สวัสดีครับ มิตรรักนักเดินทางทุกท่าน ถ้าจะพูดถึงประเทศพม่า คงปฎิเสธไม่ได้ว่าเจดีย์ชเวดากองคือ 1 ในสิ่งสำคัญของประเทศนี้ และแน่นอนวันนี้นายน็อต ขออาสาพาไปชม เจดีย์ชเวดากอง เจดีย์สีทององค์ใหญ่เป็นสง่าที่สามารถมองเห็นได้แต่ไกล อย่ารอช้าตั้ง GPS แล้วตามมาเลยครับผม ทริปนี้ผมและสหายเดินทางโดยไม่ใช้ทัวร์ครับ เราข้ามประเทศโดยทางเครื่องบินจากสุวรรณภูมิ มาลงที่สนามบินย่างกุ้ง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนิด ๆ เมื่อถึงสนามบินย่างกุ้ง สิ่งแรกที่ทำคือแลกเงินบาทเป็นเงินจ๊าด และซื้อซิมการ์ดมือถือ เมื่อเรียบร้อยแล้วเราก็เรียกแท็กซี่จากหน้าสนามบิน เข้าไปยังย่างกุ้ง เพื่อแวะเก็บสัมภาระที่โรงแรมและเติมพลังกับอาหารต่างชาติมื้อแรกกันก่อนครับ เอาล่ะอิ่มท้องแล้วเดินทางต่อได้ การเดินทางที่นี่ก็ไม่ยากครับเพราะที่ถนนจะเต็มไปด้วยรถรับจ้างและแท็กซี่เต็มไปหมด โดยก่อนออกจากโรงแรมผมได้สอบถามราคาค่ารถมาแล้วเบื้องต้นจากทางพนักงานโรงแรม เพราะแท็กซี่ที่นี้ไม่มีมิเตอร์ครับและเราสามารถต่อรองได้ครับเพราะรถเค้าเยอะจริง ๆ แต่เพื่อป้องกันไม่ให้หลงทางเปิด Google Map ไว้เลยครับ (ซิมการ์ดมือถือที่ซื้อมาเน็ตแรงใช้ได้เลยไม่ต้องกลัวหลง) เมื่อมาถึงทางเข้าเจดีย์จะพบกับประติมากรรมรูปสิงห์ตัวใหญ่ 2 ตัวอลังการและสวยงามมากครับ ไม่เว้นแม้แต่โถงทางเดินเข้าเจดีย์ที่กว้างใหญ่และอลังการไม่แพ้กัน เมื่อเดินมาถึงชั้นบนก่อนเข้าด้านในส่วนของเจดีย์นั้นต้องชำระค่าเข้าชมก่อนนะครับ โดยราคา 10,000 จ๊าด ต่อคน และที่นี่การแต่งกายเข้าชมนั้นห้ามใส่กางเกงขาสั้นทั้งชายและหญิง ในส่วนของผู้หญิงเสื้อต้องห้ามเป็นสายเดียวหรือแขนกุดนะครับ ที่สำคัญทุกคนต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าชม โดยทางเข้าจะมีถุงพลาสติกแจกสำหรับใส่รองเท้าให้เราหิ้วไปด้วยครับ เมื่อจัดแจงทุกอย่างเรียบร้อยแล้วผมและสหายไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปชมความสวยงามของเจดีย์ และคำแรกที่ต้องอุทานออกมาพร้อม ๆ กันคือ ว๊าว ถึงแม้ว่าช่วงเวลาที่ผมและสหายเดินทางไปจะมีฝนตกพรำ ๆ แต่ไม่ได้ทำให้สีทองของเจดีย์สว่างน้อยลงเลย สมแล้วที่ได้ชื่อว่า เจดีย์ทองคำแห่งเมืองดากอง และถึงแม้จะมีเม็ดฝนโปรยปรายลงมา แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความศรัทธาของพี่น้องชาวเมียนม่าที่มีต่อพุธศาสนาลดลง เห็นได้จากยังมีหลาย ๆ คนยังคงเดินกราบไหว้ตามจุด ต่าง ๆ แม้ต้องตากฝนก็ตาม สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการสักการะพระพุทธรูปในวิหารซึ่งวิหารจะมี 4 ทิศ โดยให้เดินวนตามเข็มนาฬิกาจากนั้น ระหว่างทางจะพบกับพระประจำวันเกิดทั้ง 7 วัน (จะมีป้ายภาษาอังกฤษกำกับอยู่) ให้แวะสรงน้ำทั้ง 7 วันเลยครับ ตามทางจะมีตู้รับบริจาควางอยู่หลายจุดเหมือนวัดที่เมืองไทยครับใครมีมากทำมากมีน้อยทำน้อยตามกำลังครับ การมา เจดีย์จเวดากอง นั้นนอกจากได้ชมความสวยงาม และทำบุญ แล้วไฮไลท์อีกอย่างคือการอธิษฐานขอพรที่ลานเจดีย์ที่มีพื้นเป็นรูปดาว ทางทิศเหนือและ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งพี่น้องชาวเมียนม่าเชื่อกันว่าหากได้ขอพรที่ลานแห่งนี้จะทำให้พรที่ขอสัมฤทธิ์ผลและสำเร็จทุกประการครับผม สุดท้ายนี้ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ ผมนายน็อตและสหายขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ทริปหน้า ขอให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรง ขอบคุณครับ สวัสดี ภาพประกอบโดยนักเขียน