ครอบครัว...จำต้องมีการจัดเรื่องราวไว้ตั้งแต่แรกเริ่มที่หญิงชายรักกันนั่นทีเดียว ... รักโดยไม่เลือกนั้น น่าจะออกไปสารบบโดยเด็ดขาด เนื่องจากโอกาสแก้ตัวใหม่นับวันจะหายาก อย่างเขา...อย่างหล่อนนี่มิใช่หรือ ที่ต้องมาประดักประเดิดเป็นพ่อม่ายแม่ม่ายอย่างไม่เข้าเรื่องเลยจนนิด เส้นทางข้างหน้าหรือก็ยังต้องคิดหนัก... เมื่อเอ่ยถึงชื่อ “กฤษณา อโศกสิน” เชื่อแน่ว่าในแวดวงนักอ่าน คงมีอยู่เพียงน้อยคนที่จะไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามดังกล่าวนี้ เพราะนี่คือชื่อนามปากกาของ “ราชินีแห่งสวนอักษร” ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ นักเขียนรางวัลซีไรต์ และเจ้าของรางวัล “นักเขียนหญิงอมตะ” คนแรก ที่สร้างสรรค์ผลงานทางด้านวรรณกรรมออกมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลายาวนานกว่า 70 ปี ผ่านผลงานการประพันธ์มากกว่า 200 ผลงาน ไม่ว่าจะเป็นผลงานนวนิยายที่ได้รับความนิยม อาทิ จำหลักไว้ในแผ่นดิน เวียงแว่นฟ้า หนึ่งฟ้าดินเดียว ขุนหอคำ น้ำเล่นไฟ ข้ามสีทันดร พญาไร้ใบ ตะเกียงแก้ว ความมืดแห่งคูหาทอง ลายแทงในถ้ำแก้ว กาฬปักษี ฯลฯ หรือผลงานนวนิยายที่ได้นำไปสร้างสรรค์ต่อยอดผลิตเป็นบทละครโทรทัศน์ติดอันดับละครยอดนิยม เช่น เพลิงบุญ น้ำผึ้งขม พฤกษาสวาท เลื่อมสลับลาย น้ำเซาะทราย สวรรค์เบี่ยง เป็นต้น นอกจาก กฤษณา อโศกสิน จะเป็นต้นแบบและเป็นนักเขียนชั้นครูให้กับนักเขียนรุ่นต่อมาอย่างต่อเนื่องและยาวนานแล้ว ผลงานนวนิยายของเธอยังได้รับการคัดเลือกจากทีมผู้จัดละครสังกัดค่ายต่าง ๆ เพื่อนำไปสร้างสรรค์เป็นละครโทรทัศน์เสมอมา โดยเฉพาะละครในสังกัดการดูแลของ พี่ฉอด - สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา เช่น สามีสีทอง (ดัดแปลงจากบทประพันธ์เรื่อง ภมร) เพลิงนาง (ดัดแปลงจากบทประพันธ์เรื่อง เนื้อนาง) ฝ้ายแกมแพร เนื้อใน ละครชุด “เพลิงกฤษณา” อย่าง ลายหงส์ ปีกทอง ป่ากามเทพ หรือละครที่กำลังออกอากาศและได้รับกระแสตอบรับจากแฟนละครเป็นอย่างดีในขณะนี้อย่าง ตะวันตกดิน กระเช้าสีดา รวมไปจนถึงละครที่กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการสร้างอย่าง รากแก้ว เมียหลวง เป็นต้น ซึ่งถึงแม้ว่าละครหลายต่อหลายเรื่องที่ถูกนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์จะนำมาจากบทประพันธ์ที่ กฤษณา อโศกสิน ได้เขียนขึ้นไว้นานแล้วก็ตามที แต่ทั้งผู้อ่านนวนิยายและผู้ชมละครโทรทัศน์กลับยังเห็นพ้องตรงกันว่าเรื่องราวของตัวละครเหล่านั้นในบทประพันธ์ของ กฤษณา อโศกสิน กลับไม่ได้ล้าหลังไปจากยุคสมัยปัจจุบันเลย ในละครเรื่องล่าสุดซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นจากบทประพันธ์ของนักเขียนชั้นครูผู้นี้อย่าง “เพลงบินใบงิ้ว” ภายใต้การดูแลการผลิตของพี่ฉอด ที่กำลังจะได้ฤกษ์ออกอากาศในเร็ว ๆ นี้ก็เช่นกัน เพลงบินใบงิ้ว เป็นนวนิยายที่ได้รับรางวัลชมเชย จากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ ประจำปี 2535 บอกเล่าเรื่องราวการแต่งงานที่ไม่ถูกคู่ของ จอมทอง เปลแก้ว แสงนวล ยวนตา และ แนวไพร ที่โยงใย ยุ่งยาก และซับซ้อน เมื่อพระเอกตัวร้ายของเรื่องผู้ยึดอาชีพทนายความอย่าง จอมทอง ได้เริ่มบทบาทของเขาด้วยการแต่งงานกับ เปลแก้ว - ลูกสาวของนางเกษรเศรษฐีนีประจำจังหวัดผู้เป็นเพื่อนสนิทของแม่ ทั้ง ๆ ที่จอมทองเองก็มี แสงนวล เป็นเมียอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนแต่งงาน ในขณะที่พระเอกผู้แสนดีอย่าง แนวไพร ก็กำลังต้องการหาทนายความสักคนไว้เป็นที่ปรึกษาในเรื่องที่เขากำลังคิดจะหย่าขาดจาก ยวนตา ภรรยาของเขาเองที่กำลังแอบคบหากันอย่างไม่ลับกับ แจกัน กิ๊กหนุ่มวัยรุ่นที่เธอพึงใจโดยไม่เกี่ยงงอนเรื่องอายุที่ห่างกัน ... ซึ่งแน่นอนที่สุด จอมทองคือทนายความคนนั้นของแนวไพร จริงอยู่ที่ว่า เพลงบินใบงิ้ว มีพระเอกนางเอกตามแบบฉบับของนวนิยายทั่วไป นั่นก็คือ แนวไพร และ เปลแก้ว แต่ตัวละครที่จะมาร่วมขับขาน ‘เพลงบินใบงิ้ว’ ให้สนุกสนานและมีสีสันนั้นก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจากตัวละครหลักตัวอื่น ๆ ที่กล่าวมา รวมไปจนถึงตัวละครประกอบตัวอื่น ๆ อย่างพ่อแม่ของยวนตา นางเกษรมารดาของเปลแก้ว กัทลีลูกผู้พี่ของเปลแก้ว รวมไปถึงแม่ของจอมทองเองด้วย เพราะถึงแม้ว่าผู้ประพันธ์จะสร้างความขันขื่นให้เราแอบอมยิ้มได้ในตอนที่แนวไพรมาปรึกษาทนายจอมทอง ในขณะที่ทนายจอมทองเองก็กำลังย่ำแย่อยู่เหมือนกันเพราะกำลังตกอยู่ในระหว่างการแวบไปมาระหว่างบ้านใหญ่กับบ้านเล็ก แต่ผู้ประพันธ์ก็ยังแอบฉายภาพบางมุมของผู้ชายอย่างแนวไพรให้เราได้เห็นผ่านความคิดเห็นของจอมทอง ว่าเพราะเหตุใดผู้ชายดี ๆ อย่างแนวไพรลูกความของเขาคนนี้ ถึงจับเมียของตัวเองเอาไว้ไม่อยู่ “ผมว่า...งานดูดเอาความแช่มชื่นไปจากชีวิตคุณหมดแล้วหมดเลย ไม่มีโรแมนติกเลย ผู้หญิงบางคนขาดโรแมนติกก็เหมือนขาดอาหารจานใหญ่ที่ให้ทั้งโปรตีนและไขมันนะฮะ” ในขณะที่ผู้หญิงเปรี้ยว เฮี้ยว แก่น ใจเร็วด่วนได้ รักง่ายหน่ายเร็ว แบบคนในยุค ‘สารสนเท่ห์’ ที่มองเผิน ๆ เหมือนจะไม่มีดีอะไรเลยอย่าง ยวนตา แต่ในวันหนึ่งที่เธอได้โคจรมาพบกับคนซื่อ ๆ ป่วย ๆ อ่อนต่อโลกอย่าง เปลแก้ว สาวเปรี้ยวอย่างยวนตากลับชื่นชอบในความซื่อ ๆ ง่าย ๆ ของอีกฝ่าย “...คุณเคยรักใครมาก่อนสามีคุณหรือเปล่า หรือจะรักพร้อม ๆ กับสามี รักทีหลังอะไรก็ได้ เคยไหม... เราจะพูดกันไม่เข้าใจก็ตรงนี้แหละ ตรงที่คุณดูอ่อนโลกเหลือเกินนี่แหละ” แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเปลแก้วและแนวไพรได้รู้จักกัน อีกทั้งได้คอยช่วยเหลือเกื้อกูลกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตอนที่เปลแก้วเองต้องล้มป่วยในคราวที่แสงนวลตั้งท้องและบุกมาเยาะเย้ยเมียหลวงอย่างเธอถึงที่ คนอ่อนต่อโลกอย่าง เปลแก้ว ก็ยังพอมองออกว่าคู่สามีภรรยาอย่างแนวไพรกับยวนตานั้นช่างเป็นสองสิ่งที่ผิดแผกแตกต่างผิดร่องผิดเกลียวกันเหลือเกิน ...ไม่ต่างกันกับคู่ของเธอกับจอมทอง ดังนั้นต่อให้จะเป็นนวนิยายชีวิตครอบครัวที่หนักหน่วง บีบเค้นชะตากรรมของตัวละครมากเพียงใด แน่นอนว่า เพลงบินใบงิ้ว ก็ต้องมีบทโรแมนติกระหว่างคู่พระนาง แนวไพร-เปลแก้ว อยู่บ้าง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากพอสมควร ว่าจะทำอย่างไรให้พระเอกผู้แสนดีของเรื่อง(ที่เป็นสามีของคนอื่น)กับนางเอกที่แสนดีของเรื่อง(ผู้เป็นภรรยาของคนอื่น)เช่นกัน มาร่วมสร้างบรรยากาศโรแมนติกด้วยกันภายในเรื่องได้ โดยที่เราซึ่งเป็นผู้เฝ้ามองอยู่ไม่รู้สึกว่าเขาทั้งสองคนนั้นทำผิดศีลธรรม ซึ่ง กฤษณา อโศกสิน ทำได้ และทำออกมาได้ดีมาก ๆ เสียด้วย เพลงบินใบงิ้ว ได้รับการตีพิมพ์เป็นตอน ๆ ในนิตยสารสกุลไทยราวปี พ.ศ. 2532-2534 ได้รับการตีพิมพ์รวมเล่มครั้งแรกในปี พ.ศ. 2534 และได้รับรางวัลจากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติในปีนั้นเอง ด้วยเป็นนวนิยายที่สะท้อนถึงปัญหาการหย่าร้างในสังคมสมัยใหม่ ที่ไม่จำเป็นต้องมีจุดจบด้วยการแยกทางกันเสมอไป กล่าวคือบางคู่อาจคงสภาพความเป็นสามีภรรยาทางนิตินัยเอาไว้ แต่ในทางพฤตินัยนั้นมีสิทธิ์ที่จะคบหาใครอื่นได้อย่างพึงพอใจ ในขณะที่บางคู่อาจต้องทนอยู่กันไปอย่างกล้ำกลืนฝืนทน ในขณะเดียวกันก็ยังพยายามนำเสนอข้อสังเกตอีกประการหนึ่งด้วยว่าในสังคมไทยนั้น เมื่อฝ่ายชายมีภรรยาน้อยกลับเป็นที่สรรเสริญในหมู่ชายด้วยกัน ถือว่าเป็นเรื่องปกติสามัญ แต่ในทางกลับกันเมื่อผู้หญิงลุกขึ้นมา ‘ทำ’ บ้าง กลับต้องถูกประณามหยามหมิ่นอย่างเลวร้าย บทประพันธ์เรื่อง เพลงบินใบงิ้ว ของ กฤษณา อโศกสิน เคยได้รับการสร้างสรรค์เป็นละครโทรทัศน์ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2536 นำแสดงโดย ไพโรจน์ สังวริบุตร ธีรพงษ์ เหลียวรักวงศ์ และ ชุดาภา จันทเขตต์ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 9 (สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ หรือ เอ็มคอตเอชดี ในปัจจุบัน) และในโอกาสครบรอบ 3 ทศวรรษของนวนิยายเรื่องนี้ เราก็จะมีโอกาสได้รับชม เพลงบินใบงิ้ว กันอีกครั้ง ในเวอร์ชั่นล่าสุดจากทีมงานการผลิตโดย พี่ฉอด - สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา จากค่าย “เช้นจ์ 2561" ซึ่งจะออกอากาศทางช่องอมรินทร์ทีวี เอชดี 34 ในอีกไม่นานเกินรอ โดยเพลงบินใบงิ้ว เวอร์ชั่น 2564 นี้ จะเป็นการโคจรกลับมาพบกันอีกครั้งในรอบ 12 ปีของ พีค ภัทรศยา และ เป้ อารักษ์ ในบทสองสามีภรรยาผู้แตกต่างกันทั้งแนวคิดและระดับของศีลธรรมอย่าง แนวไพร และ ยวนตา ที่จะมาประชันฝีไม้ลายมือกับนักแสดงอิสระป้ายแดงอย่าง วาวาว ณิชชา ในบทของนางเอกผู้น่าสงสารอย่าง “เปลแก้ว” และ กอล์ฟ อนุวัฒน์ ในบทของทนายความจอมเจ้าชู้อย่าง “จอมทอง” พร้อมด้วยทัพนักแสดงมากฝีมืออีกคับคั่ง อาทิ เจนิส เจณิสตา จอย ชลธิชา และพระเอกสายวายอย่าง ซี พฤกษ์ (จากซีรีส์ WHY R U THE SERIES เพราะรักใช่เปล่า และ DoMunDi TV) ที่จะได้กระโดดมาเล่นละครเต็มตัวเป็นครั้งแรกแบบแซ่บถึงพริกถึงขิงในบทของ “แจกัน” กิ๊กหนุ่มน้อยของ “ยวนตา” นั่นเองhttps://www.instagram.com/p/CI65YQ1Blwp/https://www.instagram.com/p/CMi9fathS9E/ https://www.instagram.com/p/CMmq9XLngtd/ขอบคุณรูปภาพ Cover : IG paearak / PIC 1-2 : ภาพโดยผู้เขียน / PIC 3 : IG paearak / PIC 4 : IG peakpattarasaya / PIC 5 : IG peakpattarasaya / PIC 6 : IG paearakเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !