เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้การท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างมากทั้งในด้านลบและด้านบวก ด้านลบคือการเลิกจ้างงานสำหรับผู้ที่ประกอบอาชีพด้านการท่องเที่ยว และรายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ส่วนด้านบวกคือทรัพยากรทางการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นทางธรรมชาติหรือทางวัฒนธรรมได้รับการฟื้นฟู โดยเฉพาะพื้นที่อุทยานแห่งชาติ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสถานการณ์ในประเทศไทยเริ่มดีขึ้น รัฐบาลจึงคิดโครงการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยว โดยจะช่วยค่าเดินทางและที่พักไม่เกิน 40% เพื่อให้ประชาชนออกเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น วันนี้เราเลยจะพาทุกคนไปรู้จักกับ “ชุมชนกระแสบน” เผื่อจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการตัดสินใจไปท่องเที่ยวกันค่ะ ชุมชนกระแสบนตั้งอยู่ที่ตำบลกระแสบน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง เป็นชุมชนโบราณดั้งเดิมตั้งแต่สมัยอยุธยา ชาวบ้านในชุมชนรวมกลุ่มกันอนุรักษ์วิถีชีวิตดั้งเดิมผ่านการท่องเที่ยว โดยคิดกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์เพื่อมอบประสบการณ์และความรู้ให้กับนักท่องเที่ยว รวมถึงเป็นชุมชนที่ส่งเสริมการอนุรักษ์ "ตัวลั้ง" หรือตะกอง เป็นกิ้งก่ายักษ์ชนิดเดียวที่พบในประเทศไทยและพบได้เฉพาะในภาคตะวันออกเท่านั้น ซึ่งภายในชุมชนมีตัวลั้งจำนวนมากทั้งตัวใหญ่และตัวเล็ก อีกทั้งยังเป็นสัตว์หายากและใกล้สูญพันธุ์ ชุมชนจึงให้ความสำคัญกับธรรมชาติมากแต่ก็ยังคงความเป็นท้องถิ่นอยู่ เพื่อสร้างคุณค่าทางการท่องเที่ยวและไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เรียกได้ว่าเป็นชุมชนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเลยก็ว่าได้ เพราะก้าวแรกที่ลงจากรถ เราได้เจอกับคนในชุมชน คุณลุงคุณป้าให้การต้อนรับดีมากพร้อมทั้งทำมงกุฎดอกไม้และน้ำกระเจี๊ยบให้ด้วย นอกจากการต้อนรับที่แสนน่ารักแล้ว พี่แจ๊ค ซึ่งเป็นคนที่คอยดูแลพวกเราก็พาไปกราบพระและฟังประวัติความเป็นมาของชุมชนจากมัคคุเทศก์ท้องถิ่น จากนั้นเราก็ไปทำกิจกรรมกัน โดยกิจกรรมภายในชุมชนมีหลากหลายแล้วแต่ช่วงฤดู และจะมีปราชญ์ชาวบ้านคอยเล่าเรื่องราวและให้ความรู้แก่พวกเรา กิจกรรมแรกที่เราได้ไปทำคือตำข้าวและฟัดข้าว เป็นวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนในชุมชนเลย โดยมีคุณยายคอยสอนวิธีการตำข้าวและการฟัดข้าวที่ถูกต้อง กิจกรรมต่อมาเราได้ไปทำขนมนิ่มนวลที่ทำจากแป้งข้าวเหนียวสอดไส้มะพร้าว เป็นขนมโบราณที่ขึ้นชื่อของชุมชน โดยคุณป้าจะเตรียมอุปกรณ์ทำขนมไว้ให้พวกเราได้ลองทำกันเอง ตลอดการทำขนมคุณป้าคอยอธิบายและสาธิตวิธีการทำขนมจนออกมาเป็นขนมนิ่มนวลฉบับของตัวเอง บอกเลยว่าอร่อยมาก ส่วนมากเน้นไส้ไม่เน้นแป้ง555 พอถึงช่วงเที่ยง พี่แจ๊คก็พาไปทานอาหารกลางวันบนแพกลางน้ำ ซึ่งนี่ก็เป็นสิ่งที่เราประทับใจมาก เพราะเมนูอาหารทำจากวัตถุดิบในท้องถิ่น เช่น มะพร้าว ใบตอง อีกทั้งยังนำมาใช้เป็นภาชนะสำหรับใส่อาหารอีกด้วย หลังจากทานอาหารกลางวันเรียบร้อย ก็ถึงเวลาที่เรารอคอย!!!!! นั่นก็คือการไปล่องเรือชมตัวลั้งค่ะ ตอนที่ได้ยินครั้งแรกก็ยังงง ๆ อยู่ว่าหน้าตาเป็นยังไง พอได้เห็นของจริง น้องน่ารักนะคะ แต่ขี้อายไปหน่อย เวลาเจอคนก็จะหลบเข้าไปในป่า และน้องมีความพิเศษคือจะทำตัวกลมกลืนกับธรรมชาติค่ะ กว่าเราจะเจอแต่ละตัวก็ใช้เวลาอยู่เหมือนกัน อีกทั้งชุมชนยังมีพิธีแต่งงานตัวลั้งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ด้วย โดยคนในชุมชนจะจับพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์แต่งงานและเข้าห้องหอ เพื่อขยายพันธุ์เพราะในปัจจุบันเริ่มใกล้สูญพันธุ์แล้ว จึงถือเป็นการอนุรักษ์ที่นำมาประยุกต์ใช้กับการท่องเที่ยวได้อย่างลงตัว นักท่องเที่ยวจะได้ทั้งความรู้และได้เห็นคุณค่าของตัวลั้งด้วย เรานั่งเรือไปเรื่อย ๆ เพลินมากจนเพื่อนแอบหลับ และเราก็มาถึงสวนผลไม้ลุงจริต ซึ่งคุณป้าได้ให้ข้อมูลว่าจะสาธิตวิธีการเก็บผลไม้และให้นักท่องเที่ยวได้ลองเก็บเองเพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตเกษตรกร แต่ช่วงที่เราไปผลไม้ยังน้อย เราก็เลยไปกวนมังคุดกันแทน โดยมีคุณป้าคอยให้ความรู้เกี่ยวกับการกวนมังคุดและให้เราลองทำเองด้วย เป็นไงบ้างคะ นี่คือกิจกรรมทั้งหมดในทริป 1 วันของเราค่ะ ซึ่งจริง ๆ เเล้วเราเป็นคนระยอง แต่ก็พึ่งมาเที่ยวชุมชนกระเเสบนครั้งแรก ได้พูดภาษาระยองกับลุงป้าอยู่บ้าง แต่อาจจะคนโซนทำให้สำเนียงเราไม่ค่อยเหมือนกันก็เลยต้องกลับมาคุยภาษากลางกันเหมือนเดิม5555 สำหรับใครที่กำลังเบื่อบ้าน และไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหนสามารถมาเที่ยวในชุมชนกระแสบนได้นะคะ รับรองว่าจะทั้งได้ความรู้และความสนุกกลับไปแน่นอนค่ะ สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 086-1113524 (พี่แจ๊ค) หรือ Facebook: ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนกระแสบน อ้างอิง ภาพถ่ายโดยนักเขียน ขอบคุณภาพถ่ายตัวลั้งจากคุณพนากร กระออมกลาง (Website : http://www.khaoyainationalpark.com/4124/)