เมื่อเราอยากลดน้ำหนักแต่ก็ยังไม่สามารถขาดหวานได้ จะทำอย่างไรเมื่อร่างกายต้องการความหวานแบบคลีน ๆ ก็ต้องสรรหาเมนูที่ทานแล้วให้ความอ้วนน้อยลงไปสักนิดก็ยังดี จริงมั้ยคะทุกคน อิอิ และแล้วเมื่อต้องกักตัวอยู่บ้าน วิญญาณความเป็นเชฟในตัวก็ถูกปลุกขึ้นมา เพราะว่าเบื่อกับการที่ต้องสั่งเดลิเวอรี่แล้วจ้า มา ๆ เข้าครัวทำเองกันดีกว่า รับรองว่าสนุกสนานและได้เพิ่มทักษะความเป็นแม่บ้านแม่เรือนกันอีกเยอะเลยทีเดียว เมนูของหวานวันนี้ที่เราภูมิใจนำเสนอก็คือ “สังขยาชาไทยไร้แป้ง” นั่นเองค่ะ ช่วงนี้ใคร ๆ ก็ฮิตทานชากันใช่มั้ยคะ ด้วยความหอมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของชาไทย ทำให้หลาย ๆ คนติดใจจนนำไปทำเป็นเมนูต่าง ๆ อีกมากมาย และเราก็เช่นกันค่ะ เมื่ออยากทานของหวานที่มีความหอม สังขยาชาไทย นี่แหละที่ตอบโจทย์ แถมขั้นตอนการทำก็ง่ายมาก ๆ เลยค่ะ วัตถุดิบหลักมีเพียงไข่ ชาไทย และกะทิ เท่านั้นเอง ไข่เราใช้ไข่ไก่นะคะ เนื่องจากหาซื้อได้ง่ายและราคาไม่แพงค่ะ กะทิ เราก็เลือกซื้อแบบกะทิกล่องมาค่ะ สะดวก รวดเร็ว แต่ถ้าใครชอบความหวาน มัน มากกว่านี้ แนะนำให้ซื้อกะทิสดจากตลาดเพื่อคั้นน้ำกะทินะคะ จะเพิ่มความหวาน มัน ได้อีกค่ะ ส่วนชาไทยนั้น เราใช้ชาตรามือค่ะ ซึ่งเราติดใจในกลิ่นและรสชาติของชาไทยนี้มาก จึงอยากจะนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในวันนี้ค่ะ ขั้นตอนการทำก็เริ่มจากเราชงชาไว้ก่อนนะคะ ให้ได้น้ำชาปริมาณ 200 ml. ความเข้ม-อ่อนของชาตามใจชอบได้เลยนะคะ แต่แนะนำว่าอย่าชงชาเข้มมากไปค่ะ สังขยาอาจจะขมได้ จากนั้นก็ผสมไข่และกะทิเข้าด้วยกันและนำไปปั่นให้เป็นเนื้อเดียวกันค่ะ จากนั้นเทลงหม้อผสมกับชาไทยที่เตรียมไว้ และนำไปตุ๋นในน้ำเดือดได้เลยค่ะ โดยเราใช้ผ้ารองใต้หม้อไว้นะคะ หม้อจะได้ไม่เลื่อนค่ะ สามารถเติมน้ำตาลได้เล็กน้อยตามชอบนะคะ เราต้องคนสังขยาตลอดนะคะ ป้องกันสังขยาไหม้ค่ะ และคนไปในทางเดียวกัน เราใช้เวลาในการตุ๋น 30 นาทีค่ะ จะพบว่าเนื้อสังขยาจะเริ่มข้นขึ้น เราสามารถพักให้เย็นและนำไปปั่นต่อเพื่อให้เนื้อเนียนขึ้นได้นะคะ แต่ถ้าชอบทานแบบเนื้อหยาบก็ตั้งพักให้เย็นและรับประทานได้เลยค่ะ เราทำเก็บไว้ในกระปุกแบบนี้ ใครอยากทานก็สามารถมาตักทานได้สะดวกมาก ๆ เลยค่ะ รสชาติดี ไม่มีแป้ง และไม่หวานมากด้วยนะคะ ใครว่าขนมหวานทานแบบคลีน ๆ ไม่ได้ ::เครดิตภาพปกและรูปภาพ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน::