เที่ยวยังไงให้ปลอดภัยในยุโรป เปิดเทศกาลการท่องเที่ยวอีกครั้ง เชื่อว่าหลาย ๆ ประเทศในยุโรปคงเป็นที่จับตา จับจ้อง และจับจองที่ไปเยือนกันซักครั้งในชีวิต จากความหลากหลายวัฒนธรรม และภาษา ทำให้แต่ละประเทศในยุโรปมีจุดขายที่แตกต่างกัน และข้อดีของการเปิดพรมแดนถึงกันของความเป็นหนึ่งเดียวของEU แต่ละประเทศที่มีพื้นที่ไม่กว้างขวางมาก ผนวกกับการเดินทางที่มีเส้นทางเชื่อมถึงกันทั่วยุโรป การท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบกรุ้ปทัวร์ หรือเที่ยวเดี่ยว เป็นเรื่องที่ไม่ยุ่งยากจนเกินไป แต่หลาย ๆ ครั้งนักท่องเที่ยวต่างถิ่นมักจะได้รับการเตือน ไม่ว่าจากผู้ที่เคยมีประสบการณ์ที่เดินทางไปก่อน หรือจากไกด์ทัวร์เองให้ระวังหลาย ๆ เรื่อง ที่จะเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝันตามสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เรียกว่ายิ่งที่ใดเป็นที่ป๊อบปูล่ามาก อันตรายที่เกิดจากกลุ่มมิจฉาชีพยิ่งเพิ่มมากขึ้นตาม จนหลายคนขยาดหรือไม่เกิดวิตกตลอดการเดินทาง ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริง คนท้องถิ่นของประเทศนั้น ๆ ส่วนใหญ่จะเป็น น่ารัก ใจดี และยินดีให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ไม่เช่นนั้นสภาพบ้านเรือน อาหารการกิน หรือวัฒนธรรมท้องถิ่นนั้น ๆ คงไม่ดึงดูดคนให้หลั่งไหลไปท่องเที่ยวบ้านเขาขนาดนั้น ดังนั้นเพื่อไม่ให้การท่องเที่ยวต่างแดนของเราหมดอรรถรส เสียบรรยากาศในการดื่มด่ำกับการท่องเที่ยว เราควรระวัง และรู้วิธีป้องกัน เล่ห์เหลี่ยม มิจฉาชีพแต่ละประเทศท่องเที่ยวไว้จะได้ไม่ต้องโดนเข้ากับตัวเอง 1. ภาษา ในยุโรปส่วนใหญ่ใช้ ภาษาเยอรมัน เป็นหลัก รองจากนี้ก็เป็นภาษาฝรั่งเศส ,อิตาลี ,ภาษาอังกฤษบ้าง แต่ทุกประเทศจะมีภาษาของประเทศของตัวเอง ในเมืองใหญ่ ๆ หรือเมืองท่องเที่ยวอาจจะมีคนพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง แต่ถ้าเป็นพื้นที่นอกเมือง หรือชนบท แม้คนของเขาจะพูดได้อย่างน้อยสามภาษา แต่ภาษาอังฤษก็ยังถือว่าใช้น้อย บางประเทศไม่ใช้ภาษาอังกฤษเลย นักท่องเที่ยวจึงควรระวังการช่วยเหลือจากคนอื่นที่เข้ามาพูดคุยด้วยภาษาอังกฤษ เพราะนั้นอาจจะหมายถึงเขาเป็นนักท่องเที่ยวด้วยกัน หรืออาจจะเป็นมิจฉาชีพที่แฝงตัวมา แต่ข้อดีของการไม่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ก็มีบ้าง คือเขาก็จะไม่ใช้ศัพท์ยาก เหมือนนักท่องเที่ยวจากไทยก็ไม่ต้องกังวลเรื่องศัพท์ยากหรือสำเนียงที่ฟังไม่รู้เรื่อง เพราะส่วนใหญ่เขาจะพูดช้า ไม่ไวมากเหมือนภาษาแม่ เราสามารถติดต่อ สื่อสารกันได้ง่ายกว่า เหมือนที่มีสำนวนว่า คนต่างชาติด้วยกันจะเข้าใจคนต่างชาติด้วยกัน ซึ่งบางครั้งถ้าเราถามเขาแล้วเขาตอบกลับเป็นภาษาเขา แล้วเราฟังไม่ทันให้ขอให้เขาพูดเป็นภาษาอังกฤษ กรณีที่เขาพูดภาษาอังกฤษได้ จะพบว่าเขาจะพูดช้า ชัด และเราเข้าใจได้ไวขึ้นด้วย 2. อย่าใช้กระเป๋าเงินแบบคาดเอว รู้ไหมว่าการคิดว่ากระเป๋าคาดเอวจะช่วยให้เงิน หรือทรัพย์สินมีค่าอยู่ติดตัวเราตลอดเวลา ทำให้หลาย ๆ คนเลือกใช้กระเป๋าคาดเอว และไม่ระวัง โชว์ แต่มันกลับกลายเป็นเป้าให้พวกโจรสังเกตุ ที่เก็บทรัพย์สินของเราได้ง่าย และรู้ทันทีว่าเราใส่ของมีค่าทั้งหมดไว้ที่นั้น เมื่อสบโอกาสเขาจะไม่ขโมยอย่างอื่นแต่จะกระชาก ดึงกระเป๋าคาดเอวของเราทันที แนะนำให้เก็บของมีค่าแยกไว้หลาย ๆ ที่ดีกว่าอย่ารวมไว้ให้เขาทีเดียว 3. กระเป๋าสตางค์ เลือกกระเป๋าสตางค์ใบเล็ก ๆ ติดตัวง่าย ไม่ต้องใส่บัตรทั้งหมดไว้ในใบเดียว อาจแยกใบเล็ก เก็บไว้หลายที่ในตัวเราได้ เพราะถ้าเราต้องเดินทางโดยรถไฟใต้ดิน หรือรถเมล์ ที่มีคนแน่น ๆ มีเหตุการณ์การกรีดกระเป๋า หรือล้วงกระเป๋าเกิดขึ้นได้บ่อย ๆ โดยเฉพาะที่รถไฟใต้ดินที่ปารีส จะขึ้นชื่อเรื่องการล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวเอเซีย ตอนคนแน่น ๆมาก ทางที่ดีพวกกระเป๋าสตางค์อย่าเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงไม่ว่าด้านข้าง หรือ ด้านหลัง ให้เก็บไว้ในกระเป๋าใหญ่ หรือกระเป๋าถือ ถ้าเป็นผู้หญิงเวลาเดินทางขึ้นรถแบบนี้ให้เอามากอดไว้ข้างหน้า กระเป๋าเป้จะเป็นตัวเลือกกระเป๋าที่ดี ถ้าเราเลือกมาไว้ข้างหน้าและโอบกอดไว้ แต่หากจำเป็นต้องใส่กระเป๋ากางเกงให้เอามือล้วง และสัมผัสไว้ตลอดเป็นการกันคนเอามือล้วงเข้าไปดึงออกมา 4. ระวังคนแปลกหน้า ไม่ควรคุยกับคนแปลกหน้าโดยไม่จำเป็น หากเราไม่รู้จัก เพราะไม่ใช่สิ่งปกติที่คนที่ไม่รู้จักกันจะมาชวนคุยเรื่องแผนการเดินทางเรา หรือเรื่องส่วนตัวบางเรื่องของเรา ไม่ควรให้ข้อมูลแผนการท่องเที่ยวของเรา โดยเฉพาะคนแปลกหน้าที่เราเจอบนรถสาธารณะ ยิ่งเรื่องที่พักไม่สมควรบอกอย่างยิ่งว่าเราพักที่ไหน ระวังการมาให้ความช่วยเหลือเล็ก ๆน้อย เช่น ถ่ายรูปให้โดยเราไม่ได้ร้องขอ ,ถือข้าวของให้ หรือไปส่งขึ้นรถ นี่ไม่ใช่วัฒนธรรมของคนยุโรปที่จะเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวถ้าไม่ได้ถูกร้องขอ และอีกอย่าง ระวังเด็กน่ารัก ๆ ด้วย บางทีพวกโจรก็ใช้เด็กมาเป็นเหยื่อล่อให้เราเล่น พูดคุย แล้วถือโอกาสล้วงขโมยของมีค่าไป 5. การฝากกระเป๋า ตามสถานีรถไฟใหญ่ จะมีตู้ให้บริการฝากของ เราสามารถแลกเงินเหรียญเอาของไปฝากตามตู้ได้ ในราคา ตู้ช่องเล็ก 1 ยูโร ตู้ช่องใหญ่ขนาดใส่กระเป๋าลากได้จะ 5 ยูโร เมื่อล๊อกได้แล้วก็เอากุญแจติดตัวไปได้และคืนเมื่อมาเอาของคืน แต่ถ้าเราพักโรงแรม เราสามารถใช้บริการโรงแรมได้ แต่ไม่ว่าที่ไหนก็ตามให้เราเอาของมีค่าทุกอย่างออกจากกระเป๋าและติดตัวไป เพราะถึงเป็นโรงแรมก็มักไม่มีคนเฝ้ากระเป๋าตลอดเวลา ส่วนตามสถานีรถไม่ควรฝากกับเจ้าหน้าที่ หรือบุคคลใด ๆ เพราะมีโอกาสสูงที่จะถูกขโมย 6.ห้องน้ำ ที่บริการสาธารณะส่วนใหญ่มีค่าบริการ ยกเว้นในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เป็นห้องน้ำเข้าฟรี นอกนั้นเวลาเราใช้บริการจะต้องหยอดเงินเสียค่าเข้า และได้คูปองคืนเงิน เมื่อเราซื้อสินค้าในร้านค้านั้น หากมีคนเก็บเงิน หรือยืนให้บริการจะหยอดให้ ให้ระวังให้ดีอย่าไปยื่นให้เพราะอาจเสียค่าบริการ และเสียรู้หากเจอห้องน้ำฟรี 7. การซื้อตั๋วรถไฟ หรือซื้อตั๋วเข้าชมต่าง ๆ ให้ระวังคนที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ที่ต้องประจำอยู่ตามเคาเตอร์ต่าง ๆ เป็นคนขาย หรือเข้ามาแนะนำ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นมิจฉาชีพมาทำทีให้ข้อมูล ช่วยเหลือ แล้วจะแบมือขอเงนทันที ให้เราเลือกใช้บริการจากหน้าเคาเตอร์ปลอดภัยที่สุด ให้สังเกตุเจ้าหน้าที่ของสถานที่นั้น ๆ เรื่องเครื่องแต่งกายที่เหมือนกัน ส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่บริการนักท่องเที่ยวจะน่ารักมาก ๆ และเต็มใจให้บริการ ไม่คิดเงินด้วย 8.ตั๋วเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ อย่าให้คนแปลกหน้า ให้สังเกตเครื่องแบบเจ้าหน้าที่เวลาตรวจตั๋ว ส่วนใหญ่จะอยู่หน้าประตูทางเข้า ออกเลย หากมีคนมาเสนอ หรือขอตรวจตั๋วในที่ลับตาคน โดยอ้างคนจำนวนวนมากจึงมาตรวจก่อน อย่ายื่นตั๋วให้โดยดีถ้าไม่แน่ใจ ปกติคนตรวจตั๋วเขาจะแค่ดูตั๋ว แสกนบาร์โค้ด และฉีกคืนตั๋วให้เรา จะไม่มีการนำตั๋วไปตรวจสอบหรือ เลี่ยงไปทางอื่นแล้วบอกจะเอามาคืน นั่นโจรแล้ว 9.ระวังคนเดินตามยัดเยียดขายของให้ เป็นวิธีที่พบเห็นได้บ่อยตามแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ที่จะมีคนมาดักนักท่องเที่ยว แล้วพยายามขายของให้ เช่น ไม่เซลฟี่, พวกกุญแจของที่ระลึก, ข้าวโพดให้นกพิราบ,ดอกไม้, สร้อยข้อมือ เป็นต้น ให้เราปฏิเสธแบบสุภาพ แล้วไม่ควรรับของใดๆมาดูเด็ดขาดถ้าไม่ซื้อ และสิ่งที่ควรระวังที่ผู้เขียนเจอก็คือ พวกมิจฉาชีพที่สบโอกาสจะกระชากกระเป๋าถือ แล้วโยนต่อๆกัน ในขณะที่นักท่องเที่ยวโวยวาย หรือมีตำรวจท่องเที่ยวในพื้นที่วิ่งมา พวกโจรเหล่านี้จะโยนต่อๆกันแล้วหายเข้าไปในซอยด้วยความชำนาญมาก ซึ่งสุดท้ายก็จับใครไม่ได้เลย ยิ่งคนเอเซียจำลักษณะคนยาก อธิบายก็ติดขัดเรื่องภาษามักจะเสียของฟรีไปเลย 10. ขอทาน มีทุกที่แทบทุกประเทศทั่วโลกตามแหล่งท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นประเทศเจริญหรือประเทศที่ยังพัฒนาอยู่ ในยุโรปนั้นเขาจะไม่ให้เงินขอทานด้วยประการทั้งปวง แม้ว่าเค้าจะนั่งขออยู่ที่หน้าโบสถ์ก็ตาม ถ้าอยากบริจาคให้โบสถ์ให้ทำบุญในตู้รับบริจาคกับโบสถ์โดยตรง หลายประเทศในยุโรปมีสวัดิการสังคมให้คนตกงานอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ขอทาน หรือพวกไร้บ้านที่เราเจอตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ มักจะเป็นคนต่างชาติ หรือเข้าเมืองมาโดยผิดกฏหมาย ไม่ยอมรับกฎที่ประเทศนั้น ๆ จำกัดเรื่องการช่วยเหลือ ดังนั้นเราไม่ควรไปสนับสนุนโดยการบริจาคเงินให้เขาจะดีกว่าน่ะค่ะ เผลอ ๆ เขาอาจจะเก็บได้เงินมากพอมาท่องเที่ยวเป็นเศรษฐีแถบบ้านเราก็ได้ใครจะรู้ ทั้งหมดเป็นข้อควรระวัง เวลาเดินทางท่องเที่ยวต่างแดน รู้ไว้ไม่เสียหลาย และเราจะได้สบายใจเมื่ออยู่ต่างถิ่น ทริปเที่ยวจะได้ไม่เป็นทริปเศร้า เก็บกระเป๋าไปท่องโลกกันอย่างสนุกสนานค่ะ ภาพปก https://pixabay.com ภาพ1 เจ้าของบทความ ภาพ 2https://pixabay.com ภาพ 3https://pixabay.com ภาพ 4 https://pixabay.com