วันหยุดช่วงปิดเรียนที่ผ่านมา คิดกันในครอบครัวว่า จะพาลูก ซึ่งอยู่ในวัยเด็กประถมไปเที่ยวที่ไหน เห็นโปรโมชั่นค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับหาดใหญ่-สิงคโปร์ ราคาไม่สูง (รวมไปกลับไม่ถึง 3,000 บาท/คน) จึงตัดสินใจซื้อตั๋วและจองที่พัก เพื่อไปเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับลูก ที่สิงคโปร์ จำนวน 2 วัน 1 คืน ทริปเปิดประสบการณ์ใหม่ให้ลูก ไปสิงคโปร์ เริ่มต้นที่เช้าวันเสาร์ ณ สนามบินนาชาติหาดใหญ่ โดยกำหนดเครื่องออกเวลา 07.30 น. โดยเราก็เตรียมตัวกันตั้งแต่เช้าตรู่ ผ่านการตรวจพาสปอร์ตเดินทางออกนอกประเทศ และได้แลกเปลี่ยนเงินไปร่วม 20,000 บาท หลังจากขึ้นเครื่องบิน ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงครึ่ง ก็ถึงสนามบินชางฮี ของสิงคโปร์ โดยสัมผัสแรกที่ถึงสนามบิน ก็เห็นความทันสมัยของสนามบินนานาชาติสิงคโปร์ ทั้งลู่เดินทางเลื่อนและห้องน้ำ ที่ทันสมัยมาก มีทั้งปุ่มกดเติมน้ำหน้าห้องน้ำและปุ่มประเมินความพึงพอใจ ในความสะอาดและการบริการของพนักงานในห้องน้ำ จึงคิดในใจว่า ประเทศอะไรทำไมถึงทันสมัยอย่างนี้ เมื่อเข้าสู่ช่องการตรวจหนังสือเดินทาง ก็มีปัญหานิดหน่อย ตรงที่นิ้วมือของลูกสาว ไม่ชัดเจน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องพาเข้าไปตรวจที่ห้องพิเศษ แล้วก็เดินทางต่อไปได้ หลังจากนั้น ก็แลกบัตรโดยสารรถไฟฟ้า จากสนามบินชางฮี ไปยังสถานีที่จองที่พักไว้แถบเกลัง ซึ่งเป็นสถานที่พักราคาไม่สูง และมีอาหารจีน อาหารพื้นเมืองสิงคโปร์ให้เลือกกินได้หลากหลาย โดยเก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้ว ก็พาลูกออกผจญภัยในสิงคโปร์ สถานีแรก เมอร์ไลอ้อน ใครก็ตามที่ไปสิงคโปร์แล้ว ต้องไม่พลาด ที่จะแวะไปเยี่ยมสิงโตพ่นน้ำ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ว่าเดินทางมาถึงสิงคโปร์เรียบร้อยแล้ว บรรยากาศวันนั้นอากาศร้อนอบอ้าวหน่อย เดินไปเรื่อย ๆ เหงื่อก็แตก ส่วนเด็ก ๆ ก็สนุกสนานไปตามประสา หลังจากนั้นได้แชะ แชะ แชะ กับสิงโตพ่นน้ำ กันยกใหญ่ ซึ่งบรรยากาศโดยรอบอ่าว มาริน่าเบย์ ก็จะมีความสะอาดและสวยงามเดินขึ้นโรงแรมมาริน่า เบย์แซนด์ หรือโรงแรมเรือระดับโลก และตึกรูปทรงต่าง ๆ ที่รายรอบอ่าวมาริน่าเบย์ มาถึงสิงคโปร์แล้ว ก็ลองกินไอติมแท่งสักหน่อย ด้วยความกระหาย สั่งไปสองแท่ง สนนราคาอยู่ที่ 5-6 ดอลล่าสิงคโปร์ (คิดเป็นเงินไทยก็ 250-300 บาท) ชื่นใจกันไปเลย เมื่อเก็บภาพบรรยากาศที่สิงโตพ่นน้ำเรียบร้อยแล้ว ก็ไปสถานีต่อไป สถานีที่ 2 ถนนออคิดและไชน่าทาวน์ เมื่อมาถึงสิงคโปร์แล้ว ก็ไม่พลาดที่จะไปเดินชมบ้านชมเมือง พักขาตากแอร์ ที่ห้าง ion orchard ห้างหรูหราทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ เก็บภาพเล็กน้อย ก็นั่งรถไฟย้อนกลับไปไชน่าทาวน์ แห่งท่องเที่ยวยอดนิยม ที่มีนักท่องเที่ยวไปเยือน โดยไปถึงไชน่าทาวน์ราว 6 โมงเย็น ก็มีผู้คนพลุกพล่าน เดินชมบรรยากาศ กินข้าว ซื้อขนมของฝาก ก็ทำเอาหมดแรงกันเลย ทีเดียว สถานีที่ 3 โรงแรมมารีน่า เบย์แซนด์ ตกค่ำ ก็เดินทางด้วยรถไฟฟ้ากลับไปยังโรงแรมมารีน่าเบย์แซนด์ เพื่อชมการแสดงแสงสีเสียง บนอ่าวมารีน่าเบย์ ที่จัดแสดงให้กับนักท่องเที่ยวในทุกค่ำคืนของวันเสาร์และวันอาทิตย์ ในเวลาประมาณ 2 ทุ่ม ที่สะกดสายตาผู้ชมให้ได้สัมผัสกับแสงสีเสียง ที่ถูกควบคุมจากตัวตึกโรงแรมมารีน่าเบย์ ทอดลงสู่พื้นน้ำในอ่าวมารีน่าเบย์ โดยการแสดงใช้เวลาราว 15-30 นาที ก็ประทับใจมาก สถานีที่ 4 ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ หลังจากเดินกันเมื่อยขาทั้งครอบครัว ก็กลับไปยังที่พักย่านเกลัง อาบน้ำอาบท่า กินโรตีกับโกปี้ (คล้าย ๆ เมืองไทย) ที่ร้านอาหารใกล้ ๆ ที่พัก ก็เข้านอน ตื่นเช้าขึ้นมา เสร็จภารกิจ ก็พากันขึ้นรถไฟฟ้า เพื่อไปแหล่งสวนสนุก ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ซึ่งตั้งอยู่ชั้นในของเกาะเซนโตซ่า ซึ่งสถานที่แห่งนี้ ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่เด็ก ๆ เฝ้ารอ หลังจากซื้อตั๋วเข้าไปภายในเครื่องเล่น (ราคาตั๋วคนละ 1,600 บาท) ก็เข้าไปสนุกกับเครื่องเล่นและสัมผัสกับบรรยากาศที่รอคอย เครื่องเล่นหลากชนิดที่ลูกได้เล่น อาทิ ชิงช้าม้าหมุน การล่องเรือในถ้ำมาดากัสก้า ผจญภัยดินแดนไดโนเสาร์ นั่งรถชมเมืองอิยิปต์ และผ่านสมรภูมิหุ่นออโต้บอท ที่เด็ก ๆ จะต้องจอดทำท่าทางเลียนแบบอย่างสนุกสนาน หลังจากนั้น ก็เดินเก็บเกี่ยวบรรยากาศภายในพื้นที่รอบนอกของเกาะเซนโตซ่า หลังจากผจญภัยในที่ท่องเที่ยวต่าง ๆในสิงคโปร์ จนสมใจในเวลา 2 วัน 1 คืน ก็โดยสารเครื่องบินเวลา 3 ทุ่มจากสิงคโปร์-หาดใหญ่อย่างสวัสดิภาพ ซึ่งขณะอยู่บนเครื่องก็หมดแรงกันผล็อยหลับกันไปตามระเบียบ คำแนะนำสำหรับครอบครัว ที่อยากพาลูกไปเที่ยวสิงคโปร์ จะต้องเตรียมความพร้อมให้เรียบร้อย ที่สำคัญ 2 เรื่อง คือ เรื่องขวดน้ำ ที่ควรให้เด็ก ๆ พกเป็นขวดเล็ก ๆ ติดตัวไป (ราคาน้ำ 1 ขวดปกติ บ้านเรา 7 บาท ที่สิงคโปร์ 1.5 ดอลล่าร์ หรือ 30 บาท) และเรื่องการโดยสารรถไฟฟ้า ที่มีคนแออัด ควรระมัดระวังเด็ก ไม่ให้พลัดหลง การเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ทำให้ผู้เขียนและลูกได้สัมผัสกับสิ่งใหม่ในสิงคโปร์ ทั้งเรื่องการเดินทางที่สะดวกสบาย บรรยากาศเมืองสิงคโปร์ ที่ผสมผสานความคิดสร้างสรรค์ไว้ในทุกพื้นที่ และความทันสมัยของประเทศ ที่ได้รับการออกแบบผังเมืองและการคมนาคมเป็น อย่างดี และอย่างน้อยที่สุด ก็เชื่อว่า ทริปเปิดประสบการณ์ให้ลูก ในสิงคโปร์นี้ ก็จะสร้างประสบการณ์ใหม่และความสุขสนุกสนานให้แก่ลูกได้ครั้งหนึ่ง จึงขอเชิญชวนครอบครัวที่คิดจะพาลูกท่องเที่ยว ให้วางแผน ทริปให้เรียบร้อย เพื่อให้ลูกเกิดการเรียนรู้จากการท่องเที่ยวไปด้วย เครดิตทุกภาพถ่ายโดยครอบครัวผู้เขียน