หากใครชอบเดินถ่ายรูปชิลๆ แบบเงียบๆ ไม่มีรถแล่นขวักไขว่ให้กวนใจ ช่วงนี้ถือว่าเหมาะ ไม่ต้องไปไหนไกล ในตัวเมืองพระนครนี่แหละ เราเลือกไปปลีกวิเวกแถวท่าเตียน เพราะแถวนั้นมีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมาก โดยเฉพาะโบราณสถานหรืออาคารบ้านเรือนเก่าๆ การเดินทางก็สามารถมาโดยรถไฟฟ้า MRT ได้อย่างง่ายดาย มาลงสถานีสนามไชย แล้วเดินตรงไปยังถนนท้ายวัง เพื่อแวะปักหมุดแรกที่วัดโพธิ์ มาวัดนี้ทีไรต้องไม่พลาดไปสักการะพระนอนที่สวยที่สุดในเขตพระนคร ปกติมาทีไรก็จะเต็มไปด้วยผู้คน ยืนถ่ายรูปตรงไหนก็หามุมยากเพราะมีแต่ผู้คนยืนบดบัง แต่มาครั้งนี้ทุกอย่างได้เปลี่ยนไป คนในพระวิหารมีจำนวนน้อยลงจนแทบจะนับคนได้ ถามว่าเหงาไหม ไม่นะ แต่กลับรู้สึกถึงความเป็นวัด มันสงบแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งความจริงแล้ว วัดควรจะอยู่ในอารมณ์แบบนี้มานานแล้วด้วยซ้ำ จากวัดโพธิ์ เราเดินตรงไปยังท่าเตียนเพื่อหาจุดชมวิวถ่ายภาพวัดอรุณ มีคนแนะนำว่ามันจะมีอยู่สองจุดที่เป็นจุดชมวิวที่แหร่มที่สุดโดยที่ไม่ต้องไปอาศัยนั่งกินตามร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้เปลืองงบประมาณ และร้านพวกนี้ต่างก็เปิดสายเกือบเที่ยง ซึ่งแสงตอนนั้นก็เป็นแดดจ้าแล้ว ทำให้ถ่ายภาพออกมาไม่สวยเท่าแสงเช้าที่มีแดดสีทอง โทนสีนั้นดูอุ่นๆ มองแล้วประทับใจมากกว่า สำหรับจุดชมวิวที่ว่านั้น แนะนำให้ไปที่ซอยประตูนกยูง ถนนมหาราช ตรงข้ามวัดโพธิ์ เดินตรงไปสุดซอยเลย ตรงนั้นเป็นเขตก่อสร้าง เดาว่าน่าจะกำลังก่อสร้างท่าเรืออันใหม่ ซึ่งมุมที่ได้นั้นตรงกับตัวองค์พระปรางค์วัดอรุณเป๊ะพอดี สวยมากด้วย ส่วนอีกจุดนั้นก็อยู่ซอยถัดไป เป็นซอยเดียวกับที่มีร้านกาแฟ Blue Whale Cafe นั่นเอง เดินตรงไปสุดซอยเช่นกัน สุดซอยนั้นมีร้านเด่นๆ ที่เห็นได้ชัดคือร้านสุพรรณิการ์ กับร้านโรงรส และจุดชมวิวนั้นอยู่ระหว่างร้านโรงรสกับศาลเจ้าสีแดง มันเป็นตรอกแคบๆ ถ้าเดินตรงเข้าไปเราจะพบกับท่าเรือส่วนบุคคล ซึ่งตรงนั้นคุณจะได้มุมพระปรางค์ที่สวยงามมากเช่นกัน แต่มันจะได้มุมออกมาทางด้านข้างนิดนึงซึ่งก็สวยไปอีกแบบ ซอยเดียวกับ Blue Whale ให้เดินตรงเข้าไปในซอยแคบข้างๆ ศาลเจ้าสีแดง เพื่อเข้าไปที่จุดชมวิววัดอรุณฯ วิววัดอรุณที่ได้จากการเข้าไปที่ซอยร้านกาแฟ Blue Whale มุมที่ได้จากการเดินเข้าไปในซอยประตูนกยูง จากจุดชมวิววัดอรุณ เราไปถ่ายรูปกันต่อที่ท่าเรือโพธิ์อรุณ ท่าเรือเก่าแก่ที่ยังเป็นเรือนไม้โบราณ และเวลานี้บรรยากาศนั้นช่างเงียบเหงายิ่งนัก นักท่องเที่ยวบางตามาก ทั้งที่เมื่อก่อนที่โควิดจะเข้ามา ท่าเรือแห่งนี้ต่างคึกคักไปด้วยผู้คนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ถ้ามีงานเทศกาล คิวลงเรือนั้นเรียกว่ายาวทะลุออกไปนอกท่าเรือโน่นเลย แต่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพอาร์ตๆ วินาทีนี้ถือว่าเหมาะสมที่สุด คุณจะได้ภาพคลาสสิคแบบ nobody จริงๆ ทำให้เรามีสมาธิและใช้เวลาอยู่ในแต่ละจุดนานขึ้น ได้มุมภาพที่หลากหลาย มีแค่จุดเดียวที่เขาไม่ให้ถ่ายคือตรงท่าเรือซึ่งก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงถ่ายไม่ได้ สำหรับท่าเรือโพธิ์อรุณแห่งนี้ มีแนวโน้มว่าอาจจะรื้อแล้วสร้างใหม่ ซึ่งก็ยังไม่มีความแน่นอน แต่ชุมชนแถวท่าเตียนก็เริ่มรู้สึกหวั่นๆ ว่าอาจจะโดนไล่รื้อเหมือนกับชุมชนป้อมมหากาฬ ชาวชุมชนทุกคนอยู่อาศัยที่ท่าเตียนแห่งนี้มาเป็นเวลานานหลายชั่วอายุคน อาชีพของพวกเขาอยู่ที่นี่ ฝากชีวิตไว้ที่นี่ ถ้าไม่อยู่ที่นี่ก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนแล้ว และตามความคิดของเราในฐานะที่ชอบอาคารเก่า เราคิดว่าที่ท่าเรือแห่งนี้สมควรได้รับการรักษาเอาไว้เป็นรากเหง้าของชาวไทย รีโนเวทสักเล็กน้อยพอให้โครงสร้างเดิมนั้นแข็งแรงขึ้น แล้วทำเป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ความเป็นมาของบ้านเมืองว่ากว่าจะเป็นประเทศไทยทุกวันนี้ เราต้องผ่านอะไรมาบ้าง เชื่อว่าต้องมีคนสนใจอย่างมากแน่นอน นอกจากท่าเตียนแล้วก็ยังมีที่อื่นอีกหลายแห่งที่น่าเดินไปเก็บภาพ เก็บบรรยากาศ บันทึกภาพและความทรงจำเก็บไว้ในกล้องดิจิตอลของเรา เพราะรูปที่เราถ่ายมา มันจะกลายเป็นภาพประวัติศาสตร์ต่อไปในอนาคต เรียกง่ายๆ ว่าเราคือผู้สร้างประวัติศาสตร์คนสำคัญอีกหนึ่งคนก็คงไม่ผิดนัก หมุดหน้าเราจะไปเดินทอดน่องกันต่อที่ไหนดี ติดตามค่ะ ปล. ภาพปกและภาพประกอบทุกภาพ บันทึกโดยนักเขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !