อ.สุคิริน จ.นราธิวาส เป็นที่ตั้งของเหมืองทองที่สำคัญเมื่อครั้งอดีต คือ เหมืองทองโต๊ะโมะ หรือภูเขาทองนั่นเอง ปัจจุบันสัมปทานถูกยกเลิก ไม่มีการทำเหมืองใหญ่อีก เพราะไม่คุ้มการลงทุน แต่ในรัศมีเหมืองมีแร่ทองหลงเหลืออยู่มากมาย ชาวบ้านยังคงสามารถร่อนหาทองคำบริสุทธิ์ขายเลี้ยงชีพได้หลักพันต่อวันเหมืองทองโต๊ะโมะรุ่งเรืองอยู่ในช่วง พ.ศ.2475 กระทั่งถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้ดูแลเหมืองทองในยุคนั้น คือ ตระกูลของพนมเทียน นักเขียนอันลือชื่อ ผู้สร้างนวนิยายลือนาม ‘เพชรพระอุมา’ ซึ่งแรงบรรดาลใจมาจากสิ่งแวดล้อมเหมืองทองนี่เองปัจจุบันชุมชนโต๊ะโมะ เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสธรรมชาติกับกิจกรรมหลากหลาย ทั้งล่องแก่ง เดินป่า ชมทะเลหมอก ชมวิถีชุมชน และร่อนทอง เที่ยวสุขใจ ชายแดนใต้ EP. นี้ ผู้เขียนมีโอกาสเป็นคนนำคณะทัวร์ เที่ยวเมืองแห่งอ้อมกอดขุนเขา สุคิริน จึงได้ติดต่อผู้นำชุมชนจัดโปรแกรมร่อนทอง ชนิดที่นักท่องเที่ยวลงมือเอง หากร่อนได้ สามารถนำทองกลับบ้านได้ด้วย เพื่อหวังให้เป็นที่ประทับใจกลับบ้านกันทุกคนหลังพาเดินชมอุโมงลำเลียงทองเมื่อครั้งอดีตแล้ว ผู้เขียนก็พาคณะไปยังจุดนัดหมายร่อนทองทันที มองเผิน ๆ แทบจะดูไม่ออกว่าตำแหน่งที่นัดเจอจะมีทองได้อย่างไร เพราะอยู่ใต้สะพานคอนกรีตโทรม ๆ ที่ใช้ข้ามคลองธรรมดา ๆ มองย่างนั้นก็ธรรมดาแหละครับ แต่ถ้าหลับตาจินตนาการให้เป็นแผนที่ จะพบว่า ลำคลองเชื่อมมาจากเหมืองทอง น้ำย่อมชะพาแร่ทองมาตามลำน้ำแม้คลองไอร์ปาโจจะเชื่อมกับเหมืองทอง แต่ใช่ว่าจะร่อนทองตามจุดไหนก็ได้ ต้องรู้แหล่งเท่านั้นจึงจะขุดดินขึ้นมาร่อนหาทองได้ เพราะแร่ทองเมื่อไหลมากับน้ำ จะรวมกันเป็นจุด ตามจุดพักของน้ำ ซึ่งใต้สะพานที่เรานัดหมาย ก็เป็นตำแหน่งหนึ่งของจุดพักทองวิธีร่อนทองไม่ยาก แต่ยากปฏิบัติ เริ่มโดยตักดินใส่เลียง (คล้ายกระทะ ทำด้วยไม้ มีหลุมเล็กตรงกลาง) แล้วร่อนเบา ๆ เหนือผิวน้ำ ให้ดินหลุดออกไปหมด แร่ทองหนักกว่าดิน จะเหลือติดอยู่ก้นเลียงตรงที่เป็นหลุมเล็กนั่นเอง... วิธีง่ายใช่ไหม แต่ลองแล้วไม่ง่ายอย่างบรรยาย เพราะต้องใช้ประสบการณ์เข้าช่วยทองที่ได้น้อยนักที่จะเป็นก้อนเหมือนที่เราเห็นในหนัง ส่วนมากมาแบบเศษคล้ายทราย เมื่อได้ทองมาแล้ว ต้องเลี้ยงน้ำไว้ในขวด ปิดฝาให้แน่น เพื่อไม่ให้แห้ง ชาวบ้านเชื่อว่าทองจากโต๊ะโมะ มีชีวิต จึงต้องปิดฝาขวดแน่น ๆ ก็แหงละ ไม่แน่นเดี๋ยวหก หายไป ใครจะตามได้ เรื่องความเชื่อมีมากกว่านั้น กล่าวคือเมื่อยุคแรกทำเหมือง เกิดเหตุเหมืองถล่มคนตายจำนวนมาก ชาวจีนที่มาทำเหมืองต้องอัญเชิญเจ้าแม่มาคุ้มครอง และเรียกเจ้าแม่ว่า “เจ้าแม่โต๊ะโมะ” ปัจจุบันชาวบ้านที่นับถือ ก่อนออกร่อนทอง บนบานเจ้าแม่ก่อนเสมอ ทริปร่อนทองของคณะเราครั้งนี้สนุกสาน เพราะแต่ละคนไม่เคยร่อนทอง ชาวบ้านก็เป็นกันเอง ทั้งตักดินให้ ทั้งสอนวิธีร่อนให้อย่างใจดี ทำให้เราได้ทองกลับบ้านเป็นที่ระลึกคนละเล็กละน้อยจริงแล้วหากใครไปเที่ยว อยากได้ทองบริสุทธิ์กลับเป็นที่ระลึก สามารถซื้อจากร้านชุมชนได้ เขาขายตามราคาท้องตลอด ชาวบ้านเมื่อร่อนทองได้ ก็จะมาขายที่นี่แหละ ส่วนร้านชุมชนเมื่อได้ทองบริสุทธิ์แล้ว ก็จะส่งขายร้านทองต่อไป นอกจากเชื่อว่าทองมีชีวิตแล้ว ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับทองบริสุทธิ์อยู่อย่างหนึ่งว่า เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์พกติดตัวไว้จะนำมาซึ่งความโชคดี ส่วนทองรูปพรรณที่ขายตามห้างทองนั้น ไม่ถือเป็นทองบริสุทธิ์ เพราะผสมแร่อย่างอื่นเข้าไปช่วยให้ทองแข็งขึ้นรูปได้ เนื่องจากทอง 100% เนื้ออ่อน ไม่สามารถทำเป็นแหวน เป็นสร้อยได้ ทำมาก็จะหักงอ ใช้การไม่ได้ เราจึงมักเห็นคำว่าทอง 9.9 หรืออะไรทำนองนี้เสมอเอาเป็นว่า เที่ยวสุขใจ ชายแดนใต้ EP. นี้ขอพอแค่นี้ก่อน เพราะเรื่องทอง และเหมืองโต๊ะโมะมีรายละเอียดมากมาย เอาไว้ผู้เขียนจะมาเล่าแยกย่อยเป็นเรื่องไป สำหรับบทความว่าด้วย “ทอง” ของอีพีนี้ท่านใดสนใจสัมผัสบรรยากาศ ติดต่อได้ที่ ชุมชนท่องเที่ยวตำบลภูเขาทองพิกัด https://goo.gl/maps/m6FqjvRyM1MpuKDD9เที่ยวสุขใจ ชายแดนใต้ EP. อื่น ๆเที่ยวสุขใจ ชายแดนใต้ EP.1 / EP.2 / EP.3 / EP.4 / EP.5 / EP.6 / EP.7 / EP.8 / EP.9 / EP.10ภาพประกอบ โดยผู้เขียน อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !