ทุกคนเคยสงสัยกันไหมคะว่า ทำไมเวลาเราไปห้างสรรพสินค้า ไปตามร้านค้าต่าง ๆ หรือดูไลฟ์สดร้านค้าออนไลน์จะต้องมีBackgroundเพลงคลอตลอดเวลา ไม่ได้เปิดเพื่อความสนุกหรือชอบเท่านั้น แต่มันเป็นผลของการตลาดย่อม ๆ ที่แฝงอยู่ในนั้น แล้วทำไมเพลงถึงมีอิทธิพลในการตัดสินใจซื้อสินค้าของผู้บริโภคและเพิ่มยอดขายทางการตลาดได้ จากการศึกษาบทวิเคราะห์ของศาสตราจารย์ Philip Kotler in 1973 ท่านกล่าวไว้ว่า ในบางสถานที่บรรยากาศก็มีอิทธิพลมากกว่าตัวผลิตภัณฑ์ หรือบรรยากาศก็กลายเป็นผลิตภัณฑ์ซะเองให้ลูกค้าได้นั่งผ่อนคลาย เมื่อนั่งนานเข้าก็มีผลต่อการซื้อสินค้ามานั่งทาน เช่นร้านคาเฟ่ ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือร้านStarbuck ที่ขายบรรยากาศให้ลูกค้าได้มานั่งทำงาน พูดคุยพักผ่อนทั่วไป มาประชุมกลุ่มซึ่งตรงนี้ใช้เวลาค่อนข้างนานในการนั่ง เมื่อนั่งนานแล้วเราก็จะต้องซื้อเครื่องดื่ม หรือขนมทานระหว่างนั้น ดังนั้นก็ตรงกับ บทวิเคราะห์ของ ศาสตราจารย์ Philip Kotler in พอดีนอกจากปัจจัยด้านบรรยากาศแล้ว ปัจจัยเรื่องเสียงก็สำคัญไม่แพ้กัน เราจึงแบ่งเป็น 3 หมวดด้วยกันเสียง volume เริ่มต้นที่เสียงหลายคนยังอาจเข้าใจผิดว่าการเปิดเพลงเสียงดังจะทำให้ลูกค้าเข้าร้าน แต่ความจริงแล้วเสียงที่ดังจนเกินไปจะทำให้ลูกค้าอึดอัด และเกิดความรำคาญจนออกจากร้านโดยเร็ว และไม่ได้ซื้ออะไรซึ่งตรงนี้เราได้ไปหาข้อมูลศึกษางานวิจัย ของ “ Cain-Smith & Curnow ในปี 1966 ได้อธิบายไว้ดังนี้พบว่าเมื่อร้านเปิดดนตรีเสียงดัง จะทำให้ผู้ซื้ออยู่ในร้านน้อยลงแต่ถ้าเราเปิดดนตรีคลอเบา ๆ พบว่าจะทำให้ผู้ซื้ออยู่ในร้านนานขึ้น มีเวลาเลือกของนานขึ้นด้วย” https://www.youtube.com/watch?v=1UZcXA9k0Q42.จังหวะ Tempoรู้หรือไม่ว่าจังหวะก็มีส่วนในการกระตุ้นผู้บริโภค ไม่ใช่แค่จังหวะเพลงเท่านั้น แต่รวมไปถึงประสาทสัมผัสของเรา เช่นการตบมือเข้าจังหวะ หรือจังหวะอื่น ๆ ที่หลากหลายเป็นต้นขอยกตัวอย่างบทวิเคราะห์ ของ Ronald E. Milliman การใช้ประโยชน์จากประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของเรา เพื่อตอบสนองผู้บริโภค จังหวะเร็วเกินไปมีผลให้ลูกค้าตัดสินใจในการเดินดูของเร็วขึ้น และอาจจะซื้อหรือไม่ซื้อ ส่วนจังหวะช้าลงทำให้ลูกค้าเดินดูนานขึ้น ก็ส่งผลต่อยอดขายที่มากขึ้น จากการที่ลูกค้าค่อย ๆ เดินเลือกผลิตภัณฑ์https://www.youtube.com/watch?v=ZM4J2BoBmuA 3.ประเภท Genreประเภทของเพลงก็สำคัญไม่แพ้ที่กล่าวมาข้างต้น เพราะแนวเพลงควรดูให้เหมาะกับและสินค้าที่เราจะขาย ตัวอย่างเช่น ถ้าเราเปิดเพลงแจ๊สคลาสสิคในร้านไวน์ ทำให้ลูกค้าเลือกซื้อไวน์ตัวที่แพง ดื่มด่ำกับบรรยากาศ ให้อารมณ์ luxury ดูหรูหราดูแพง มากกว่าที่จะเปิดเพลง pop แบบร้านทั่วไปhttps://www.youtube.com/watch?v=53nwh1aHCU8สรุป ถ้าใครสนใจจะเปิดร้านค้าก็สามารถนำเทคนิคและองประกอบโดยรวมไปใช้กันได้นะคะ เพลงที่ใช้เปิดให้เหมาะสมแล้ว ยังต้องถูกลิขสิทธิ์ด้วย ซึ่งปัจจัยของเพลง เสียง จังหวะ และประเภทมีผลต่อการประกอบการขาย เพื่อสร้างบรรยากาศให้เราเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น และลูกค้าก็มีส่วนในการเพิ่มยอดขายให้กับเราได้เช่นกัน สำหรับวันนี้ขอบคุณค่ะ เครดิตภาพที่1. Anna Shvets by pexels , ภาพที่2. Esranur Kalay by pexels Youtube : Youtube ที่ 1. Tihanny Everything Music Background for Supermarket I Grocery Shop I Fresh & Happy VibesYoutube ที่ 2. Joy Mix How to Boost Sales - Shopping Mall Background Music Youtube ที่ 3. Relax Cafe Music Restaurant Music 10 Hours - Relax Instrumental Jazz for Dinnerคอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน