ช่วงปีใหม่ที่บ้านผมมักจะได้กระเช้าของขวัญเป็นจำนวนมากและของขวัญยอดนิยมในตะกร้าพวกนั้นก็คงจะเป็นพาสต้าแห้งรูปทรงต่างๆไม่ว่าจะเป็น spaghetti penne macaroni เมื่อก่อนผมคงจะทิ้งพาสต้าพวกนั้นไว้ในครัวจนหมดอายุหรือไม่ก็เอาไปจับฉลากให้คนอื่นต่อด้วยความที่ที่บ้านผมไม่ชอบกินอาหารฝรั่ง จนเมื่อไม่นานมานี้ผมเริ่มทำอาหารให้ที่บ้านกินมากขึ้นเลยได้มีโอกาสใช้พาสต้าแห้งพวกนี้มาทำเมนูต่างๆมากขึ้น วันนี้ผมจะมาสอนวิธีทำเมนูพาสต้าง่ายๆที่ผมชอบกินให้เพื่อนๆกัน credit : congerdesign / pixabay ก่อนจะเลือกว่าจะทำเมนูอะไรเราควรดูว่าเรามีพาสต้าชนิดไดบ้าง พาสต้ามีรูปทรงนับร้อยผมคงจะอธิบายทุกชนิดไม่ไหว แต่เวลาเลือกเมนูผมจะมีหลักการง่ายๆคือ พาสต้าเส้นตรงเช่น spaghetti fettucine capellini ใช้ผัดหรือราดซอสแดงหรือครีมซอสก็ได้ พาสต้าขดสั้นๆเช่น macaroni penne rotini เหมาะกับการราดซอสแดงเช่นซอสมะเขือเทศเพราะความหยักของเส้นจะทำให้ซอสเกาะได้มากแต่ไม่เหมาะกับการราดซอสครีมเพราะซอสจะติดมากเกินไปทำให้เลี่ยนได้ ทีนี้เราก็ต้องมาเลือกเมนูกัน ผมจะแบ่งเมนูเป็นสามประเภทใหญ่ๆตามขั้นตอนหลักๆ ซึ่งในสามประเภทนี้เพื่อนๆสามารถลองปรับเปลี่ยนวัตถุดิบตามที่อยากกินรังสรรค์เป็นเมนูของตัวเองได้เลย ประเภทแรกคือผัด เมนูประเภทนี้ใช้เวลาทำเร็วที่สุดเพราะไม่ต้องเคี่ยวซอส ส่วนใหญ่สามารถทำเสร็จได้ภายในสิบนาที ประเภทที่สองคือซอสครีม เมนูเหล่านี้จำเป็นต้องใช้ครีมถ้าเพื่อนๆไม่มีสามารถใช้นมแทนได้แต่ผมไม่แนะนำเพราะความข้นของซอสจะเปลี่ยนไป เมนูเหล่านี้ใช้เวลาเตรียมประมานครึ่งชั่วโมง เมนูแบบสุดท้ายคือซอสแดง ที่เรียกซอสแดงเพราะตัวอย่างที่หลายคนรู้จักกันดีคือซอสมะเขือเทศ ซอสพวกนี้ต้องผ่านการเคี่ยวเป็นเวลานานและเหมาะสำหรับการทำทีละเยอะๆ credit : RitaE / pixabay พาสต้าผัดเป็นเมนูที่ทำง่ายที่สุดหลักการพื้นฐานคือผัดวัตถุดิบทุกอย่างให้เป็นซอสน้ำมันแล้วค่อยใส่เส้นพาสต้าลวกสุกที่ร้อนๆลงไปคุลก เมนูที่ทุกคนรู้จักก็คงจะเป็นพาสต้าขี้เมาแต่เมนูที่ผมจะมาสอนทำวันนี้คือพาสต้าcarbonara เพื่อนๆอาจจะงงว่าcarbonaraเป็นซอสครีมไม่ใช่หรือ แต่ความเป็นจริงแล้วที่เพื่อนๆรู้จักในนามcarbonaraในไทยมันคือalfredoหรือซอสครีมชีสนั่นเอง carbonaraมีวัตถุดิบอยู่สามอย่างเท่านั้นคือ ไข่ ชีส และเบคอน(จริงๆต้องใช้เบคอนอิตาลีที่เรียกว่าguancialeแต่ในไทยหาซื้อยากใช้เบคอนธรรมดาก็ได้) ชีสที่ใช้ควรเป็นชีสที่ละลายง่ายๆเช่น Parmigiano Reggianoหรือ Pecorino Romano เราเริ่มด้วยการต้มเส้นพาสต้าซึ่งควรใช้เวลาไม่เกินสิบนาที(เวลาที่ต้มพอดีหรือ al denteมักจะเขียนอยู่ที่ข้างกล่องพาสต้า) ถ้าเพื่อนๆใช้เส้นพาสต้าสดเวลาต้มจะเหลือเพียงสองถึงสามนาที คนอิตาลีพูดเสมอว่าน้ำที่ต้มพาสต้าควรเค็มเท่ากับทะเลเมดิเตอเรเนียน ระหว่างที่ต้มเส้นอยู่ให้เริ่มปิ้งเบคอนโดยเริ่มจากกระทะเย็นๆและใช้ไฟอ่อนเพื่อให้น้ำมันจากเบคอนออกมามากที่สุด เมื่อเส้นสุกดับไฟใต้กระทะเบคอนแล้วนำเส้นลงมาคลุกกับน้ำมันเบคอน ราดไข่ที่ตีแล้วระหว่างที่เส้นยังร้อนอยู่โดยคนอยู่เสมอพยายามให้ไข่เคลือบเส้นทุกเส้นและระวังไม่ให้ไข่แข็งตัวเป็นก้อน ราดชีสคลุกอีกครั้งให้ชีสละลายเคลือบเส้นทั้งหมด ถ้าพาสต้ายังดูแห้งไปราดน้ำที่ใช้ลวกพาสต้าแล้วคลุกเพิ่มได้ เท่านี้ก็เสร็จแล้ว พาสต้าcarbonara credit : forstefany / pixabay ต่อไปผมจะแนะนำวิธีทำครีมซอส ส่วนประกอบหลักๆจะมีผักเนื้อแข็งเช่น หัวหอม กระเทียม แครอท หรือแม้กระทั่งหอมแดง ผักเนื้ออ่อนหรือเนื้อสัตว์(ตรงนี้จะเป็นส่วนประกอบหลักของซอสเช่นถ้าจะทำซอสครีมฟักทองส่วนประกอบตรงนี้ก็จะเป็นฟักทอง) ต่อไปคือน้ำสต๊อคหรือน้ำซุปถ้าเป็นซอสที่ใส่เนื้อสัตว์ควรใช้ซุปกระดูกหมูหรือไก่แต่ถ้าเป็นซอสผักควรใช้น้ำสต๊อคผัก(น้ำสต๊อคควรใช้แบบยังไม่ปรุงรสเพื่อไม่ให้ซอสเค็มเกินไป) ในซอสอาจใช้ไวน์ขาวด้วยได้แต่อันนี้ไม่บังคับ ส่วนประกอบสุดท้ายที่สำคัญที่สุดคือครีมนั่นเอง ครีมควรใช้cooking creamแต่ถ้าหาซื้อไม่ได้whipping creamก็ใช้แทนได้เหมือนกัน(อย่าใช้แบบที่ตีเป็นโฟมมาแล้วก็พอ) เมนูที่จะมาสอนในวันนี้คือซอสครีมเห็ด วัตถุดิบที่จะใช้คือ หัวหอม เห็ดแชมปิญอง ไวน์ขาว น้ำสต๊อคไก่ ครีม ผักเครื่องปรุงเช่น ใบไทม์ ออริกาโน ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรผักพวกนี้เป็นแค่เครื่องปรุง เราเริ่มด้วยการผัดหัวหอมซอยละเอียด(ปั่นก็ได้ถ้าขี้เกียจส่วนตัวผมชอบหั่นเพราะคุมให้ขนาดท่ากันทุกชิ้นได้)ในน้ำมัน ถ้ามีน้ำมันมะกอกจะดีมากแต่น้ำมันพืชธรรมดาก็ใช้ได้ ใส้น้ำมันไม่ต้องเยอะมากเอาแค่ให้เคลือบก้นกระทะมิดก็พอ หัวหอมผมมักจะใส่ครึ่งหัวต่อคนทานหนึ่งคน พอผัดจนหัวหอมเริ่มใสแต่ยังไม่มีสีน้ำตาลให้ใส่เห็ดที่หั่นเป็นแว่นๆลงไป อย่าประหยัดเห็ดเพราะเมื่อโดนความร้อนเห็ดจะหดเหลือเกือบหนึ่งในสี่ของขนาดเดิม เห็ดโดยทั่วไปจะอมน้ำไว้เยอะมากดังนั้นเราต้องผัดน้ำพวกนี้ออกให้หมดโดยฟังเสียงเมื่อคลุกแล้วไม่มีเสียงฟู่ๆของไอน้ำมีแต่เสียงฉ่าเหมือนการทอดก็แสดงว่าน้ำออกมาจากเห็ดหมดแล้วพอถึงตรงนี้ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยเพื่อให้ตัวเห็ดมีรสชาติ ถ้ามีผักเครื่องปรุงก็ใส่ตอนนี้ด้วยเลยเสร็จแล้วราดด้วยไวน์ขาวให้พอท่วมตั้งไฟกลางรอให้กลิ่นของแอลกอฮอลล์ระเหยออกจนหมด แล้วเติมน้ำสต๊อคลงไปให้ประมาณปริมาตรของซอสที่อยากได้ถ้าไม่ใช้ไวน์ขาวก็ข้ามมาขั้นนี้ได้เลยคนเล็กน้อยแล้วปล่อยให้ซอสเดือและระเหยจนเหลือประมาณครึ่งนึงจากนั้นใช้ไฟต่ำเติมครีมจนได้ปริมาตรเท่าเดิมคนให้เข้ากันรอจนเริ่มเดือดมีฟองขึ้นก็พร้อมเสิร์ฟโดยการราดบนพาสต้าที่ลวกแล้วแค่นั้นเอง credit : Free-Photos / pixabay ซอสแดงจะคล้ายๆซอสครีมแต่ต่างกันที่น้ำซอสส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อผักหรือเนื้อสัตว์ไม่ใช่น้ำสต๊อคกับครีมส่วนประกอบก็จะคล้ายๆซอสครีมแต่ไม่มีครีมและน้ำสต๊อคและไวน์ขาวอาจใช้ไวน์แดงแทนได้ ซอสแดงแต่ละเมนูมีวิธีทำค่อนข้างต่างกันผมคงจะพูดถึงโดยรวมๆไม่ได้ดังนั้นวันนี้ผมจะมาสอนทำซอสมะเขือเทศแบบง่ายๆแทน วัตถุดิมีดังนี้ หัวหอม(ครึ่งหัวต่อคน) มะเขือเทศกระป๋อง(ปลอกเปลือกแล้ว)(หนึ่งกระป่องกินได้สองถึงสามคน) tomato paste(หนึ่งช้อนต่อคน) หมูสับ(แล้วแต่ จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้) ไวน์ขาว bay leaf เราจะเริ่มเหมือนซอสครีมคือผัดหัวหอมซอยจนใสจากนั้นใส่tomato pasteผัดจนเริ่มมีกลิ่นไหม้ ถ้าใส่หมูสับด้วยก็ใส่พร้อมtomato pasteผัดให้พอมีสีน้ำตาลทั่วๆ พอมีกลิ่นไหม้ให้ราดไวน์ขาวทันทีแล้วใช้ตะหลิวขูดก้นหม้อขึ้นมา ถ้าไม่ใช้ไวน์ขาวใช้น้ำเปล่าแทนได้ พอกลิ่นแอลกอฮอลล์ระเหยจนหมดก็ใส่มะเขือเทศกระป๋องลงไปใช้ตะหลิวบี้ๆนิดหน่อยใส้bay leafลงไปรอจนเริ่มมีฟองเดือดก็หรี่ไฟแล้วปล่อยให้เดือดนิดๆไปประมาณสองถึงสามชั่วโมง(ถ้าทำปริมาณน้อยๆอาจใช้เวลาแค่ชั่วโมงเดียว) เราอยากต้มให้ซอสนี้ข้นจนเมื่อเราเอาช้อนจุ่มลงไปแล้วซอสเคลือบช้อนขึ้นมาด้วยและถ้าเอานิ้วเช็ดช้อนสามารถเห็นซอสแหวกเป็นเส้นได้ชัดเจน พอได้ความข้นเท่านั้นซอสก็พร้อมทานแล้ว ถ้าเพื่อนๆอยากได้ซอสที่เนียนๆก็สามารถนำไปใส่เครื่องปั่นได้ยกเว้นใส่หมูสับห้ามนำไปใส่เครื่องปั่นส่วนตัวผมชอบแบบไม่ใส่หมูสับแต่ก็ไม่ปั่นด้วย เห็นมั้ยครับว่าพาสต้าไม่ใช่อะไรที่ทำยากเลยทั้งยังทำได้หลายแบบอีกด้วย ทีนี้ถ้าได้พาสต้าแห้งเป็นของขวัญก็ไม่ต้องเอาไปให้คนอื่นจับฉลากกันแล้วนะครับ creditภาพปก Nile / pixabay หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !