การท่องเที่ยวในต่างประเทศของผม ณ ประเทศมาเลเซีย แต่ก็ยังไม่มีโอกาสซักที ช่วงที่ได้อยู่บ้านยาว ๆ แบบนี้ ก็ไม่พลาดที่จะมาแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวให้คุณผู้อ่านได้ฟัง ไม่รอช้างั้นผมขอเริ่มเลยนะครับ การท่องเที่ยวในครั้งนี้ผมได้เตรียมแพลนไว้ล่วงหน้าหลายเดือน ก่อนการเดินทางผมได้อ่านรีวิวการท่องเที่ยวที่มาเลเซียจากหลากหลายเว็บไซต์ชื่อดัง ทำให้ผมสามารถวางแพลนการท่องเที่ยวได้หลายเมืองในทริปเดียว เรียกได้ว่า คุ้มสุดๆ!!! คุ้มยังไงตามไปดูเลยครับ แผนการเดินทาง นี่คือแผนการเดินทางของผมในทริปนี้ครับ เครดิตภาพจากผู้เขียน โดยทริปนี้ผมเน้นท่องเที่ยวในเมืองหลักของมาเลเซีย อาทิ กัวลาลัมเปอร์ ปุตราจายา มะละกา และปีนัง เรียกได้ว่าเที่ยวครั้งนี้ คุ้มมากครับ!! เพราะไปครั้งเดียวเที่ยวได้เที่ยวหลายเมืองที่สำคัญของมาเลเซีย การเตรียมตัว เครดิตภาพจากผู้เขียน เริ่มตั้งแต่การเตรียมเอกสารสำคัญ เช่น พาสปอต บัตรประชาชน ใบจองที่พัก ซิมการ์ด กระเป๋าเดินทาง ที่แปลงหัวปลั๊ก เงิน ยารักษาโรค และของจิปาถะอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง แนะนำให้ถ่ายสำเนาเอกสารสำคัญทุกฉบับ และควรพกประเป๋าเล็กแยกออกมาจากกระเป๋าเดินทางหลัก เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ครับ การแลกเงิน ผมได้แลกเงินที่ร้านค้าแถว ๆ สถานีรถไฟหาดใหญ่ มีให้เลือกหลายร้านเลยครับ ผมแลกเงินประมาณ 7000 บาท = 875 ริงกิต (1 ริงกิต = 8 บาท) อัตราแลกเปลี่ยน ณ ตอนนั้นครับ การเดินทาง เครดิตภาพจากผู้เขียน การเดินทางเที่ยวในทริปนี้เน้นประหยัด และคุ้มค่าที่สุด นั่นก็คือ รถทัวร์นั่นเองครับ ผมเริ่มต้นการเดินทางที่อำเภอหาดใหญ่ และจบทริปการเดินทางที่อำเภอหาดใหญ่เช่นเดียวกันครับ สำหรับตั๋วรถทัวร์นั้นผมจองตั๋วออนไลน์ (หาดใหญ่-กัวลาลัมเปอร์) รอบเวลา 4 ทุ่ม จากเว็บไซต์ก่อนการเดินทางเป็นที่เรียบร้อย ทำให้ผมมีเวลาที่จะสำรวจเมืองหาดใหญ่สักเล็กน้อย ก่อนเวลานัดหมายประมาณ 4 ทุ่ม โดยกระเป๋าเดินทางผมได้ฝากที่บริษัทรถทัวร์เรียบร้อยครับ เครดิตภาพจากผู้เขียน เมื่อถึงเวลา 4 ทุ่ม รถทัวร์ก็มารับผมที่จุดนัดหมาย หลังจากที่ผมเดินทางได้สักพักก็มาถึงที่ด่านสะเดาในเวลาประมาณ 5 ทุ่ม ก็ทำการปั้มพาสปอตออกจากประเทศไทยเพื่อเข้าสู่ประเทศมาเลเซียทางด่านบูกิตกายูฮิตัม หรือที่คนไทยเรียกติดปากว่า “ด่านจังโหลน” เมื่อข้ามด่านชายแดนเข้าสู่ประเทศมาเลเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมก็ทำการปรับนาฬิกาให้เร็วขึ้น 1 ชั่วโมงตามเวลาท้องถิ่นของมาเลเซีย จากนั้นนั่งรถอีกประมาณ 10 นาที รถทัวร์ก็พาผมมายังจุดพักรับประทานอาหาร จากจุดนี้รถทัวร์ก็วิ่งยาวไปจนถึงกัวลาลัมเปอร์ในเช้าวันรุ่งขึ้นครับ ถึงแล้วกัวลาลัมเปอร์ เครดิตภาพจากผู้เขียน หลังจากที่นั่งรถทัวร์ข้ามคืนจากอำเภอหาดใหญ่มายังกัวลาลัมเปอร์ ในเช้าวันรุ่งขึ้น รถทัวร์ได้พามายังจุดหมายที่สถานีขนส่ง ที่มีชื่อว่า Terminal Bersepadu Selatan หรือมีชื่อย่อว่า (TBS) ในเวลาประมาณ ตี 5 จากนั้นผมก็ลงจากรถเพื่อไปหยิบสัมภาระ และทำธุระส่วนตัว ก่อนจะเดินทางไปยังที่พัก เครดิตภาพจากผู้เขียน เมื่อเดินเข้ามาภายในบริเวณสถานีขนส่งและสอบถามข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เพื่อจะไปขึ้นรถไฟไปยังที่พัก จากการเดินสำรวจพบว่า บรรยากาศภายในสถานีขนส่งที่นี่ให้อารมณ์เหมือนสนามบินนานาชาติ มีระบบขนส่งมวลชนรองรับอย่างครบครัน อาทิ รถแท็กซี่ รถไฟฟ้าMetro รถไฟฟ้าชานเมือง รถไฟฟ้าเชื่อมต่อสนามบิน และรถเมล์ ระบบขนส่งมวลชนที่ผมเลือกใช้คือ รถไฟชานเมืองจากสถานีขนส่งไปยังสถานี KL SENTRAL ก่อนจะเปลี่ยนสายไปที่สถานี Pasar Seni ซึ่งเป็นสถานีปลายทางของผมครับ เครดิตภาพจากผู้เขียน บรรยากาศ เวลา 7 โมงเช้าของที่นี่ ยังดูมืด และผู้คนยังไม่พลุกพล่านเท่าไหร่ ระหว่างที่เดินไปยังที่พักผมก็แวะซื้ออาหารรองท้องที่ 7-11 บรรยากาศ 7-11 ของที่นี่แตกต่างจาก 7-11 ที่ไทยเป็นอย่างมาก (ผมนี่คิดถึง 7-11 บ้านเราขึ้นมาทันที) ที่พักของผมอยู่ย่าน Chinatown ในส่วนของที่พักผมขออนุญาตไม่รีวิวนะครับ เมื่อเดินทางมาถึงที่พัก แต่ยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน ผมได้สอบถามกับเจ้าของที่พักว่า ฝากกระเป๋าไว้ก่อนได้มั้ยแล้วจะกลับมาเช็คอินในเวลาบ่าย 2 พี่เจ้าของห้องพักก็ใจดีมาก อนุญาตให้ฝากของก่อน ผมจึงเดินทางไปสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณรอบ ๆ ที่พัก เพื่อรอเวลาเช็คอินเข้าห้องพัก เริ่มต้นสำรวจเมืองกัวลาลัมเปอร์ เครดิตภาพจากผู้เขียน สถานที่แรกของการสำรวจเมือง คือ วัดศรีมหามาเรียมมัน (Kuil Sri Maha Mariamman) เป็นวัดฮินดูเก่าแก่ที่สำคัญของที่นี่ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1883 สมัยชาวอินเดียที่อพยพเข้ามาตั้งรกรากสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 บรรยากาศรอบ ๆ เป็นที่ตั้งของชุมชนชาวอินเดีย อารมณ์คล้าย ๆ กับพาหุรัดของบ้านเรา หรือที่เรียกว่า “ลิตเติ้ลอินเดีย” ครับ เครดิตภาพจากผู้เขียน สถานที่ต่อไปที่อยู่ไม่ไกลนั่นก็คือ จตุรัสเมอร์เดก้า (Merdeka Square) เป็นสถานที่ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศมาเลเซีย เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ประกาศอิสรภาพจากอาณานิคมของอังกฤษเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ปี ค.ศ. 1957 ในทุก ๆ ปี ที่นี่จะมีการเฉลิมฉลอง มีพิธีการเดินสวนสนามอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบการประกาศอิสรภาพของประเทศมาเลเซีย เมื่อมองไปฝั่งตรงข้ามจะเจออาคารหลังหนึ่งซึ่งสะดุดสายตามาก นั่นก็คือ อาคาร Sultan Abdul Samad เป็นอาคารสไตล์โคโลเนียล มีหอคอยยอดโดมและหอนาฬิกาสูง 41 เมตร หลังจากที่ได้เดินเยี่ยมชมสถานที่โดยรอบจัตุรัสเมอร์เกด้าก็ใกล้จะถึงเวลาเช็คอินเข้าที่พัก ผมเลยเดินทางกลับไปยังที่พักเพื่อเช็คอิน หลังจากที่ผมเช็คอินเสร็จเรียบร้อย คราวนี้ถึงเวลาสำรวจเมืองอย่างจริงจังแล้วครับ หลังจากที่ผมเช็คอินเข้าที่พักเสร็จเรียบร้อย ผมก็เดินมาที่ป้ายรถเมล์เพื่อรอรถเมล์ โดยที่นี่มีรถเมล์สายนึงที่คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวอย่างผม สามารถใช้บริการได้ฟรี ย้ำว่า ฟรี!! ชื่อว่า GOKL Citybus (พึ่งรู้เมื่อตอนอยู่บนรถเมล์แล้วครับ คริคริ) เครดิตภาพจากผู้เขียน ด้วยความที่มาเที่ยวที่นี่เป็นครั้งแรก โดยตอนแรกผมขึ้นไปพร้อมจะจ่ายเงิน แต่มีพี่คนที่นั่งข้าง ๆ มาสะกิดว่า ฟรี!! แบบนี้ก็เข้าทางนักท่องเที่ยวอย่างเราสิครับ อีกทั้งรถเมล์สายนี้วิ่งผ่านสถานที่สำคัญของเมือง ทำให้ผมไม่ต้องเสียเงินค่ารถเมล์แถมได้นั่งรถชมวิวบรรยากาศของเมืองได้อย่างเต็มที่ โดยรถเมล์สายนี้วิ่งสุดสายที่ย่านบูกิต บินตัง ทำให้ผมต้องลงรถเมล์ที่นี่ ไหน ๆ ก็ลงที่นี่แล้ว สำรวจย่านนี้หน่อยละกัน เครดิตภาพจากผู้เขียน บูกิต บินตัง (Bukit Bintang) เป็นย่านที่เป็นแหล่งรวมห้างสรรพสินค้า และเป็นจุดนัดพบของวัยรุ่นที่นี่ อารมณ์คล้ายกับย่านสยามพารากอน เซ็นทรัลเวิร์ลของบ้านเราครับ ด้วยความที่มาเลเซียประชากรส่วนใหญ่ 3 กลุ่มหลัก ทั้งเชื้อสายมลายู จีน และอินเดีย ทำให้เมื่อผมเดินสำรวจย่านนี้ หน้าตาของคนที่นี่สามารถแยกออกได้ทันทีเลยว่าใครเชื้อชาติอะไร แล้ววัยรุ่นที่นี่ส่วนใหญ่หน้าตาดีนะครับ รวมทั้งผมด้วย แฮ่ๆ ส่วนตัวผมเป็นคนไม่เดินห้าง ผมเลยไม่ได้เก็บภาพบรรยากาศภายในห้างมาให้ดูครับ เพราะผมต้องการจะไปจุดหมายอีกที่นึง และจุดหมายปลายทางของวันนี้ที่เป็นไฮไลต์ที่รอคอย นั่นก็คือ ตึกแฝดนั่นเองครับ เครดิตภาพจากผู้เขียน ถึงแล้วครับตึกแฝดของเรา เรียกชื่ออย่างเป็นทางการว่า ตึกแฝดปิโตรนาส (Petronas Twin Tower) เป็นตึกแฝดที่มีความสูงที่สุดในโลก ณ เวลานี้ ด้วยความสูง 452 เมตร ตั้งอยู่ในกลางเมืองย่านธุรกิจสำคัญ ปัจจุบันยังไม่มีประเทศอื่นมาล้มแชมป์สถิตินี้ได้ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ยอดฮิตที่สุด และเป็นจุดเช็คอินถ่ายรูปยอดนิยมของหมู่นักท่องเที่ยวที่ใครมาเที่ยวที่มาเลเซียแล้วไม่ได้มาเที่ยวที่นี่ถือว่าคุณยังมาไม่ถึงประเทศมาเลเซียเลยล่ะครับ ด้วยความที่เป็นตึกแฝดที่สูงเมื่อมองจากมุมใดมุมหนึ่งจากชานเมือง หรือขับรถบนทางด่วนเข้าในเมือง สิ่งแรกที่คุณจะสะดุดตาเป็นอันดับแรกก็คือ ตึกแฝดนี่ล่ะครับ ผมนั่งเก็บภาพบรรยากาศ นั่งชมวิวโดยรอบจนถึงพลบค่ำ ก็ได้เวลากลับไปพักผ่อนเพื่อเติมแรงสำหรับการสำรวจเมืองในวันถัดไปครับ เครดิตภาพจากผู้เขียน ขอบพระคุณมากนะครับที่อ่านจนจบครับ หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยนะครับ -นายวิน-