เป็นอีกวิถีที่คนส่วนหนึ่งอยากเปลี่ยนบรรยากาศและอยากได้บรรยากาศที่ต่างจากเดิม คือ การไปค้างแรมในป่า เหมือนการเข้าค่ายลูกเสือของนักเรียน ต่างกันแต่ว่าหากเราไปพักแรมเองก็มีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้ ครั้งหนึ่งที่ผู้เขียนไปค้างแรมในป่ากับเพื่อน 3-4 คน เพื่อหาปลา แต่ส่วนตัวเป็นเพียงลูกมือเท่านั้น ไม่มีความสามารถในการหาปลาเหมือนคนอื่นแต่อย่างใด เริ่มต้นจากการเดินเท้าเข้าป่าในส่วนของต้นน้ำรันตี อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมเตรียมเสบียงสำหรับ 1 คืน แต่ก็ต้องสำรองข้าวสารไว้เผื่อต้องค้างต่อ ใช้เปลในการเป็นที่นอนเป็นหลัก เพราะสะดวกที่สุดในการเป็นที่พัก การเดินเท้าทำให้มีโอกาสได้คุยกับเพื่อน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างๆ วางแผนพื้นที่ที่จะไปหาปลา บริเวณไหนที่ปลาเยอะ รวมไปถึงการชื่นชมบรรยากาศระหว่างทาง ต้องใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงในการเดินทาง เมื่อใกล้ถึงที่หมายหรือริมน้ำก็ต้องเติมพลังกันก่อน ด้วยการทำอาหาร โดยแบ่งหน้าที่กันไป บ้างก็เตรียมก่อไฟ หุงข้าว เตรียมอาหารที่นำมา บางคนก็พร้อมจะไปหาเสบียงในแหล่งน้ำเลยก็มี การหาปลาในช่วงกลางวันจะมีความปลอดภัยมากกว่า แต่การหาปลาในช่วงกลางคืนก็จะเห็นปลานิ่งมากกว่ากลางวัน ความเหน็บหนาวก็จะมีมากกว่า ปลาที่หามาได้เราก็จะแปรรูปเพื่อจะได้เก็บไว้ได้นานขึ้น เพราะเราต้องค้าง 1 คืน ช่วงเวลากลางคืนเพื่อนๆ บางคนก็ยังอยากจะไปหาปลา มืดแต่ว่าหาปลาได้ง่ายกว่า คนที่อยู่บนบกก็ก่อไฟไว้ ทำที่พักด้วยการผูกเปลริมน้ำตามความเหมาะสมใกล้ๆ กัน เพื่อนๆ ไปหาปลา เราก็ตามเพื่อนๆ ไปเก็บปลา เมื่อได้เวลาพักกันแล้ว ทุกคนก็ขึ้นมาผิงไฟ บ้างก็ย่างปลาทดแทนความหิวในมื้อค่ำ บวกกับกับข้าวที่ได้หุงไว้ก่อนหน้านั้น ทำให้มื้อค่ำที่เรียบง่ายนั้นอร่อยขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปพักในบริเวณใกล้ๆ กัน การนอนในป่าเราต้องทำใจว่าอากาศจะหนาวกว่าปกติ เพราะส่วนหนึ่งติดริมน้ำด้วย และมีต้นไม้น้อยใหญ่ปกคลุมบริเวณนั้น ทำให้อากาศหนาวกว่าปกติ คืนนั้นไม่ได้นำผ้าห่มไปเผื่อเลยต้องนอนขดในเปล และรอว่าเมื่อไหร่จะเช้าสักที เพราะตื่นขึ้นมาทีไรได้ยินเสียงน้ำไหล และความมืด ไม่ได้กลัวภัยแต่อย่างใด แต่ก็รู้สึกทรมานเพราะอากาศที่หนาวเย็นกว่าปกตินั่นเอง หากนอนในเต็นท์หรือในกระท่อมก็อาจจะรู้สึกอบอุ่นกว่าการนอนในเปลอย่างแน่นอน ประสบการณ์ในการไปนอนป่าในครั้งนั้นทำให้รู้ว่า เราต้องเตรียมตัวให้พร้อมกว่านี้ โดยเฉพาะความอบอุ่นให้กับร่างกาย และการปรับตัวให้เข้ากับสถานที่ให้ได้ รวมทั้งการให้ความเคารพต่อสถานที่ที่พักค้างนั้นด้วยการได้พักค้างในป่าก็ทำให้เรารู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติได้ด้วยเช่นกัน เราเป็นเพียงคนตัวเล็กๆ ที่อาศัยธรรมชาติ ไม่ควรหยิ่งผยอง องอาจ หรือไม่รู้จักเคารพเกรงกลัวธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ เมื่อกลับมาถึงบ้าน เพื่อนๆ ก็แบ่งปลาให้ส่วนหนึ่ง แต่สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าปลาก็คือประสบการณ์ในการค้างคืนในป่า ทำให้ได้เรียนรู้อีกหลายๆ อย่างในการใช้ชีวิตร่วมกันนอกบ้านแบบนี้ การไปหาปลาในครั้งนั้น ถือเป็นการหาเพื่อเลี้ยงชีพอย่างหนึ่ง ไม่ได้ไปหาเพราะความสนุกสนานหรือเป็นแค่เกมกีฬา ถือเป็นวิถีชีวิตอย่างหนึ่งในชนบท ยังถือเป็นการผ่อนคลายชีวิต และวิชาการใช้ชีวิตสำหรับการพักค้างในป่าอีกด้วยเช่นกันและที่สำคัญเมื่อใดที่เรารู้สึกลำบากก็มักจะนึกถึงความสบายที่เราเคยได้รับ เช่นเดียวกันเมื่อถึงคราวได้รับความสบายก็อย่าหลงลืมตัวด้วยเช่นกันทุกภาพประกอบ โดยผู้เขียนขอบคุณ Canva ใช้ตกแต่งภาพปกเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !