ต้องบอกก่อนว่าการที่จะเข้าถึงอะไรหรือเข้าใจอะไรได้นั้นต้องมีอารมณ์ที่อินไปกับมัน เช่นกันกับบทความนี้ หากใช้ความรู้สึกนั่งอ่านมันเงียบๆ ที่เงียบๆคนเดียว ก็อาจจะเข้าถึงความรู้สึกของผู้เขียนที่กำลังจะสื่อผ่านตัวหนังสือนี้อยู่ก็ได้ เอาเข้าจริงๆบทความนี้หรือบทความบางเรื่องที่เคยเขียนมา ก็ล้วนมาจากความรู้สึกของผู้เขียนเองในช่วงเวลาขณะนั้น มันเป็นไดอารี่ที่อาจจะไปตรงใจใครคนหนึ่งที่กำลังอ่านอยู่ตอนนี้ก็ได้คืนนี้ในห้องแถวหลังหนึ่ง ข้างห้องต่างฉลองร้องเพลงพบปะสังสรรค์กันกับเพื่อนๆอย่างสนุกสนานและครึกครื้น แต่กลับกันภายในห้อง 1115 ที่ฉันกำลังอยู่กลับเงียบสงัด...เห้อ(ถอนหายใจกับตัวเอง) ฉันเชื่อว่าหลายคนก็เคยเป็นแบบฉัน จะว่ามีความสุขก็ไม่ใช่ ทุกข์ก็ไม่เชิง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังเป็นอะไรหรือรู้สึกอะไรอยู่ รวมไปถึง...ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะต้องเจอกับอะไรหรือทำอะไรบ้าง ชีวิตเหมือนล่องลอยไร้ความคิด เหมือนมีแค่ตัวเปล่าๆเลย...ว่าไหม?มันยากที่ใครหลายคนจะเข้าใจความรู้สึกนี้ วันอธิบายอย่างชัดเจนไม่ได้รู้เพียงแต่ว่า...มีเพียงตัวฉันเองที่อยู่ในห้องสี่เหลี่ยมนี้อย่างโดดเดี่ยว เพื่อนๆคอยทักmessageมาหา ชวนออกไปเที่ยว ไปนั่นนี่นู่น แต่สุดท้ายการออกไปพบปะผู้คนหรือออกจากห้องสี่เหลี่ยมนี้ไม่ตอบโจทย์กับสภาวะที่ฉันกำลังเผชิญอยู่เลย จะว่าไปแล้วฟังดูก็เหมือนเอาแต่ใจอยู่นะ แต่ก็นั่นแหละมันอธิบายไม่ได้ ฉันชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้...แต่บางครั้งก็ไม่ชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้ แล้วนี่ตกลงว่า ฉันเป็นใครในตัวฉัน?ทุกครั้งที่ฉันเป็นแบบนี้ฉันมักจะมีวิธีแก้คือ...นั่งเงียบๆ ฟังเพลงเศร้า แล้วปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาโดยที่ไม่ต้องกังวลเลยว่าใบหน้าจะเป็นยังไง หรือแม้แต่วิธีนี้...วิธีที่ฉันรู้สึกยังไงก็เขียนออกมาเป็นตัวหนังสือ อย่างที่กำลังทำอยู่ตอนนี้ไงล่ะ เขียนอะไรก็ได้ไปเรื่อยๆอยากทำอะไรก็ทำ เคยเจอประโยคหนึ่งในหนังสือที่อ่านเนื้อหาบอกเอาไว้ประมาณว่า "หากทุกข์ใจหนักใจ หรือมีเรื่องให้กังวลใจ ให้เขียนความกังวลใจนั้นลงในกระดาษ 1 แผ่น เสร็จแล้วให้ขยำกระดาษแล้วหย่อนลงไปในกล่องสี่เหลี่ยม"ฟังดูแล้วตลกมาก! แต่ฉันกำลังทำมันอยู่ ฉันเปรียบตัวฉันเป็นความกังวลใจแล้วหย่อนตัวเองลงในห้องสี่เหลี่ยมที่อยู่ตอนนี้ ฉันค้นพบว่า ความกังวลใจ ความสับสน เมื่ออยู่ในที่ที่เงียบสงัดไม่มีอะไรรบกวน จะทำให้มีเวลาได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น คุยกับตัวเองมากขึ้น เธอลองคิดดูสิว่า...ในหนึ่งวันนี้มีอะไรที่ทำให้เธอไม่สบายใจ เธอวิ่งตามความรู้สึกหรือความต้องการของใครมากไปหรือเปล่า? ผลลัพธ์คือ ในหนึ่งวันนั้นเธอมีเรื่องของคนอื่นมากกว่าเรื่องของตัวเองซะอีก และนี่หรือเปล่า...ที่ทำให้เราไม่รู้ว่าเรากำลังเป็นใคร?อยากจะบอกว่า...เขียนมาถึงคอลัมน์ใกล้จะสุดท้าย ฉันก็เพิ่งจะเข้าใจตัวเองและคลายความกังวลใจไปได้บ้างแล้ว ความจริงแล้วเราก็ควรต้องมีชีวิตหรือตัวตนของเราจริงๆบ้างนะ อยากจะยิ้มก็ยิ้มกว้างๆ หัวเราะก็ให้สุดๆ เมื่อครั้งจะร้องไห้ก็ปล่อยโฮออกมาให้หน้ายู่ยี่ไปเลย ไม่ต้องสนใจหรอกว่าคนอื่นจะมองเรายังไงหากไม่เป็นการทำให้ใครเดือดร้อน ฉันว่าทุกคนก็ย่อมเป็นตัวของตัวเองได้มากขึ้น ถือคู่ควรมันนะ...กล้าพูดคำว่า"ไม่โอเค"ในขณะที่ไม่โอเคจริงๆ ไม่ต้องแกล้งทำหรือพูดว่า"ตัวเองโอเค"เพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจก็ได้ และสุดท้ายกลับเป็นเราเองที่มานั่งกลุ้มใจเป็นตัวเองในแบบที่อยากเป็นบ้างเถอะ เสียเวลามาตั้งเท่าไหร่แล้วกับการที่ไม่ได้ทำตามใจตัวเองอย่างที่หวังซะที แล้วเราจะสามารถอยู่กับตัวเองได้ทำอะไรเองได้มากกว่าเดิม ไม่ต้องรอดูทิศทางลมของใครว่าควรจะไปทางไหน หากคนอื่นเลี้ยวซ้ายเธอจงเลี้ยวขวาหากคิดว่าทางที่เธอเลือกจะทำให้เธอสบายใจโดยที่ไม่ต้องมาแบกรับความรู้สึกใครไว้มากมายขนาดนั้น ไม่ได้บอกว่าอยากแคร์ใครนะ...แต่เธออย่าลืมว่า วันนี้ได้ทำอะไรให้ตัวเองมีความสุขบ้างหรือยัง?สูญเสียเวลามาตั้งเท่าไหร่ นี่เรากำลังเป็นใครในตัวเรา นี่คือความสุข ความพอใจที่เลือกจริงๆหรือ อย่าขาดความเป็นตัวเองไปมากกว่านี้เลยเขียนโดย: GeschenK.ภาพปกโดย: ภาพโดย Anemone123 จาก Pixabay และ โดย GeschenK.ภาพประกอบ 1 ภาพโดย StockSnap จาก Pixabayภาพประกอบ 2 ภาพโดย Gerd Altmann จาก Pixabay ภาพประกอบ 3 ภาพโดย StockSnap จาก Pixabay ภาพประกอบ 4 ภาพโดย Ryan McGuire จาก Pixabay ภาพประกอบ 5 ภาพโดย Foundry Co จาก Pixabay เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !