"เมื่อทุกคนมองมาบนเวที สิ่งที่เห็นคือความอ่อนช้อย สวยงาม ของนักแสดงและการแสดงนั้น" ทุกคนรู้หรือไม่ เบื้องหลังความอ่อนช้อยและความสวยงามนั้น เกิดอะไรขึ้นบ้าง? แน่นอนว่าหลาย ๆ คน คงเคยชมการแสดงทางนาฏศิลป์กันมาบ้างพอสมควร ไม่ว่าจะเป็น การฟ้อน รำ ระบำ เซิ้ง หรือว่าโขน นาฎศิลป์ไทยนั้นถือเป็นการแสดงประกอบดนตรี แต่ละจังหวัด แต่ละภาค ก็ย่อมมีการแสดงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในความรู้สึกของคนที่มองอยู่หน้าเวที เหล่านักแสดงสร้างความสนุกสนานเพลิดเพลินกอปรกับเสียงดนตรีเพราะ ๆ การฟ้อนรำอันอ่อนช้อนก็ยิ่งทำให้ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงานได้เป็นอย่างดี แต่ทุกอย่างย่อมมีเบื้องหลังเสมอ สำหรับในเบื้องหลังความอ่อนช้อย ของเด็กนาฎศิลป์นั้น ก็แฝงไปด้วยหลาย ๆ อย่าง ดังที่ผู้เขียนจะนำเสนอ ดังนี้ การซ้อมที่หนักหน่วง ในส่วนของการซ้อม แน่นอนว่าก่อนที่จะยืนอยู่หน้าเวทีได้ จะต้องอาศัยการซ้อมและฝึกฝนเป็นอย่างมาก เพื่อให้หน้างานเป็นไปอย่างสมบูรณ์ ในการฝึกซ้อมทางนาฎศิลป์ไม่ว่าจะเป็น การฟ้อน รำ ระบำ เซิ้ง โขน และอื่น ๆ จะต้องมีการดัดมือ ดัดตัว เพื่อให้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายนั้นมีความหยืดหยุ่น ไม่แข็งกระด่าง จะต้องจดจ่ออยู่กับท่ารำต่าง ๆ ประกอบกับฟังเสียงดนตรี จังหวะการยกเท้า การวางเท้า การจีบ การปล่อยจีบ และท่าอื่น ๆ อีกมากมาย และจะต้องซ้อมจนกว่าจะพร้อมเพียงกัน เมื่อเกิดความพร้อมเพียงแล้วก็ต้องมีความอ่อนช้อย งดงามด้วย ประกอบกับการฝึกใช้สีหน้าและแววตาที่สื่ออารมณ์ความรู้สึก การพัฒนาตัวเอง ทุกคนค่ะการแสดงนาฏศิลป์ส่วนใหญ่จะแสดงเป็นชุด นั้นก็คือ มีนักแสดงหลายคน แน่นอนว่าฝีมือทางการแสดงนั้น ทุกคนไม่เท่า กัน มักจะมีคนมีฟ้อนรำหรือแสดงได้อย่างสวยงามมาก ๆ และก็มักจะมีคนที่ฝีมือการแสดงยังไม่ถึงเพื่อนเสมอ ดังนั้นการพัฒนาตัวเองถือเป็นสิ่งหนึ่งที่จำเป็นที่จะต้องปฎิบัติ เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์แบบภายในวง การอยู่ร่วมกัน อย่างที่ผู้เขียนได้กล่าวมาข้างต้นว่า การแสดงนั้นส่วนใหญ่มีนักแสดงหลายคน บ้างก็เป็นทีมงาน มีนักดนตรีประกอบด้วย สังคมนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญ เราต้องรู้จักให้อภัยและเสียสละให้เป็นพื้นฐาน เพราะการอยู่ร่วมกันไม่สามารถตามใจตัวเองได้ จะต้องอาศัยหลักประชาธิปไตยเข้ามาช่วย ความอดทน ทุกคนค่ะ ก่อนที่จะมายืนอยู่หน้าเวทีได้ ต้องอดทนอะไรหลาย ๆ อย่าง อย่างแรกคือต้องอดทนในการซ้อม ต้องอดทนต่อคำวิพากษ์วิจารณ์การแสดง ภายใต้ความสวยงามและรอยยิ้ม จะมีสักกี่คนที่รู้บ้างว่า มันแสนทรมาน ชุดที่รัดตรึงเอาเรือนร่างแทบจะหายใจไม่ออก เครื่องประดับบางชิ้นที่ใส่แล้วก็แสนจะเจ็บปวด เครื่องสำอางที่โบกทับ ขนตาที่หนาจนแทบจะมองอะไรไม่เห็น หลาย ๆ คนอาจมองว่า คนจะเป็นเด็กนาฎศิลป์ และยืนอยู่บนเวทีได้ต้องอาศัยพรสวรรค์ แต่มุมมองนี้ไม่เสมอไปนะคะ สิ่งสำคัญนั้นคือความพยายาม และความศรัทธา พยายามฝึกฝนตัวเองอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าจะหนักแค่ไหน และที่สำคัญต้องมีความศรัทธา "ศรัทธาในความเป็นนาฎศิลป์" ขอบคุณภาพปกจาก pixabayภาพประกอบที่ 1 : pixabayภาพประกอบที่ 2 : pixabayภาพประกอบที่ 3 : pixabayภาพประกอบที่ 4 : pixabay ภาพประกอบที่ 5 : pixabay