เมนูประหยัด "นิลทอด แดดเดียว" เมนูนี้เป็นเมนูที่เราเริ่มจากการปรับตัว ให้เข้ากับยุคเศรษฐกิจ.... และสถานการณ์ที่บังคับ ให้เราต้องประคับประคองชีวิตเราให้อยู่รอดไปให้ได้โดยไม่ต้องรอเงินช่วยเหลือ 5000 บาท ก่อนขอความช่วยเหลือจากใคร เราควรฝึกช่วยเหลือ และดูแลตัวเองให้สุดความสามารถเสียก่อน ดังหลักธรรมคำสอนของ "พระสัมมาสัมพุทธเจ้า" ได้ตรัสกล่าวคำสอนว่า "อัตตาหิ อัตโนนาโถ" ตนนั้นแลเป็นที่พึ่งแห่งตน ชีวิตเราต้องเข้าสู่ช่วงประหยัดอย่างจริงจัง เริ่มจากการคิดหาวิธี จะยืดอายุของอาหารที่มีอยู่ โดยใช้ต้นทุนน้อยที่สุด เราว่าสิ่งที่เราจะประหยัดได้ ก็คือ เมนูประหยัด "นิลทอด แดดเดียว" เริ่มต้นจากสมัยเด็ก ๆ คุณแม่ทำให้กิน คือ ปลาแดดเดียว สมัยไม่มีตู้เย็นก็ทำปลาแดดเดียวใส่มุ่งตาข่าย แขวนไว้ในบ้าน พอมีแดดก็เอาออกมาผึ่งแดดเรื่อย ๆ ให้แห้งดี เก็บไว้ได้นานพอดู เริ่มจากทำกินกันเองในบ้าน หรือทำกับข้าวไปถวายพระบ้าง ตามงานบุญต่าง ๆ ค่ะ แต่ก็ไม่เคยจะเอาออกไปขายที่ไหนเลย พอคนอื่น ๆ ได้ลองชิมแล้ว เค้าก็ว่าอร่อยบางคนมาสั่งจองไว้ให้คุณแม่เราทำให้ เป็นการตากแดดเสร็จก็ชั่งกิโลขายให้เลย ไม่ได้มีแพ็คเกจ หรืออะไรที่สวยหรู จากประสบการณ์ในสมัยเด็ก ๆ แล้วเราคิดว่า เรารอดแน่ ๆ เราเลยคิดอยากจะทำ เมนูประหยัด "นิลทอด แดดเดียว" เอาไว้กินบ้าง อย่างน้อยก็ทำให้เรารู้จัก กรรมวิธีการถนอมอาหาร และการยืดอายุอาหาร หรือสินค้าอย่างถูกต้องขึ้นมาบ้าง โดยแหล่งความรู้ และข้อมูลที่ได้ มาจากครูคนแรกในชีวิตของเรานั้นเอง ก็คือคุณแม่ของเรานี้เอง ไม่ว่าจะเป็น ปลาแดดเดียว ปลาร้า ปลาจ่อม เราก็สามารถทำเก็บไว้ใช้ในการประกอบอาหารต่อไปได้ สามารถเก็บที่อุณภูมิปกติได้หลายวันด้วย หรือจะแช่ตู้เย็นก็ได้เป็นเดือน เป็นปีกันเลย โดยเฉพาะแช่ไว้ในช่องฟิต ด้วยแล้วยิ่งดี ในปัจจุบันมีถุงสูญญากาศ ก็จะยืดอายุได้นานมากยิ่งขึ้น วันนี้เรามาแบ่งปันความรู้ ในเรื่องการทำำ "ปลาแดดเดียว "ให้เพื่อน ๆ ได้ทดลองทำไว้กินเองที่บ้านกันนะคะ หรือใครสนใจจริง ๆ ก็สามารถทำขาย เป็นการหารายได้เสริมอีกทางได้เลยนะคะ สูตรเรามีมาตรฐาน สะอาด ถูกหลักอนามัย ปลอดภัย ต่อผู้บริโภค แน่นอนค่ะ เย็นนี้ มีโอกาส ได้ซื้อปลานิลสด ๆ จากตลาดสดใกล้บ้าน ตัวขนาดเล็กพอเหมาะแก่การทำปลาแดดเดียว ปลานิลที่ซื้อมาจากแม่ค้า เป็นชาวบ้านหาปลา ซึ่งนาน ๆ จะโผล่ มาขายที พอเห็นก็ต้องรีบซื้อเอาไว้ เพราะในหัวคิดเราคือ ต้องเอามาทำ "ปลาแดดเดียว" เก็บไว้สำหรับประกอบอาหาร ไว้รับประทานหลายวัน ได้มาเป็นตัว ๆ สด เราก็ต้องวานให้แม่ค้าจัดการให้เสียก่อน แล้วมาชำแหละเอง ตากแห้งแดดเดียวเอง จึงเสร็จสิ้น ง่ายไม่หลายขั้นตอน สมัยเด็กเคยถามคุณแม่ว่า ทำยังไง ไม่ให้ปลา มันเน่า และมีหนอนขึ้น แถมยังได้รสชาติเค็มพอดี ๆ ออกมาอร่อยเลย เมื่อรับประทานกับข้าว จริง ๆแล้ว คุณแม่เราใช้อยู่แค่เกลือ ในตอนนั้นคือ เกลือสินเธาว์นะคะ เป็นเกลือที่ได้จากดินเค็มเกิดตามดินโป่งหัวไร่ปลายนา หรือบริเวณใกล้ ๆ กับต้นไม้ที่ชอบดินเค็ม เกลือจะมีสีขาวขุ่นเม็ดขนาดใหญ่ ปัจจุบันนี้ บางคนอาจจะไม่รู้จักด้วยซ้ำ และคุณแม่นำกระด้งใบใหญ่ ที่ทำจากไม้ไผ่ และทำตะข่ายมุ้งเป็นกรอบสี่เหลี่ยมยาว เอาไว้ตากปลาโดยเฉพาะ ปัจจุบันเรียก ตะข่ายมุ้ง ว่า" ตะแกรงตากอาหาร" ซึ่งหาซื้อได้ง่ายมาก ๆ มีหลายชั้น ด้วยราคาก็ถูก ชีวิตในกรุงเทพ ค่อนข้างลำบาก ซึ่งอะไร ๆ ก็ไม่เหมือนกับต่างจังหวัดของเรา สำหรับเราไม่ซื้อตะแกรงตากอาหาร ด้วยปัจจัยหลายประการ เช่นสถานที่ไม่เหมาะสม แถมต้องประหยัด เราทำง่าย ๆ เอาปลาใส่ถาดที่มีแล้วเอาออก ผึ่งแดดแรง ๆ ตอนเที่ยงวัน แหม!!! แมลงวัน ที่ไหนจะกล้าต่อให้หัวเขียว หัวขาวมันก็ตอมไม่ได้ เพราะร้อนจัดเกิน กับสภาพอากาศของเมืองไทย แถมยังเราอยู่ชั้น14 ของตึกอพาร์ทเม้น เราอยู่สูง แมลงวันคงไม่กล้า "เล่นของสูง"(บิ๊กแอส Big.Asss) แน่ ๆ คนเกิดทันอย่างเราคงเข้าใจ มีดนตรีในหัวใจ "รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง รู้ว่าเหนื่อยถ้าอยากได้ของที่อยู่สูงยังไงจะขอลองดูสักที..." มาเข้าเรื่อง วัตถุดิบและส่วนผสมที่สำคัญเลยละกันค่ะ วัตถุดิบสำคัญ และเครื่องปรุง อันดับแรก เรามาเตรียมส่วนที่สำคัญกันก่อนเลยนะคะ 1.สิ่งแรกที่ต้องมี นั้นก็คือ ปลาสดในวันนี้ใช้ ปลานิล นะคะ 2. เกลือไอโอดีนป่นละเอียด 3.ผงปรุงรส 4.น้ำเปล่าสะอาด ปล. อย่าลืมบั้งเนื้อปลาตามขวางสวย ๆ ใช้แบบห่าง ๆ หรือจะถี่ ๆ ก็ได้เพื่อให้เกลือซึมเข้าเนื้อปลา และเวลาทอดจะไม่ติดกระทะ แถมยัง เป็น การเพิ่มความสวยงาม ประหยัดเวลาในการทอด น้ำมันไม่กระเด็น มาใส่เราด้วยน๊า ต่อไปเราก็เริ่มกันเลย กับเมนูประหยัด "นิลทอด แดดเดียว" 1. ขั้นตอนแรก การล้างทำความสะอาด “ปลานิล” อุปกรณ์ที่จำเป็น คือกะละมัง และตะกร้า ตะแกรง น้ำสะอาด ๆ เพราะงานนี้ล้างทิ้งอย่างเดียวค่ะ เปิดน้ำใส่กะละมังให้เต็ม แล้วเอามือทั้งสองข้างถู ล้างปลาเบา ๆ โดยเฉพาะท้องปลานะคะ ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จากนั้นนำปลามาล้างกับน้ำเกลืออีกรอบ ตอนนี้เนื้อปลาจะใสสะอาด ไม่มีกลิ่นคาวปลาเลยนะคะ เพราะ ว่า เจ้า“ปลานิล” จะ มีกลิ่นคาวปลาค่อนข้างแรงพอสมควร ค่ะ เราต้อง ยอมเสียเวลาหน่อย เพราะหากรีบ เวลานำไปตากแดด จะมีกลิ่นอันไม่พึ่งประสงค์ 2.พอล้าง“ปลานิล” เสร็จแล้วจะดูขาวผ่องน่ากินขึ้นมาทันที่ จากนั้นให้บั้งเนื้อปลาตามขวางสวย ๆ นำปลานิล มาล้างด้วยน้ำเกลืออีกรอบ พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ 3.เตรียม "ปลานิล"ที่ได้แล้ว หมักกับเกลือ ผงปรุงรส คลุกเคล้าให้เข้าเนื้อปลา นั้นเอง ค่ะ 4.เมื่อ ทุกอย่างพร้อม ปลาพร้อม ตะข่ายตากปลาพร้อม (เราใช้ฐานรองแทน) ก็ให้วาง "ปลานิลแดดเดียว"เรียงใส่ฐาน หรือตะข่าย แล้วนำออกตากแดดตอนเที่ยงได้เลยค่ะ 5.เมื่อ "ปลานิลแดดเดียว" แห้งดีแล้ว เราลองนำมาทอดประกอบอาหารกันได่เลยนะคะ "ปลานิลแดดเดียว" มีกลิ่นหอม มาก ๆค่ะ เป็นอันจบ ตักใส่จานถ่ายรูปโชว์ด้วยนะคะ ก่อนรับประทาน คนอื่นจะได้ชื่นชมฝีมือเรา หลังจากนั้น ก็ได้เวลาหม่ำแล้วค่ะ กินกับข้าวสวยร้อน ๆน้ำพริกสักถ้วย อร่อยนักแล มื้อนี้ฟินเวอร์ กับเมนูประหยัด "นิลทอด แดดเดียว" เกร็ดความรู้ ล้างปลาให้สะอาดที่สุด โดยเฉพาะบริเวรท้องของปลา บั้งเนื้อปลาตามขวาง ผสมเกลือ รสดี ไม่มีแมลงวันตอมเลยค่ะ รสชาติก็อร่อยกลมกล่อมด้วย ที่สำคัญอย่าให้ขี้ปลาและเลือดของปลาติดหลงเหลือ ไปกับปลาที่นำไปตากแดดเด็ดขาด เพราะแมลงวันชอบ และจะเข้าใกล้ได้ง่าย ๆ Cr.รูปภาพทั้งหมดโดยเจ้าของบทความ