05.30 น. ของวันที่ 2 เตรียมพร้อมเดินทางไปแม่ฮ่องสอน เช้าอันน่าตื่นเต้น แต่เราทั้ง 4 คนเกือบจะตื่นสาย ฮ่าฮ่าฮ่า แต่เพราะนาฬิกาปลุกชั้นดีคุณแม่นั่นเองที่งัดเราขึ้นมาจากที่นอนอาบน้ำพร้อมเตรียมอาหารเช้าให้พร้อม พร้อมทั้งหมวกไหมพรม ถุงมือ หน้ากากกันฝุ่น เรียกได้ว่าจัดหนักจัดเต็มเพื่อช่วยให้การเดินทางไปแม่ฮ่องสอนโดยรถเครื่อง(มอเตอร์ไซต์) ของเราทั้ง 4 คนไม่ลำบากมากนัก กินข้าวอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก็ได้เวลาออกเดินทางแล้ว ด้วยความที่เป็นหน้าหนาวหมอกเลยหนามาก ๆ ในการเดินทางก็ต้องระมัดระวัง เพราะไฟหน้ารถก็ช่วยไม่ได้มาก รถสวนมา และอากาศหนาว ๆ ทุกอย่างเลยดูทุลักทุเลไปบ้าง แต่เมื่อเจอกับแสงอาทิตย์ทุกอย่างก็กลับมามีชีวิตชีวามากขึ้น ต้นไม้เขียว ๆ ทะเลหมอกที่มองเห็นได้ไกล ๆ ด้วยการเดินทางที่ไม่เร่งรีบวางแผนว่าจะเที่ยวตลอดทางตั้งแต่แรก สถานที่แรกที่จอดเที่ยวคือ "จุดชมวิวกิ่วลม" เป็นจุดชมวิวระหว่างทาง ปาย - ปางมะผ้า ซึ่งก็เหมือนจุดพักรถก็ว่าได้ มีห้องน้ำ อาหาร ของฝาก เรา 4 คนเลยถือโอกาสพักรถที่นี่เลน แต่ก่อนที่เราจะได้ไปต่อ ก็พบกับนักเดินทางที่กำลังกลับจากแม่ฮ่องสอนแล้วได้บอกกับเราว่าจะไปกันจริง ๆ หรอ? ทางมันลำบากมากเลยนะ "สเลเต" กับเพื่อนก็ตอบอย่างมั่นใจว่า "ตั้งใจจะไปอยู่แล้ว" จากนั้นก็เดินทางต่อพี่เขาก็ขอให้ "โชคดี" ระหว่างทางที่เราเจอก็คือ "โค้ง" จากที่เอ็นจอยกับท้องฟ้าภูเขา ดอกบัวตอง กลายเป็นว่าจะเมาโค้งแทน จนใกล้ ๆ จะเที่ยงเราก็แวะกินข้าวกันในอำเภอ "ปางมะผ้า" นั่งพัก กินข้าวจนอิ่มท้องแล้วก็ได้เวลาไปต่อสถานที่ต่อไปที่เราจอดเที่ยวก็คือ "ถ้ำน้ำลอด" ที่เรียกว่า "ถ้ำน้ำลอด" ก็เพราะว่ามีน้ำลอดใต้ถ้ำจนทะลุไปอีกด้าน กิจกรรมส่วนใหญ่ที่นักท่องเที่ยวตั้งใจมาเลยก็คือ นั่งแพ ชมถ้ำ ถ่ายภาพ แต่ภายในถ้ำมืดมาก ต้องมีไกด์ ตะเกียงจุดไฟ หรือไฟฉายที่มีแสงมากพอ ตอนที่ "สเลเต" กับเพื่อนอีก 3 คนเข้าไปก็คือคิดว่าแสงไฟจากแฟลชมือถือจะช่วยนำทางได้ แต่ไม่เลยสักนิด แสงไม่เพียงพอจะอาศัยเนียน ๆ เดินไปกับกลุ่มที่มีไกด์ก็คนเยอะมาก แต่ก็พอมองเห็นหินงอกหินย้อยภายในถ้ำอยู่บ้าง เราเลยตัดสินใจออกมานอกถ้ำ (แต่ก่อนออกมาเจอกับงูตัวใหญ่มาก) โชคดีที่มีคนส่องไฟไปเจอมันพอดีเลยไม่มีใครเป็นอันตราย จะมีสะพานเดินเข้าไปจนถึงปากทางเข้าถ้ำ จากนั้นจะเป็นดินภายในซึ่งมีน้ำไหลผ่านต้องระมัดระวังในการเดินมาก ๆ เมื่อถ่ายข้างในไม่ได้เราเลยเลือกถ่ายรูปเล่นข้างนอกแทน สายน้ำที่ไหลเขาถ้ำ สามารถเดินเล่นได้ น้ำใส เย็น มีปลา แล้วเราก็เดินทางต่อ ระหว่างทางก็มีถ้ำอีหลายถ้ำ เช่น ถ้ำผีแมน แต่มันค่อนข้างน่ากลัวหน่อย ๆ เราเลยตัดสินใจไม่เข้าดีกว่า เลยขับไปเรื่อย ๆ และจอดสถานที่ที่ 3 คือ"ถ้ำปลา" อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา–น้ำตกผาเสื่อ เรียกได้ว่ามีความร่มรื่นมาก ๆ เนื่องจากการเดินทางของเราค่อนข้างหนักหน่วงแล้วสิในตอนบ่ายนี้ พอได้มาที่เย็น ๆ เลยทำให้สบายตัวสบายใจ ที่ "ถ้ำปลา" มีร้านอาหารของฝาก เช่นเคย บริเวณรอบ ๆ เป็นลำธารน้ำก็ใส(รู้สึกจะเป็นสีเขียวด้วยแต่สะอาดนะคะ) "สเลเต" กับเพื่อนก็เดินเข้าไปเรื่อย ๆ เพื่อไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และก็ได้รู้เลยว่าทำไมชื่อว่า "ถ้ำปลา" ปลาในถ้ำเยอะมาก ๆ แม้พื้นที่จะแคบไม่เป็นใจไปบ้างกับโขดหิน แต่ปลาจำนวนมากก็อาศัยอยู่รวม ๆ กันไป จากนั้น "สเลเต" ก็เดินทางเข้าไปในเมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อเติมน้ำมันรถ ในตัวเมืองก็น่ารักมาก ๆ แต่ก็อยู่ชื่นชมวิถีชีวิตของเมืองแม่ฮ่องสอนนานมากไม่ได้เพราะจุดหมายปลายทางของเราต้องไปต่อ เราย้อนกลับมาเพื่อที่จะไปต่อที่ "ปางอุ๋ง" เพื่อนที่จะนอนค้างคืนที่นั่นนั่นเอง "ปางอุ๋ง" ธรรมชาติเมืองสามหมอก สวิสเซอร์แลนด์เมืองไทย ที่ดีจริงเหมือนเขาร่ำลือหรือไม่เรื่องราวของเรา 4 คนจะเป็นอย่างไร? แล้วสเลเตจะมาเล่าเรื่องราวของสเลเตผ่านตัวอักษรให้ฟังอีกนะคะ - "สเลเต" -