การออกแบบภาพถ่ายโดยมีประเด็นที่ว่าให้ภาพนั้นบอกเรื่องราวด้วยตัวของภาพถ่ายเองนั้น เป็นอะไรที่ท้าทายช่างภาพ หรือคนถ่ายภาพเป็นอย่างมาก เพราะกว่าที่จะได้ภาพที่ต้องการหรือแม้กระทั่งคนอื่นมองภาพแล้วรู้สึกประทับใจ ยังเป็นไปได้อยากยิ่ง แถมยังต้องมีการลงทุนอะไรอีกมากมายอย่างเช่น การซื้อกล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพที่มีคุณสมบัติพร้อม เงินที่เป็นค่าใช่จ่ายในการเดินทาง เวลาที่ใช้ในการสร้างสรรค์ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่มุมมองในเรื่องของรายได้หรืออาชีพเท่านั้น แต่ยังต้องมีในรักและความอดทนอย่างมหาศาลอีกด้วย เมื่อได้กล้องถ่ายรูปมาแล้วช่างภาพจะต้องเรียนรู้วิธีการใช้กล้องถ่ายภาพ ภาคใต้คุณสมบัติต่าง ๆ ที่กล้องจะให้มา อีกทั้งจะต้องเรียนรู้เทคนิคและวิธีการถ่ายภาพการจัดวางองค์ประกอบเรียนรู้เรื่องแสงการควบคุมโทนสีของภาพเพื่อให้ได้ภาพออกมาได้ตามความต้องการ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากในการถ่ายภาพโดยเฉพาะแนวทางของช่างภาพว่ามีความถนัดและใจรักที่จะเรียนรู้ไปในแนวทางไหน ซึ่งในบทความนี้จะกล่าวถึงการถ่ายภาพแบบโรแมนตริก การถ่ายภาพแบบดราเมตริก เป็นการถ่ายภาพที่เล่นกับแสงและเงารวมทั้งโทนสีของรูปภาพ เพื่อให้ได้ภาพที่มีความน่าสนใจ หรือการให้ภาพนั้นบอกเล่าเรื่องราวด้วยตัวของมันเอง ผ่านทางสายตาของช่างภาพเองและผู้ที่ได้เห็นภาพ การถ่ายภาพดราเมตริกนั้นนอกจากจะช่วยบอกเรื่องราวของภาพถ่ายด้วยตัวของภาพถ่ายเองแล้ว ยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับวัตถุที่ถ่ายโดยเฉพาะภาพถ่ายแนวสินค้า การถ่ายภาพดราเมตริกนั้นสิ่งแรกที่ช่างภาพหรือผู้ถ่ายภาพควรที่จะเริ่มต้นก่อนกดชัตเตอร์คือ เมื่อเห็นวัตถุหรือสภาพแวดล้อมต่าง ๆ จะต้องจินตนาการออกแบบภาพถ่ายของตนเองว่าอยากให้ภาพถ่ายออกมาในรูปแบบลักษณะแบบใด มีการจัดวางองค์ประกอบภาพแบบไหน แล้วต้องการใช้โทนสีอะไร จากนั้นจะต้องสังเกตในเรื่องของแมวแสงที่ตกกระทบและลอดผ่านวัตถุนั้น ๆ ว่าในแต่ละตำแหน่งมีความมืดความสว่างที่ตกกระทบต่อวัตถุมากน้อยแค่ไหน จากนั้นจึงตั้งค่ากล้องของตัวเองและลงมือถ่ายภาพ การถ่ายภาพดราเมตริกโดยส่วนมากแล้วจะเป็นภาพถ่ายสีขาวดำ โดยเฉพาะภาพถ่ายวัตถุเก่า ๆ อย่างเช่น หม้ออลูมิเนียม เครื่องปั้นดินเผา บ้านไม้แนวย้อนยุค เป็นต้น สิ่งเหล่านี้เมื่อถ่ายทอดภาพออกมาเป็นโทนสีขาวดำแล้ว จะชวนให้นึกถึงภาพที่ตัวเองเคยใช้สิ่งของเหล่านี้ในอดีตมาก่อนนั่นหมายความว่า คุณสมบัติของภาพเป็นตัวกระตุ้นความคิดในสมองของผู้พบเห็นและทำให้ผู้พบเห็นภาพนั้นเกิดจินตนาการในสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้วในอดีตนั่นเอง การถ่ายภาพแนวดราเมตริกไม่ได้เป็นเพียงแค่ภาพถ่ายขาวดำเท่านั้นที่จะสื่ออารมณ์ของภาพได้ ภาพสีก็เช่นเดียวกัน อย่างเช่นใบไม้แห้ง แก้วใส่น้ำที่เป็นสี หรือแม้กระทั่งข้าวของเครื่องใช้อื่น ๆ ถ้าเรารู้จักคุมโทนสีให้เป็นในลักษณะคล้ายกับฟิล์มเนกาทีฟ ออกโทนแดงหรือโทนเหลืองแล้วปรับค่ากล้องรูรับแสงให้แคบลง เขาสามารถออกแนวย้อนยุคหรือหรือสร้างเรื่องราวของภาพได้ไม่แพ้กับฟิล์มขาวดำ และอีกแนวคิดหนึ่งที่บ่งบอกความเป็นดราเมตริก ในภาพถ่ายได้อย่างแท้จริงก็คือ การถ่ายวัตถุที่มีพื้นหลังเป็นสีดำ ลึกซึ่งอาจจะใช้โหมดโหมดสีวีลเวียร์ ซึ่งให้สีของภาพมีความสดตัดกับพื้นหลังสีดำ ก็ถือว่าเป็นภาพถ่ายดราเมตริกได้เหมือนกัน ถ่ายภาพดรามาติกอาจเป็นการตอบโจทย์ของการสื่ออารมณ์ของภาพได้อย่างมีมิติแต่ในขณะเดียวกัน การถ่ายภาพแนวโรแมนติกนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นที่ยอมรับของคนที่ได้เห็นภาพในลักษณะนี้เสมอไป โดยเฉพาะเรื่องการถ่ายสินค้า ต้องดูว่าสินค้านั้นเป็นสินค้าประเภทไหนเหมาะเหมาะกับการถ่ายเพื่อสื่ออารมณ์ไปในทิศทางใดอย่างเช่น ถ้าจะถ่ายเครื่องสำอาง จะต้องเน้นในลักษณะสีสดพื้นหลังสว่าง และภาพจะต้องออกโทนเขียว เพื่อความสบายตาและความสะอาด ทำให้การถ่ายภาพแนวดราเมตริกนั้นอาจไม่ตอบโจทย์กับผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ แต่ในทางกลับกันถ้าวัตถุหรือสินค้าใดที่ออกแนวย้อนยุค หรือแม้แต่ภาพโบราณวัตถุหรือโบราณสถานหรือการโฆษณาแหล่งท่องเที่ยว สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ หรือในพิพิธภัณฑ์ แม้แต่ผลิตภัณฑ์บางอย่างเช่นเครื่องปั้นดินเผา สินค้าย้อนยุคต่าง ๆ ที่ขายในตลาดโบราณตามต่างจังหวัด การถ่ายภาพแนวดาวมิติสำหรับผลิตภัณฑ์และสถานที่ที่กล่าวมานี้ ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ของการถ่ายภาพได้เป็นอย่างดี ภาพถ่ายโดย พงศธร อิ่มอุดม ผู้เขียนบทความ