ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันเสื้อผ้าไม่ได้เป็นเพียงเครื่องนุ่งห่มเท่านั้นแต่ยังเป็นสัญลักษณ์แสดงบุคลิกนิสัยของผู้สวมใส่อีกด้วย แต่ในระยะหลังมานี้ ผู้คนมีการตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภาวะโลกร้อน, ปัญหาขยะ อีกทั้งทางกลุ่มแบรนด์ต่าง ๆ ก็ได้มีการลดละเลิกการใช้ถุงพลาสติก แก้วพลาสติก แม้กระทั่งหลอดพลาสติก แต่ยังมีอีกหนึ่งปัญหาที่แก้ไขได้ยากเพราะถือเป็นเป็นปัจจัย 4 ในการดำรงชีวิตของมนุษย์ นั่นคือ Fast Fashion ซึ่งหมายถึง เสื้อผ้าที่ผลิตด้วยต้นทุนที่ต่ำ ราคาถูก ผลิตครั้งละเยอะ ๆ เพราะมีความต้องการสูงแต่ไม่ได้มีคุณภาพ สวมใส่ได้แค่ไม่กี่ครั้งก็ต้องทิ้ง ปัญหานี้สร้างผลกระทบไว้มากมายหลายด้านและมีวิธีการแก้ไขที่ยาก แต่ล่าสุดหลังจากการท่องอินเทอร์เน็ตมานานก็ได้เจอวิธีการแก้ปัญหา Fast Fashion แบบ Advance มากขึ้นแบบที่ต้องใช้ความรู้ทางวิศวกรรมเคมีแล้วด้วยวิธีที่ว่าเกิดขึ้นจากไอเดียของคุณ Aida Rafat วิศวกรเคมีชาวกาตาร์ ซึ่งเป็น CEO และผู้ก่อตั้งของบริษัท DyeRecycle บริษัทรักษ์สิ่งแวดล้อมที่สร้างนวัตกรรมเปลี่ยนสีย้อมผ้าและเส้นใยสังเคราะห์ให้กลับมาใช้ได้อีกครั้ง โดยมีแนวคิดได้มาจากที่เธอสำเร็จการศึกษาปริญญาเอกในด้านที่เกี่ยวข้องกับชีวมวลและพลังงานชีวภาพ แล้วในช่วงเวลานั้นเธอได้ดูสารคดีเกี่ยวกับผลกระทบของ Fast Fashion ทั้งสองอย่างอาจดูไม่ใกล้เคียงกันเลยแต่ทางตัวคุณ Aida เองอยากที่จะพัฒนาเทคโนโลยีทางเคมีแบบใหม่ที่สามารถแก้ไขปัญหานี้ให้ได้โดยความคาดหวังของบริษัทนี้คือต้องการเพิ่มทางเลือกที่ยั่งยืนให้กับเศษเสื้อผ้าแทนที่จะไปจบที่การฝังกลบซึ่งมีปัญหาอีกหลายข้อตามมาไม่ว่าจะเป็นสารคดีที่จะเจือปนไปทั้งดินและแหล่งน้ำรอบข้าง ขยะที่กองสูงเทียบเท่าภูเขาส่งกลิ่นมลพิษทางอากาศอีก DyeRecycle จึงอยากเป็นอีกช่องทางหนึ่งของขยะพวกนี้ พวกเขาจะนำเศษผ้ามาคัดแยกเป็นชนิด ๆ ตามชนิดของสีย้อมและชนิดผ้าผ่านกระบวนการทางเคมีเพื่อได้สีย้อมมาที่ผ่านการรีไซเคิลสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีกครั้ง กรรมวิธีนี้จะช่วยลดปริมาณน้ำที่ใช้ในการย้อมสิ่งทอได้ถึง 60% เมื่อเทียบกับการย้อมสีแบบใช้น้ำทั่วไป และลดการปล่อย Carbon Footprint ได้ถึง 0.95 ตันต่อสิ่งทอที่ผ่านการย้อมสี 1 ตันเลยทีเดียอย่างไรก็ตามส่วนตัวคิดว่าเป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุและถ้าไม่ได้ความร่วมมือจากแบรนด์หรือโรงงานแฟชั่นต่าง ๆ การที่จะนำผ้าที่เหลืออยู่มารีไซเคิลก็ยังคงทำได้ยากเนื่องจากการจะผลิตเสื้อผ้าได้นั้นจะต้องประกอบได้ด้วยเส้นใยที่แตกต่าง หลายคนคงคิดว่าที่ฉลากผลิตภัณฑ์ก็มีรายละเอียดปรากฏ แต่ข้อมูลที่ต้องการมีมากกว่านี้ ต้องทราบทั้งชนิดสีย้อม ชื่อสีย้อม สารเคมีทั้งหมดที่ใช้ ทั้งหมดนี้จะช่วยให้การคัดแยกขยะดีขึ้นรวมถึงการรีไซเคิลด้วย วิธีการรีไซเคิลสีย้อมนี้อาจจะดูเป็นวิธีที่ยุ่งยาก ใช้ต้นทุนเยอะ แต่ก็เป็นอีกก้าวหนึ่งในการช่วยโลกที่กำลังอ่อนแอเต็มที ดังนั้นหากเราไม่สามารถทำถึงขั้นนี้ได้ ก็ยังคงมีอีกหลากวิธีที่จะช่วยลดปัญหา Fast Fashion ได้ เช่น ถ้าไม่จำเป็นต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่ก็ควรใช้ที่มีอยู่ก่อน ,ลดการสนับสนุนแบรนด์ Fast Fashion หรือเป็นการซื้อเสื้อผ้ามือสองแทนแต่ก็ต้องในปริมาณที่เหมาะสม เป็นต้น Fast Fashion คงจะหายไปไม่ได้อย่างง่ายดาย นอกจากความร่วมมือของผู้บริโภคแล้ว ผู้ผลิตก็เป็นปัจจัยใหญ่ของปัญหานี้ จำเป็นต้องออกมาตรการต่าง ๆ ที่ช่วยลดปัญหานี้ด้วยเพื่อในโลกนี้เป็นที่อยู่ของเหล่าสรรพสัตว์และมนุษย์ไปอีกนาน ๆ เพื่อน ๆ คนไหนมีวิธีลดปัญหา Fast Fashion ก็มาแชร์กันได้เลยหากต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าสู่เว็บไซต์ของ DyeRecycle ได้ที่ https://www.dyerecycle.com/ภาพปก : Anna Anatol จาก Adobe Stockภาพที่ 1 : sarymsakov.com จาก Adobe Stockภาพที่ 2 : roostler จาก Adobe Stockภาพที่ 3 : BillionPhotos.com จาก Adobe Stockภาพที่ 4 : Sondem จาก Adobe Stockที่มา Aida Rafat. The Chemical Engineer Combatting Fast Fashion with their Startup. : https://www.gefcic.com/insights/aida-rafat-combatting-fast-fashion-with-chemical-engineeringClimate Launchpad: From inspired ideas to ground-breaking, planet-saving innovations : https://granthaminstitute.com/2020/08/13/climate-launchpad-from-inspired-ideas-to-ground-breaking-planet-saving-innovations/DyeRecycel : https://www.dyerecycle.com/ENGINEERING OUT FASHION WASTE : https://www.imeche.org/policy-and-press/reports/detail/engineering-out-fashion-wasteImperial student wins global engineering competition with sustainable technology : https://www.imperial.ac.uk/news/196193/imperial-student-wins-global-engineering-competition/อัปเดตความรู้ใหม่ ๆ อีกมากมาย โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !